สวัสดีค่า ห่างหายจากการเขียนบันทึกไปเสียนานมาก เนื่องจากภาระน้อยใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน อีกทั้งเป็นช่วงของการป่วยประจำปี (ป่วยทุกเดือนที่ 10... แปลกดีไหมคะ เป็นมา 3 ปี ติดกันแล้วค่า....555) ปีนี้หนักเอาการอยู่คะ ทำให้หัวตื้อๆ ไปหมด กะไว้ว่าจะเขียนบันทึกต้องนานแล้ว แต่ไม่ไหวจริงๆ (อันที่จริงก็คงเป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจนั้นแหละค่ะ...555) แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้วเลยมีไอเดียปิ๊งๆๆ ขึ้นมาบ้างคะ....
เข้าเรื่องดีกว่านะคะ หลังจากอารัมภบทมาพอสมควรแล้ว.... ช่วงก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์มาคะ เรื่องนี้ที่อยากไปดูในตอนแรกมีหลายสาเหตุอยู่คะ.... ไม่ว่าจะเป็นดาราดังมากความสามารถที่พาเหรดกันมาในหนังเรื่องนี้ หรือบทวิจารณ์ตามหนังสือที่ชื่นชมกันนักหนา หรือแม้แต่คำบอกเล่าที่พูดปากต่อปากกันมา ทำให้ตัดสินใจว่า "ไหน ฉันต้องพิสูจน์สักหน่อยแล้ว อยากรู้จริงๆๆๆ....." ด้วยเหตุนี้เลยได้ไปยลเรื่องนี้เลยคะ.....
STARDUST
ศึกอัศจรรย์ ปาฏิหาริย์รักจากดวงดาว....
เป็นเรื่องราวของความรัก และการผจญภัยที่ผสมผสาน Theme อันยิ่งใหญ่ และองค์ประกอบที่ช่วยจุดประกายจินตนาการที่ทำให้คนทุกๆ วัยตกหลุมรักเรื่องราวเทพนิยาย เรื่องราวที่คลี่คลายในทั้งสองด้านของจักรภพคู่ขนานที่ถูกแยกจากกันเพียงกำแพงหินกั้น......
กำแพงหินที่ว่าในเรื่องนั้น ได้กั้นดินแดนมหัศจรรย์สตอร์มโฮลด์ ออกจากหมู่บ้านวอลล์ หมู่บ้านที่พระเอกของเรื่องอยู่นั้นเองคะ.... พระเอกของเรา เค้าก็เกิดมาบนโลกนี้ได้ ก็จากการที่พ่อของเค้ากล้าที่จะท้าทายกฎหมู่บ้านกระโดดข้ามกำแพงนี้ออกไปนั่นเอง.......
และที่สำคัญไม่แพ้กันเรื่องราวทุกอย่างในเรื่องนี้คงจะไม่สามารถถูกร้อยเรียงออกมาเป็นเรื่องราว ประหนึ่งเทพนิยายได้ ถ้าพระเอกของเราไม่กล้าที่จะกระโดข้ามกำแพงที่ว่านี้ออกไป เช่นกัน......
“เจ้าข้ามกำแพงไปไม่ได้ ไม่มีใครข้ามกำแพงนั่นได้”
-- วิคตอเรียกล่าวกับทริสตัน ธอร์น
ประโยคที่หยิบยกมานี้เป็นประโยคที่ผู้หญิงอันเป็นรักแรกของพระเอกกล่าวไว้กับพระเอกคะ.... แต่ท้ายที่สุดเค้าก็กล้าก้าวข้ามคำพูดนี้ออกไป พบเจอกับเรื่องราวมหัศจรรย์ต่างๆ ที่ทำให้เค้าเปลี่ยนจากเด็กหนุ่มมาเป็นชายหนุ่มอย่างเต็มภาคภูมิคะ....
เรื่องราวอื่นๆ ในเรื่องนี้สนุก น่ารัก ตลกดีคะ ใครที่ชอบหนังแนวแฟนตาซีดูสบายๆ ก็แนะนำนะคะ.... แต่ที่อยากเอามาพูดถึงกันในวันนี้ ก็คงเป็นเรื่องของ "กำแพงใจ" ที่ว่านี่แหละคะ...
หลายครั้งนะคะ ในชีวิตของคนเราที่ตั้ง กำแพงใจบางอย่างไว้ทั้งที่อาจจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ที่รู้ตัวก็เหมือนเป็นข้ออ้างของความกลัวบางอย่างทำให้ไม่กล้าที่จะทำสิ่งนั้นๆ ด้วยความที่ไม่อยากผิดหวัง หรือกำแพงบางอย่างก็ก่อร่างสร้างตัวขึ้นด้วยความไม่รู้ตัวคะ......
