จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินกับคนไทย ธนาคารออมสินกับประเทศไทย นั้น ถือได้ว่าอยู่คู่กันมากว่าร้อยปี ความผูกพัน ความใกล้ชิด ความเป็นพี่เป็นน้อง เป็นญาติสนิทที่อยู่คู่กับคนไทย เติบโตมาพร้อมกับประเทศไทย คอยจูงมือกันเดิน คอยพยุง คอยดึงมือเมื่อเพื่อนล้ม และเป็นอะไรหลาย ๆ อย่าง
หลายคนในที่นี้คงจะจำกันได้ถึงภาพวันเก่า ๆ ที่เมื่อตอนเด็ก ๆ จะนำกระปุกออมสินมาแคะ มาเเกะด้วยความเสียดายกระปุกอันเก่า แต่ด้วยความรักในการออมจึงต้อง เอาเงินในกระปุกที่สะสมมาจากค่าขนม มาฝากธนาคาร แล้วได้ก็กลับไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกระปุกออมสินอันใหม่
ภาพของวันเด็ก จะเห็นเด็ก ๆ มากันเต็มธนาคารจนแน่นไปหมด มากันเพื่อที่จะฝากเงินแล้วรับของขวัญของที่ระลึก และภาพต่าง ๆ ที่ยังอยู่ในความทรงจำอีกมากมาย
.............................................................
วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางย้อนเวลากลับไปรำลึกถึง " ธนาคารออมสิน " จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ผมคิดว่า ทุกท่านในที่นี้คงจะมีความทรงจำในวัยเด็กเกี่ยวกับธนาคารออมสินกันทุกคน...ผมเชื่ออย่างนั้นครับ อิอิ ( ฮั่นแน่ รอยยิ้มของวัยเด็กของคุณ เปื้อนอยู่เต็มหน้าแล้วครับ อิอิ )
พระมหากษัตริย์ผู้ทรงต่อตั้งธนาคารออมสิน
“แบงค์ลีฟอเทีย” ต้นแบบการออม
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงเห็นคุณประโยชน์ของการออมทรัพย์ เพื่อให้ประชาชนรู้จักการประหยัดการเก็บออม มีสถานที่เก็บรักษาทรัพย์สินเงินทองของประชาชน ให้ปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย จึงทรงริเริ่มจัดตั้งคลังออมสินทดลองขึ้น โดยทรงพระราชทานนามแบงค์ว่า “ลีฟอเทีย” ในปี พ.ศ. 2450 เพื่อทรงใช้ศึกษาและสำรวจนิสัยคนไทยในการออมเบื้องต้น พระองค์ทรงเข้าใจในราษฎรของพระองค์และทรงทราบดีว่าควรใช้กุศโลบายใดอันจะจูงใจคนไทยให้มองเห็นความสำคัญของการออม
กำเนิดธนาคารออมสิน
ยุคที่ 1
คลังออมสิน สังกัดกรมพระคลังมหาสมบัติ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ พ.ศ. 2456 – 2471 เพื่อให้คลังออมสินได้เป็นประโยชน์เกื้อกูลเผื่อแผ่ไปถึงราษฎรโดยทั่วกัน พระองค์จึงได้ทรงพระกรุณาฯ โปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการจัดตั้ง “คลังออมสิน” ขึ้น ในสังกัดกรมพระคลังมหาสมบัติ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ และพระราชทานพระบรมราชานุญาตประกาศใช้ “พระราชบัญญัติคลังออมสิน พ.ศ. 2456”
ประกาศใช้ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456
ยุคที่ 1 คลังออมสิน ยุคสังกัดกรมพระคลังมหาสมบัติ
กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ พ.ศ. 2456 – 2471
......................................................
