....
....
ฉัน......ไม่ใช่ช้างป่า
ฉัน......ไม่ใช่ช้างบ้าน
ฉัน......ไม่ใช่ช้างเมือง
ฉัน......ไม่ใช่ช้างเร่ร่อน
ฉัน......คือช้างดารา
ดูเหมือนว่า......ฉันสร้างปัญหาให้สังคม
แต่ก็ดูเหมือนว่า....คนเรียกร้องหาฉันทุกครั้งที่ถึงเวลาจัดงานประจำปีของจังหวัด....ทุกทุกเดือนพฤศจิกายน ประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือน.......
แล้วท่านทั้งหลายอยากเห็นฉันเป็นอะไรในสายตา
โปรดฟังอีกครั้ง.....ฉันไม่ได้สร้างปัญหาให้สังคม
ช้างเลี้ยงคน...คนเลี้ยงช้าง
สวัสดีค่ะน้องอ๊อด naree suwan
สวัสดีค่ะ ทะเลดาว
สวัสดีครับ
ทุกข์ที่อยู่ได้ ทุกข์ใจอยู่ยาก
คนชอบ ช้างไม่ชอบ
ช้างไม่ตอบ คนไม่ตอบ
ช้างชอบ คนไม่ชอบ
เลยไม่ตอบทั้งคนทั้งช้าง
ทุกข์ที่อยู่ได้ ทุกข์ใจอยู่ยาก คนชอบ ช้างไม่ชอบ ช้างไม่ตอบ คนไม่ตอบ ช้างชอบ คนไม่ชอบ....เลยไม่ตอบทั้งคนทั้งช้าง
ช้างคงจะงงด้วยค่ะ..ทำไมต้องเดินขอให้คนซื้ออ้อยให้กินทีละ 10 บาท ได้อ้อย 1 มัดน้อยๆ
เดินกี่วันถึงจะได้กินอิ่มกระเพาะ
วันนี้มีโอกาสเจอน้องแอน กำลังอุ้มท้องค่ะ...(ทุกปีจะมีช้างอุ้มท้อง..และตกลูกช่วงงานแสดงช้างประจำ) ก็เลยควักตังค์อุดหนุนอาหารช้าง..เพราะว่าคนเลี้ยงช้างเรียกให้ช่วยซื้อด้วยคำว่า "คุณนาย"..???
ขอบคุณค่ะ
มาดูช้าง
สวัสดีค่ะครูโอ๋ อาจารย์ โกศล คงสมปราชญ์
อยากให้ช้างอยู่เป็นที่เป็นทาง และให้คนไปชมเอง ไม่อยากให้พามาเดินเพ่นพ่านแบบนี้ค่ะ เขาตัวหนักและอุ้ยอ้ายค่ะ เกรงจะมีอันตรายกับตัวเขาได้
เข้าใจตั้งชื่อนะคะ ช้างดารา
เคยแต่ได้ยินคำว่า ช้างเต้นระบำ
"พลายปัญญา" กับ "พลายบารมี" ของกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยก็กำลังจะเริ่มเป็นช้างเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้เต้นระบำเท่าไหร่นัก คือในความหมายว่า อุ้ยอ้าย
สวัสดีครับ
@@@...ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ ๒๐๐ กว่าปีที่ผ่านมาในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาอมรินทร์ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยาช้างเผือกสำคัญแตกโรงหนีเข้าป่ามาทางเมืองพิมาย
พระองค์จึงโปรดฯ ให้ทหารออกติดตาม จนกระทั่งถึงเขตที่ชุมชนชาวกูย (กวย) อาศัยอยู่ ซึ่งชาวกวยกลุ่มนี้เป็นพวกที่มีความชำนาญในการคล้องช้างและจับช้างอย่างยิ่ง
ในที่สุดก็สามารถติดตามช้างเผือกจนพบและนำกลับสู่กรุงศรีอยุธยา ความดีความชอบในครั้งนั้น ส่งผลให้หัวหน้าชาวกูยที่เป็นคณะติดตามช้างได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
พร้อมกับโปรดฯ ยกบ้านให้เป็นเมืองและหนึ่งในบรรดาหัวหน้าชาวกูยก็คือ “เชียงปุม” ซึ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “หลวงสุรินทร์ภักดี” และต่อมา ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์ จางวาง” ผู้เป็นเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์
จากอดีตสู่ปัจจุบันลูกหลานชาวกูยยังคงสืบทอดมรดกอันล้ำค่าจากบรรพบุรุษ นั่นคือ “การคล้องช้าง”
และการเลี้ยงช้างเสมือนหนึ่งสมาชิกในครอบครัว ทำให้ชาวกูยแห่งเมืองสุรินทร์มีความผูกพันแนบแน่นกับสัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดในโลกนามว่า “ช้าง” เป็นเวลาช้านาน
ปี ๒๔๙๘ ถือว่าเป็นปีแห่ง การชุมนุมช้างของชาวกูยอย่าง ไม่ได้ตั้งใจก็ว่าได้ ซึ่งการชุมนุมช้างในครั้งนั้น เกิดจากข่าวที่ว่าจะมีเฮลิคอปเตอร์มาลงที่บ้านตากลาง (เป็นหมู่บ้านของชาวกูย เลี้ยงช้าง ตั้งอยู่ที่ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์)
