อิทธิพลของ "ลักษณ์" ในชีวิตประจำวัน 1
เคยไหมคะ ที่เวลานัดกันหลายๆ คน แล้วมีคนมาสาย ทำให้เกิดความขัดแย้งกัน ไม่เข้าใจกันในกลุ่ม "กลายเป็นเรื่อง" ไปซะ จากเรื่องเล็กๆ
ปรากฎการณ์อย่างนี้ ที่มักขัดแย้งกันเพราะอิทธิพลของลักษณ์ ที่แต่ละคนแสดงออกมาปะทะกันนั่นเอง
ด้วยคนแต่ละลักษณ์ มักมีแว่นประจำตัว ไว้มองโลกตามแบบที่ตัวเองเป็น พอมารวมกันหลายคน หลายลักษณ์ ก็เลยเกิดปรากฎการณ์ "หลายคน ยลตามช่อง" ค่ะ แต่มันเป็นคนละช่องกัน ก็เลยทะเลาะกันซะเนี่ยะ
ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎี "นพลักษณ์" ที่คนแต่ละลักษณ์ มักมีช่องส่วนตัวของใครของมัน เอาไว้ส่องเป็นประจำ เราเรียกว่า "ความใส่ใจ"
คนลักษณ์ 1 จะใส่ใจกับความ ถูก ผิด ควร ไม่ควร .... ในกรณีนัดกัน คนลักษณ์ 1 จะมีแนวโน้มหงุดหงิดกับคนที่มาไม่ตรงเวลา ด้วยการอธิบายว่า มันไม่ควรให้คนอื่นรอ.... นัดเวลาไหน ก็ควรมาก่อนเวลา หรือพอดีเวลา ก็ยังพอรับได้ หากมาช้ากว่าเวลานัด จะเป็นเหตุให้คนหนึ่งโกรธ หรือสัญญากันไว้อย่างไร ก็ควรรักษาสัญญา คือ จะมารวมพลกันก่อน ก็ควรมา ไม่ใช่มาบอกว่า จะตามไปทีหลัง เป็นต้น
คนลักษณ์ 2 จะใส่ใจในสัมพันธภาพกับเพื่อน เพื่อนมาช้า ก็ให้อภัยเพื่อนได้ ลึกๆ คือ ถ้าโกรธเพื่อน เพื่อนอาจจะไม่รักตนเอง ..... ดังนั้นจะถนอมน้ำใจเพื่อนที่มาสาย มาช้า หรือไม่มาเลยได้ ถ้าบอกว่าจะสาย ก็จะรอ ..... ซึ่งกรณีอย่างนี้ ก็จะทำให้ลักษณ์ 1 หงุดหงิดคนลักษณ์สองตามคนที่มาสายไปด้วย 5555
คนลักษณ์ 3 ใส่ใจเรื่องประสิทธิภาพ ... กรณีคนมาช้า ถ้าเรื่องงาน แล้วส่งผลกับงาน คน 3 จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก กับคนที่ ช้า สาย หรือ จะตามไปทีหลัง (ถ้ากระทบกับผลที่ตามมา) เพราะคนสามหลายท่าน มองว่า การไม่ตรงเวลา เท่ากับ ไม่มีประสิทธิภาพ แค่บริหารเวลาในการนัดแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไรฟะ ... ประมาณนี้ ...... แต่ถ้าการนัดนี้ไม่มีผลอะไรกับงาน กับภาพลักษณ์ความสำเร็จของคนสาม คนสามก็สามารถ ง่ายๆ อะไรก็ได้ กับคนที่ช้าได้
คนลักษณ์ 4 ใส่ใจกับเรื่องที่พิเศษ ไม่ธรรมดา ของตัวเอง กับเรื่องของคนอื่นนี่เดายากมากเลยว่าคนลักษณ์ 4 ใช้มาตรฐานใดอยู่ ถ้าลักษณ์ 4 อยู่ในภาวะลูกศร 1 .... ก็กลับไปอ่านลักษณ์ 1 นะคะ หรือ กำลังอยู่ในภาวะลูกศร 2 ก็เหมียนเดิม กลับไปอ่านลักษณ์ 2 ค่ะ
คนลักษณ์ 5 ใส่ใจกับเรื่องการสูญเสียพลังงาน เสียเวลา ก็จะมีแนวโน้มหงุดหงิด แต่อาจจะสังเกตยากกว่า คน 1 เพราะหน้าตาอาจไร้อารมณ์ กับคนมาสาย มาช้า หรือไม่มาตามนัด .... เสียเวลารอ เสียหลักการ (คนห้า ก็บ้าหลักการไม่แพ้คนหนึ่งเหมือนกัน) แล้วคนห้าก็จะเก็บเป็นข้อมูลว่า ยัยนี่สายประจำ คราวหน้า ถ้าจะนัดยัยนี่ ฉันจะนัดล่วงหน้าก่อนเวลานัดจริงครึ่งชั่วโมง... อะไรทำนองนี้ คือคิด ๆๆๆ กับสิ่งที่เผชิญอยู่ เพื่อไปใช้ในอนาคต .... ไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบัน (อันนี้แซวตัวเอง ที่เป็นคนห้า)
