กลิ่นลมเย็น ติดปลายจมูก
|
กลิ่นลมเย็น ติดปลายจมูก
คำตอบในการสัมผัส และโอกาสได้สัมผัสชีวิตด้วยกลิ่นรับรู้ ล้วนเป็นสิ่งละเอียด และเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับชีวิต ที่จะมีไว้สำหรับเตือนตัวเอง ตักเดือนแต่ละก้าวแต่ละขณะชีวิต ด้วยเสียงภายในตัวเอง หลังหลบจากร้านละแวกพระอาทิตย์ ในค่ำคืนวันศุกร์ต่อย่ำรุ่งวันเสาร์ เพราะไม่อาจอยู่ให้เกินเลย กลับมีคำตอบประหลาดเกิดขึ้นในการรับรู้ เป็นคำตอบซึ่งเกิดขึ้นในรูปที่ไม่ตั้งใจ หลังนั่งละเลียดเสียงเปียโน จากฝรั่งผู้บ้าค้างคาวและชีววิทยา ผู้ใช้ชีวิตท่ามกลางการมอง ถาม เงียบ และละเลียดเปียโนทุกครั้งที่อัดเรื่องราวไว้ในใจ แต่คืนนี้แปลกไป พร้อมเสียงตอบคำจากเจ้าของร้าน คาดว่าคืนนี้มะลิจะอารมณ์ดี และเมา ชายหนุ่มแดนใต้จากฝรั่งเศส ที่ได้รับการตั้งชื่อเลียนสำเนียงคำฝรั่งเศส ผู้นั่งถามถึงเพลงบัวลอยของคาราบาว ก่อนเริ่มต้นเล่นเปียโนอย่างระเริงใจ พลิ้วและนุ่มไปกับอารมณ์ตัวเอง ข้ามจังหวะบ้าง ไล่เรื่องให้เร็วขึ้นตามที่อยากปล่อยอารมณ์ ไม่ผิดไม่ถูก และไม่มีข้อกำหนด มีแต่คนนั่งฟังเสียงเปียโน กับรอยยิ้ม คำตอบจากชีวิตหลังนั่งคุยกับเพื่อนมากมาย
เป็นทั้งความสนุกสนาน เป็นทั้งการปลอบใจ เหนื่อยนั่งถาม ย้อนหลังหาว่าคิดอะไรกับชีวิตอยู่ มองถึงสิ่งฝังในใจว่าคลี่คลายเพียงใด มีคำมากมายจากเพื่อนใหม่เพื่อนเก่า ทั้งนายเก่าที่กลายเป็นเพื่อนสนิท ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่นั่งถามไถ่กันไปมา ทยอยมาทยอยกลับ สลับอารมณ์จากสนุกสนานเฮฮา คุยสารทุกข์สุกดิบ ถามเรื่องงานเรื่องหนี้เรื่องประกันชีวิต กระทั่งนั่งเงียบฟังเสียงเปียโน หลังตึงหัวด้วยรีเจนซีและไฮเนเกน
ในค่ำคืนนี้ คำตอบของเพื่อนก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่คำตอบประหลาดจากปลายจมูก กลับประหลาดใจมากกว่า หลังออกพ้นร้าน กระทั่งเดินมากดเงินเติมกระเป๋า คำตอบสะกิดใจ ติดอยู่ปลายจมูก รับรู้ เพียงแต่ยังไม่เริ่มต้นจะคิดอะไร กระทั่งเมื่อนั่งรถลงปิ่นเกล้า ก่อนเดินผ่านไปรถขายหมูปิ้ง คำตอบนั้นก็ยังตามมาวนเวียน เมื่อได้กลิ่นของลมเย็น ลมเย็นของสายฝนจากที่ไกลๆ รวมกับสายเย็นของหน้าหนาว รับรู้ว่าน่าจะมีลมเย็น รับรู้เพียงว่า มีกลิ่นของความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิต
มีเสียงรำพึงกับตัวเองว่า เออ ใกล้จะมีลมหนาวอีกครั้งแล้ว
|
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น