ยุคที่ 2
กองคลังออมสิน สังกัดกรมไปรษณีย์โทรเลข กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม พ.ศ. 2472 - 2489 ต่อมาในปี พ.ศ. 2472 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงมีพระราชดำริเห็นควรโอนกิจการคลังออมสินให้้ไปอยู่ในความรับผิดชอบของกรมไปรษณีย์โทรเลข กิจการได้เริ่มแพร่หลายและเป็นที่นิยมของ ประชาชนอย่างกว้างขวาง ซึ่งนับได้ว่ากิจการคลังออมสินในช่วงระยะนี้เติบโตขึ้นมาก จึงเรียกได้ว่าเป็น“ยุคแห่งความก้าวหน้าของการคลังออมสินแห่งประเทศไทย”
ยุคที่ 2 กองคลังออมสิน ยุคสังกัดกรมไปรษณีย์โทรเลข
กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม พ.ศ. 2472 - 2489
(สำนักงานใหญ่คลังออมสินของรัฐบาลแห่งแรก ตั้งอยู่ที่เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าฯ ฝั่งพระนคร เปิดทำการวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2477)
......................................
รากฐานความมั่นคง
ยุคที่ 3
ธนาคารออมสิน สังกัดกระทรวงการคลัง พ.ศ. 2490 – ปัจจุบัน ต่อมาภายหลังเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง รัฐบาลได้เห็นถึงคุณประโยชน์ของการออมทรัพย์และความสำคัญ ของคลังออมสินที่มีต่อการพัฒนาประเทศ จึงได้ยกฐานะของคลังออมสินขึ้นเป็นองค์การของรัฐ มีฐานะเป็นนิติบุคคล ดำเนินธุรกิจภายใต้ “พระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489” มีการบริหารงานโดยอิสระ ภายใต้การควบคุมของ คณะกรรมการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง เริ่มดำเนินธุรกิจในรูปธนาคารออมสินตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2490 และคำว่า “คลังออมสิน” ก็ได้เปลี่ยนเป็นคำว่า “ธนาคารออมสิน” นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ยุคที่ 3 ธนาคารออมสิน ยุคสังกัดกระทรวงการคลัง พ.ศ. 2490 – ปัจจุบัน
สำนักงานใหญ่ธนาคารออมสินในปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่ ถ.พหลโยธิน บริเวณสี่แยกสะพานควาย เปิดทำการเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2509
...............................................
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้เปลี่ยนแปลงปรับปรุงพัฒนาระบบการดำเนินงานและการบริการ ในทุกด้านอย่างเป็นพลวัตร ธนาคารจึงได้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อรักษาฐานลูกค้ามากกว่า 26 ล้านบัญชี โดยระดมทรัพยากรในทุกด้านเตรียมการเพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์และรูปแบบการให้บริการที่ทันสมัยและครบวงจรยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการที่สอดคล้องต่อความต้องการและครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ และทุกช่วงวัย
ปัจจุบันธนาคารออมสินมีฐานะเป็นนิติบุคคล เป็นรัฐวิสาหกิจ ในรูปของสถาบันการเงินที่มีรัฐบาลเป็นประกัน อยู่ภายใต้ การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีสาขา 588 สาขาทั่วประเทศ มีอายุครบ 93 ปี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2549 ที่ผ่านมาี้
ขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารออมสิน
.............................................