ชาวบ้านจึงชักชวนกันไปดู ในสมัยนั้นพาหนะที่ใช้กันโดยทั่วไปของชาวกูยก็คือช้างซึ่งถูกฝึกมาเป็นอย่างดี แต่ละคนแต่ละครอบครัวก็พากันนั่งช้างมาดูเฮลิคอปเตอร์ พอไปถึงจุดที่เฮลิคอปเตอร์จอด ปรากฏว่าช้างที่ไปรวมกันนั้นนับได้กว่า ๓๐๐ เชือก ทำเอาคนที่มากับเฮลิคอปเตอร์ตกใจและแปลกใจมากกว่า ชาวบ้านเสียอีก
เหตุการณ์ชุมนุมช้างอย่างไม่ได้ตั้งใจในปี ๒๔๙๘ ทำให้ผู้คนที่ทราบข่าวต่างพากันสนใจกันเป็นจำนวนมาก และในปี ๒๕๐๓ อำเภอท่าตูม ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านช้างได้มีการเฉลิมฉลองที่ว่าการอำเภอใหม่ นายวินัย สุวรรณประกาศ ซึ่งเป็นนายอำเภอในขณะนั้นได้เชิญชวนให้ชาวกูยเลี้ยงช้างทั้งหลาย ให้นำช้างของตนมาจัดแสดงให้ประชาชนได้ดูได้ชมกัน
เนื่องจากไม่สามารถจะไปคล้องช้างตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้อย่างเคย อันเนื่องมาจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ
การแสดงในครั้งนั้นด้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะมีการแสดงคล้องช้างให้ดูแล้ว ยังมีการเดินขบวนแห่ช้าง การแข่ง วิ่งช้าง และในกลางคืนก็ได้มีงานรื่นเริงมีมหรสพต่างๆ ตลอดคืน ซึ่งใครจะคาดคิดว่าจากงานเฉลิมฉลองที่ว่าการอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งในถิ่นทุรกันดารของภาคอืสานเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๓ จะกลายมาเป็นงานประเพณีของชาติที่โด่งดังไปทั่วโลก
นับต่อเนื่องมาจวบจนปัจจุบัน ประเพณีการแสดงของช้างได้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลาร่วม ๕๐ ปี แล้ว
ถ้าเป็นคนก็ถือว่าย่างเข้าสู่วัยกลางคนก็ไม่ผิดเท่าใดนักสุรินทร์ จังหวัดที่เคยเงียบเหงาในอดีต ได้ถูกชาวกูยและช้างสร้างให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างน่าภาคภูมิใจ วีรกรรมของชาวกูยปัจจุบันไม่ได้แตกต่างจากบรรพบุรุษเลยแม้แต่น้อย
(ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก http://www.kradandum.com/chang/round_01.htm)
"ช้างเลี้ยงคน...คนเลี้ยงช้าง"
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ ธ วั ช ชั ย
โดยส่วนตัว ผมและครอบครัวเอ็นดูช้างมาก ลุก ๆ ก็ชอบบังคับให้ผมเป็นช้างทุกวัน โดยเฉพาะเจ้าจุกชอบมาก ขี่หลังและคอผมทุกวัน ถ้าไม่ยอมให้ขี่ก็จะไม่ยอมอาบน้ำ...
.....
ทุกครั้งที่เจอช้าง เราจะไม่ลังเลที่จะซื้อกล้วย, แตง, อ้อยให้ช้าง โดยไม่สนใจว่า ช้างเลี้ยงคน - คนเลี้ยงช้าง เพราะเหนือสิ่งอื่นใด คนอยู่ช้างก็อยู่ ....
เคยพูดจริง ๆ แล้วว่า หากโชคดีถูกหวย จะเหมาสวนอ้อยให้ช้างกิน แต่ชีวิตผมก้ไม่เคยซื้อหวยเลยแม้แต่ครั้งเดียว....
.....
สำหรับผมแล้ว... ช้าง ไม่ได้สร้างปัญหาให้คน - สังคม ครับ
Dear Sir
First of all, I would like to introduce myself
My name is Ken Sakburapa, I was born at surin, and now I am is Automotives Engineer of Thai summit company.
Yes, I am Thai people and speaking our local language "Kamer
กึดด็อลเซราะเยิงยางจนับเน้อ....ปูปัยแย็ยตา แมโอวบองปะโอน
งานช้างชนำนิ๊ ขมาทน็องเนืองปรังโมเทวเสราะเยิงเน้อ......
กะแม็ยพะเล็กเมล์โมรัวขล่ะเน้อ
อรกุลอย่างจะเริญ
เคน ศักดิ์บูรพา