คนลักษณ์ 6 ถ้าเพื่อนมาช้า อาจจะจินตนาการไป เช่น รถชนหรือเปล่าหนอ ไม่สบายหรือเปล่า เป็นอะไรไปนะ ....หรือ เพื่อนไม่รักเราแล้วมั๊ง นัดเราแล้วไม่มาตามนัด หรือมาสาย เพราะไม่อยากเจอเราแล้วมั๊ง.... คิดไปต่างๆ นานา ในทางที่ไม่ค่อยโสภา ทั้งกับตัวเอง และคนอื่น ..... เพราะความใส่ใจ อยู่ที่เรื่อง การมองหาอันตราย หรือสิ่งซ่อนเร้นของเหตุการณ์
คนลักษณ์ 7 ความใส่ใจอยู่ที่ทางเลือก โอกาสที่จะสนุก สิ่งแปลกใหม่ ถ้าต้องรอเพื่อนที่ไม่มาตามนัด มาสาย หรือเดาไม่ถูกว่า ตกลงจะมาหรือไม่มา ก็แล้วแต่สถานการณ์ตอนนั้นว่า กำลังมีอะไรเล่น หรือคิดสนุกอยู่หรือเปล่า ถ้ามีก็รอได้ เพราะยังสนุกอยู่ แต่หากไม่มี ก็จะโกรธ เพราะอาจจรอความสนุกที่เป้าหมายของการนัดอยู่ แล้วมียัยคนไหนก็ไม่รู้มาทำให้เสียเวลา มาจำกัดอิสระ ต้องมาทนนั่งรอเนี่ยะ ...โกรธ ให้อธิบายเป็นเหตุผลก็พูดยาก แต่รู้ว่าโกรธ มันไม่ได้ดั่งใจตัวเองที่จะไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปเสียที อะไรทำนองนี้
คนลักษณ์ 8 ความใส่ใจอยู่ที่การควบคุม ความยุติธรรม ดังนั้นกรณีคนมาสาย เวลานัดกัน คนแปดก็จะโกรธ ไม่ยุติธรรมเลยที่ให้คนอื่นหลายๆ คนมานั่งรอคนคนเดียว ...ใช้ไม่ได้ ไม่รู้จักมีวินัยในตัวเองเล้ยยยย คนอะไร ...อารมณ์ประมาณนี้
คนลักษณ์ 9 เป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ ความใส่ใจก็ไปอยู่ที่คนอื่น ไปเข้าใจมุมมองของคนอื่นราวกับเป็นของตัวเอง ... เขามาสาย เขาก็อาจจะมีเหตุจำเป็น ก็รอหน่อย ไม่เสียหายอะไรนี่
คุณก็ลองคิดดูสิคะ ถ้าคน 9 ลักษณ์ นัดรวมพลกัน แล้วมีคนมาสาย จะมีปฏิกิริยาอะไรจากอิทธิพลของลักษณ์ของแต่ละคน ที่จะพุ่งออกมาใส่กันและกันบ้าง 555 มันส์พิลึก ....
ความขัดแย้ง มักจะเกิดจาก เรามีมุมมองที่แตกต่างกัน
กรณีที่แต่ละคนปล่อยให้ลักษณ์ทำงานโดยอัตโนมัติ (ภาษาธรรมะ เรียกว่า "ไม่รู้ตัว" หน่ะค่ะ) .... พฤติกรรมก็จะออกมาทำนอง เธอแหละผิด เพราะ........ (ตามเหตุผลที่ตัวเองยึดติดกับความใส่ใจในประเด็นนั้นๆ ). ... แล้วมันก็ทุกข์ทั้งตนเอง และผู้อื่น
..... แต่คนที่เจริญสติบ่อยๆ ก็จะมองโลกตามจริงมากขึ้น เวลาลักษณ์ตัวเองโพล่ออกมา ก็ตามรู้ตัวเองทัน ไม่ไปตัดสินคนอื่นตามที่ลักษณ์มันทำงาน
เอ้า... ท่านที่ศึกษานพลักษณ์มาแล้ว และแวะมาอ่าน มาช่วยดิฉันเขียนหน่อยว่า
ถ้าคนที่มาสายเป็น ลักษณ์ 1 จะมีพฤติกรรมอย่างไร ถ้าเป็นลักษณ์ 2-9 จะเป็นอย่างไร ..... เดี๋ยวไปหารางวัลมาแจก อิ อิ ....