ปัจจุบันหลายท่านอาจจะยังคิดว่า ธนาคารออมสิน เป็นธนาคารเด็ก เก่า ไม่พัฒนา แต่ถ้ามองดูดีดีแล้วจะพบว่า ปัจจุบันนี้ธนาคารออมสินได้เปลี่ยนแปลงไปมากถึงมากที่สุด ซึ่งปัจจุบันธนาคารออมสินถือได้ว่าเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนรูปลักษณ์ เปลี่ยนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนเป็นที่ให้การยอมรับจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เป็นแบบอย่างให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ทำและพัฒนาตาม แต่จะว่าไปแล้วก่อนหน้านั้นทางธนาคารเองก็อาจจะด้อยเรื่องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับธนาคารเท่าที่ควร แต่ปัจจุบันนี้ก็ได้ปรับปรุงและพัฒนาทั้งด้านการประชาสัมพันธ์ไปจนถึงพัฒนาในทุก ๆ ด้าน
ด้วยบทบาทหน้าที่ จุดยืนของธนาคารออมสินเองซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้วจะเห็นได้ชัดเจน ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลนโยบายการเงิน ธนาคารออมสินดูแลนโยบายการคลัง ณ ปัจจุบันนี้เพื่อการพัฒนาขีดความสามารถของธนาคารออมสินเอง ทางธนาคารฯ ได้แก้ไขข้อจำกัดด้านกฎหมาย พรก.ธนาคารออมสิน ให้สามารถทำนิติกรรมต่าง ๆ ได้กว้างและมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทย ตามเจตนารมย์ที่ได้ตั้งไว้
การเปลี่ยนแปลงและการขยับตัวของธนาคารออมสินนั้นเป็นที่จับตามองจากนักการเงินการธนาคาร และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ด้านเศรษฐกิจ และเกิดผลกระทบกับสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่อยู่ในประเทศไทย จนมีหนังสือพิมพ์ติดตามข่าวและให้ฉายาของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นว่า " ออมสิน ไม่ใช่ยักษ์หลับอีกต่อไป " เมื่อธนาคารออมสินมีการเปลี่ยนแปลงในด้านการพัฒนาในส่วนต่าง ๆ เกิดขึ้น สถาบันการเงินต่าง ๆ ก็ย่อมที่จะพัฒนาแข่งขันกันตามรูปแบบระบบเศรฐกิจแบบทุนนิยม
ด้วยปณิธานของธนาคารออมสินในปัจจุบันคือ
เป็นสถาบันที่มั่นคงของประเทศ เพื่อการออม
การลงทุน การสร้างเศรษฐกิจชุมชน
การพัฒนาประเทศ และการบริการทางการเงินครบวงจร
แก่ประชาชนทุกระดับทั่วประเทศ
ด้วยความที่ตัวผมเองชอบศึกศาประวัติศาสตร์ ตัวผมเองจึงรู้สึกได้เลยว่า " ธนาคารออมสิน " คือพระเอกอีกคนหนึ่ง ( อาจเป็นพระเอกที่ไม่ค่อยจะชอบพูดเท่าไหร่ครับ ) ที่ออกมาช่วยประเทศชาติในทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ เกิดความไม่มั่นคง เช่น ครั้งหนึ่งในอดีตในยุคที่ประเทศชาติเกิดวิกฤติทางการเงินครั้งแรก ( ขออนุญาตไม่เอ่ยว่าเป็นยุคของใครเป็นนายกนะครับ เพื่อความสมานฉันท์ ) รัฐ ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนข้าราชการทั้งประเทศ รัฐไม่มีเงินที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาในด้านต่าง ๆ ธนาคารออมสิน ด้วยการที่ยึดมั่นนโยบายการคลังของประเทศก็ได้ออกมาช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน จนประเทศชาติได้เติบโตและพัฒนามาจนถึงปัจจุบันนี้
และล่าสุด วิกฤติทางการเงินของประเทศในปี 2540 ธนาคารออมสินเองก็ได้ออกมาช่วยประคับประคองประเทศให้พ้นอันตราย รวมทั้งได้ช่วยเหลือสถาบันการเงินหลัก ๆ ในประเทศไม่ให้ปิดตัว เข้าไปช่วยเหลือประคับประคองให้รอดพ้นวิกฤตินี้ และที่จะขาดไม่ได้คือพลังหัวใจของคนไทยทุกคนที่ร่วมกันฝ่าฟันมาด้วยกันจนถึงทุกวันนี้
....................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป
โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ... ว่า ...
โปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ
เข้ามาอ่าน ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ
คือสมัยเด็กๆ จำได้ ว่า สถานีวิทยุจะมีการเปิดเพลงของ ธนาคารออมสิน ในตอนเช้าๆ อยากได้เนื้อเพลงจัง ที่จำได้มีอยู่ 2 เพลงที่ยังติดอยู่ในความจำบางส่วน
นกน้อยบินลอยร่อน สร้างคอนเอาไว้อยู่กิน
หนูน้อยต้องคอยถวิล หมั่นฝากออมสินไว้กินต่อไป
เงิยทองเป็นของหายาก........................ เนื้อต่อมาจำไม่ได้แล้ว จำได้แต่ว่าเพราะมาก
ประโยคที่เป็นเพลงของธนาคารออมสินที่จำได้อีกคือ
"ออมสิน ออมสิน ออมสิน เก็บออมไว้กินวันหน้า"
สวัสดีครับน้องออมสิน เอ๊ย สายลม
บทความนี้กระตุกให้คิดถึงตอนเป็นเด็ก
ข้อคิดของคุณ tiya ที่เอาเพลงออมสินสมัยก่อนทำให้นึกภาพชัดขึ้น ที่ผมยังจำได้กระท่อนกระแท่นคือ
นกน้อยบินลอยร่อน จะสร้างรังนอนเอาไว้อยู่กิน หนูน้อยต้องคอยถวิล หมั่นฝากออมสินไว้กินต่อไป
เงินทองเป็นของหายาก จงอย่าจ่ายมากอยากซื้อร่ำไป เงินทองเก็บออมเอาไว้ เพราะเมื่อเติบใหญ่จะมีใช้มีกิน
ว่าแต่ว่า ใครนะที่เปลี่ยนลุ๊คออมสินมาเป็นสี ชมพู-ทอง เนี่ย....เช้ย..เชย...อิอิ
แล้วเวลาเปิดธนาคาร ใครนะที่บอกให้พนักงานเข้าแถวยกมือไหว้ลูกค้า รู้ไหม ตกใจนะตัวเอง...นึกว่าเข้าผิดที่....ฮา
แล้วเปลี่ยนสโลแกนหรือยังล่ะ จะฝากจะถอนเอาหมอนไปด้วย น่ะ...พนักงานออมสินคนหนึ่งบอกว่าเปลี่ยนแล้ว.....เปลี่ยนเป็น จะฝากจะถอนมีหมอนให้ด้วย.....ฮิฮิ....
มุขพวกนี้ผมเอาไปบรรยายให้พนักงานออมสินฟัง ฮากันน้ำตาเล็ด....
อืม....
ขอบคุณค่ะ
ที่ทำให้ทราบที่มาของชื่อ ออมสิน เพิ่มเติม นอกจากจากรู้ว่าเกิดวันออมสิน แล้ว
ที่แน่ๆธนาคารออมสินแก่กว่าตั้ง 70ปี นับจาก 1 เมษา 2456
อยากจะความกรุณาช่วยอธิบายความหมายของตราธนาคารออมสินให้ด้วยจะได้มั๊ยคะ คือ ต้องทำรายงานเกี่ยวธนาคารออมสิน จึงอยากทราบความหมายของตราธนาคารออมสินด้วยค่ะ ขอขอบคุณนะคะ
อยากทราบประวัติความเป็นมาของธนาคารออมสินเพราะอยู่คู่เมืองไทยเรามานานมากแล้วและหนูยังมีโอกาสได้เข้าไปฝึกงานที่ธนาคารออมสินด้วยสนุกมากเลยค่ะหนูเลยอยากจะเข้าไปสมัครทำงานเป็นพนักงานธนาคารออมสินค่ะ
คนรุ่นปู่ย่าถึงจะทันครับ กระปุกออมสินของธนาคารออมสิน เปลี่ยนแบบทุกปี เด็กๆจะได้รับการปลูกฝังให้อดออม ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ด้วยกุศโลบายกระปุกออมสินแบบต่างๆที่สวยงาม เพลงออมสินที่หลายท่านได้กล่าวถึงเป็นที่ติดหูของเด็กสมัยนั้น
“นกน้อยบินลอยร่อน เจ้าสร้างรังนอนเอาไว้อยู่กิน หนูน้อยต้องคอยถวิล หมั่นฝากออมสินไว้กินต่อไป เงินทองเป็นของหายาก จงอย่าจ่ายมากอยากซื้อร่ำไป หมั่นถนอมเก็บออมเอาไว้ เมื่อเติบใหญ่จะมีใช้มีกิน” สมัยนี้เป็นยุคบริโภคนิยม มีแต่สนับสนุนให้ใช้เงินให้เป็นหนี้ เพราะธนาคารได้ดอกเบี้ยจากผู้กู้ เพลงนี้คงไม่มีการเปิดให้เข้าหูเด็กๆอีกแล้วครับ