หรือบางครั้งก็เป็นสังคมที่กำหนดนิยามหรือค่านิยมบางอย่างขึ้น ที่ทำให้บางคนไม่พร้อมที่จะก้าวข้ามสิ่งที่สังคมตั้งค่าขึ้นมา... และยอมที่จะทนอยู่ดีกว่าฝ่าด่านการตั้งค่าต่างๆ ที่สังคมกำหนดไว้
มีเรื่องราวหนึ่งคะ.... ที่ผู้เขียนบันทึกชื่นชมอย่างมากในความมุ่งมั่นที่จะเดินตามความฝันของเด็กนิสิตคนหนึ่งคะ.... บางครั้งนะคะ ความฝันในวัยเด็ก หลายคนอาจมองว่าก็เป็นเรื่องของเด็กๆ ที่มีแต่เด็กๆ เท่านั้นที่จะมัวฝันหวานอยู่ บ้างบอกว่าความฝันกับความจริงมันต่างกัน บ้างก็ว่าเราไม่โชคดีทุกคนหรอกที่จะได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก ที่ตัวใฝ่ฝัน เป็นอาชีพ แต่นิสิตคนที่ว่านี้ท้าทายทุกคำพูดนั่นเลยคะ.....
นิสิตคนนี้ เค้ามีความมุ่งหวังและใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่ก่อนมาเป็นนิสิตทันตแพทย์แล้วคะ ว่าเค้าอยากที่จะเป็น "สจ๊วต" (พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน...) แต่เหตุผลที่เลือกมาเรียนทางทันตแพทย์นี้ก่อนแล้วค่อยไล่ตามความฝันเป็นเช่นไร ผู้เขียนบันทึกไม่แน่ใจนัก แต่ที่อยากชี้ชวนคิดกับทุกท่านคือ ความมุ่งมั่น ความรัก ความศรัทธาที่พร้อมจะก้าวเดินตามความฝันตั้งแต่วัยเยาว์ไม่ว่าจะต้องรอ หรือใช้เวลานานเท่าไร ก็ไม่คิดที่จะทิ้งหรือล้มเลิกสิ่งที่ตั้งใจไว้ ......
การสมัครเป็น "สจ๊วต" ตามที่นิสิตคนนี้เล่าไม่ง่ายเลยคะ มีหลายด่านให้เค้าต้องฝ่าฟัน และจำนวนผู้แข่งขันก็ไม่น้อยเลย อัตราการแข่งขันก็สูงลิบ บางทีคุณสมบัติที่ดีพร้อมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้เป็น...... ในขณะที่นิสิตคนนี้เล่าเรื่องราวของการฝ่าฟันนี้ สายตาในขณะเล่าไม่มีวี่แววของการเหนื่อยล้าหรือย่อท้อให้เห็นหรือให้สัมผัสได้เลยคะ ตรงกันข้ามสายตากับเป็นประกายแห่งความหวัง และสดชื่นมากๆคะ....... ถึงตอนนี้ตามที่เค้าเล่าจะยังไม่ทราบผล แต่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็อยากบอกนิสิตคนนี้เหลือเกินว่า "เค้าได้ชนะแล้วคะ" เค้าชนะทั้งกำแพงในใจตัวเอง (เรียนทันตแพทย์ก็ต้องเป็นทันตแพทย์สิ...) ชนะกำแพงของสังคม (อาชีพทันตแพทย์นี่มั่นคงน่า....) และเค้าก็ชนะใจผู้เขียนบันทึกนี้ไปเต็มๆ เลยคะ.......
ขออวยพรให้น้องนิสิตที่มุ่งมั่นคนนี้ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้เขียนบันทึกนี้ ได้สมหวัง สมดั่งที่เค้าพยายามและไม่
ล้มเลิกไปตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว.......
ผู้เขียนบันทึกตั้งใจไว้เหลือเกินว่าจะพยายามนำเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจ ในการก้าวข้าม "กำแพงใจ" ของน้องนิสิตคนนี้ ไปบอกต่อกับเด็กๆ อีกหลายคนที่อาจจะขาดแรงใจบางอย่างในการเรียน และการใช้ชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้ เพื่อหวังว่าอาจจะทำให้อีกหลายคนเกิดแรงบันดาลใจบางอย่าง ในการเลือกทำบางสิ่งก็เป็นได้คะ.......