ความเห็น (4)
คนลักษณ์ 2 ชอบมาสายไม่รักษาเวลากับเพื่อนฝูงคนสนิทค่ะ แต่กับคนแปลกหน้า คนไม่คุ้นเคย จะรักษาเวลามาก จะไปก่อนเวลาเพื่อมีเวลาเช็คสภาพตัวเอง555 ขำเนอะ
รู้สึกผิดทุกครั้งที่ให้เพื่อนรอ แต่จะขอโทษ(ประจบหรือเปล่า)ให้เพื่อนให้อภัยทุกครั้งไป จนเมื่อไหร่ที่เพื่อนประกาศว่าจะเลิกคบถ้าไม่เลิกพฤติกรรมนี้ นั่นแหละค่ะ ถึงได้พยายามแก้ไข ไม่อยากให้เพื่อนโกธรมั๊ง
ขอบคุณน้องผึ้งที่ช่วยมาตอบในฐานะคนลักษณ์ 2 ค่ะ
อยากฟังเจ้าของลักษณ์มาตอบเอง จะได้อารมณ์มากกว่าพี่นุชนั่งเทียนเขียนเยอะเล้ยยยย เวลาแปลงกายเป็นคนศูนย์หัวอื่นๆ ที่ไม่ใช่ 5 กะแปลงกายเป็นคนศูนย์ท้องหน่ะ ง่ายมาก
แต่เป็นศูนย์ใจนี่นะ เป็นเรื่องค่อนข้างยากสำหรับพี่นุชเลยหล่ะ 5555 ตอนนี้กำลังฝึกเอาปีกของตัวเอง (4) กระแซะเข้าไปในสวมจิตวิญญาณของคนศูนย์ใจอยู่จ้า
ปล.คำว่า "นั่งเทียนเขียน" ในที่นี้หมายฟามว่า ดิฉันไม่ได้เป็นคนลักษณ์นั้น แต่คอยจำขี้ปากเจ้าของลักษณ์ซึ่งเข้ารับการอบรม หรือเคยแลกเปลี่ยน พูดคุยประสบการณ์กันมา แล้วดิฉันจำมาเขียนจ้า ....
เพราะคนที่เป็นลักษณ์นั้นๆ พูด จะดีที่สุดในการศึกษานพลักษณ์ค่ะ
เพิมเติมจากคนลักษณ์7
เราคนลักษณื7 บอกตามตรงเลยว่าจะเลือกที่จะสายเป็นเรื่องๆ นัดไหนที่เราว่าน่าสนใจ (น่าสนุก)เราก็จะรีบๆไปรอเลย แต่ถ้านัดไหนน่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจ เราเองก็ไปสายสุดๆจนโดนบ่นประจำ แล้วเราก็รู้สึกสนุกกับการไปสายของเราด้วยนะ แบบว่าจะตื่นเต้นที่จะหาข้อแก้ตัวกับบรรดาเพื่อนๆของเราว่า เราไปทำอะไรมา ทำไมเรามาสาย หัวเราจะคิดไปเรื่อยๆถึงข้อแก้ตัวที่จะใช้กับเพื่อนๆ มันก็สนุกดีเหมือนกัน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่นัดนั้นสำคัญ จริงจัง เราเองก็ไม่เคยสายเพราะรูสึกว่าถ้าเราสายเราจะทำให้คนอื่นเสียหาย ซึ่งมันก็ไม่ค่อยดีอ่ะ
เห็นไหมคะ เจ้าของลักษณ์เข้ามาเขียนหน่ะ มันดีสุดๆ เห็นภาพสุดๆ ไปเลย
ขอบคุณ คุณpp นะคะ ที่ทำให้เห็นภาพ "ความใส่ใจ" ในเรื่อง "สนุก" ของคนลักษณ์ 7 มันทรงอานุภาพอย่างไร และมีอิทธิพลอย่างไรในชีวิตประจำวันของเรา ........ และที่สำคัญ หากเราเห็นแล้ว เราก็จะเห็นตามไปอีกว่า มันส่งผลกระทบกับคนอื่นอย่างไรด้วย
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