เมื่อวันเสาร์ที่ 27-10-2550 เป็นอีกวันหนึ่งที่เป็นความทรงจำที่สำคัญ
ยิ่งในชีวิต เพราะว่ามี งาน 2 งานที่ได้ไปร่วม งานแรกเป็นงานแสดง
ดนตรีของลูกชาย CAMP ซึ่งเรียนเปียนโนโดยปกติแล้วทางโรงเรียนก็
จะจัดให้เด็กได้ฝึกแสดงออกในช่วง ดนตรีเที่ยงวันที่โรงเรียนจัดครั้งนี้
CAMP มีความกังวนอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากการที่ไม่ค่อยได้ซ้อม
เห็นอาการของเด็ก 7 ขวบ ที่ไม่อยากแสดงเอาเลยแล้วยิ่งก่อนที่จะ
แสดงครูที่สอนก็ได้ให้ออกมาซ้อมก่อนเพื่อจัดคิว แล้วก็เล่นผิดจำไม่
ได้ เอาๆ C POSITION อยู่ตรงไหนลืมแล้ว...ลืมแล้วได้ซ่อมมาหรือ
เปล่าอย่าให้เสียชื่อครู แน็ท นะ เลยพาไปซ้อมก่อนเล่น น้อง แคมป์
ไม่เป็นไรหรอกลูกเล่นธรรมดาตามที่ลูกเคยเล่นนั่นแหละพ่อเชื่อว่าลูก
ทำได้สบายมากเพราะว่ามันอยู่ที่นี่ของเราว่าแล้วก็เอามือของลูกวาง
ทาบที่หน้าอกซ้าย หากเราคิดว่าเราทำได้เราก็ทำได้สบายมาก หากเรา
คิดว่าเราจะผิดเราก็จะผิด ฉะนั้นลูกไม่ต้องกังวนเลย และแล้ววันนั้น
เหตุการณ์ต่างๆก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี โดยส่วนตัวผมไม่รู้หรอกว่า
ลูกเล่นถูกหรือเล่นผิดเพราะว่าไม่มีความรู้เลยดูก็ไม่เป็น
ส่วนอีกงานหนึ่งก็คืองานเปิดตัวหนังสือ บันทึกช่วยหน่อยเปลี่ยนไต
เป็นการเขียนบันทึกของหน่อยในช่วงระยะเวลาที่หน่อยต้องฝ่าฟันช่วง
เวลาชีวิต.....ที่มีค่ามากสำหรับคนทุกๆที่จะสามารถเรียนรู้ถึง
ประสบการณ์เหล่านี้ได้ ในงานนี้ได้ความรู้เพิ่มเติมขึ้นอีกจากคุณหมอ
สุขฤทัยของมูลนิธิโรคไต ว่าการบริจากร่างกายนั้นสามารถช่วยชีวิตคน
ไข้อื่นๆได้ถึง 9 ชีวิต คือ ตา 2 ,ปอด 2 ,ตับอ่อน 1,ตับ 1,หัวใจ 1,ไต 2
รวมแล้วเป็น 9 ชีวิตแต่การเขียนบันทึกเรื่องราวการเป็นโรคไตของ
หน่อย น่าจะช่วยชีวิตของผู้คนที่อ่านและดูแลด้านสุขภาพของตัวเอง
และคนรอบข้างได้อีกมากมายเป็นร้อยเป็นพันชีวิต จึงเป็นหนังสือดีอีก
เล่มหนึ่งที่ควรอ่านเป็นอย่างยิ่ และในครั้งนี้ตัวหน่อยเองก็ยังได้บริจาก
เงินค่าต้นฉบับให้กับมูลนิธิโรคไต เพื่อให้มูลนิธิได้นำไปช่วยเหลือคน
ไข้รายอื่นๆอีก ได้รู้เรื่องของหน่อยที่ไม่ค่อยได้รู้อีกไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
ของการซื้อเสื้อราว ซึ่งในช่วงวัยรุ่นผมเองก็เป็นสมาชิกของเสื้อราวคน
หนึ่งเหมือนกัน ส่วนมากในช่วงนั้นจะซื้อจากสถานีรถไฟที่สุราษฏร์ธานี
ราคาปกติจะอยู่ที่ 5-10 บาท/ตัว กางเกงดีๆหน่อยก็จะอยู่ที่30-40 บาท
ก็เป็นความสุขและความท้าทายเล็กๆ หน่อยชอบเดินทางโดยการโบก
รถ ผมเองก็เช่นกันและจำได้ว่าได้โบกรถกับหน่อยจากพะเยาไป
สงขลา เพื่อไปเยี่ยมค่ายอาสาของ มอ.หาดใหญ่ และก็เป็นการเดิน
ทางที่ทำให้ผมได้พบกับเจ้าสาวของผมในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนั้นแล้วยังได้พบกับเพื่อนๆอีกหลายๆคน โดยเฉพาะสุวิชา
นนท์ ซึ่งไม่ได้เจอกันเลยนานมากกว่า 20 ปี ก็ได้มาพบในงานครั้งนี้
ดีใจและมีความสุข โดยส่วนมากแล้วข่าวของเพื่อนๆก็มักจะได้จากการ
ถามกันไปเป็นทอดๆตรงบ้างไม่ตรงบ้างก็ว่ากันไปแต่การได้พบกับ
เพื่อนทุกครั้งก็มีความอบอุ่นใจเสมอ วันนั้นเราลาจากกันด้วยการกอด
กันเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกที่ดี เป็นการให้ความอบอุ่นแก่กันและกัน
อยากบอกเพื่อนว่า ใจเราอยู่ใกล้กันตลอดเวลา
มาเชียร์ น้องแคมป์จ้า...ตื่นเต้นพอๆกับ ป้าหน่อยเลยคะ....งานวันเดียวกันอีก
ขอบคุณ เบิร์ดและวิทย์ ที่มาเยี่ยม หน่อยกับจืด ทุกช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้วันเวลาที่ยากลำบาก...
วันงาน หน่อยว่า คุณหมอสุขฤทัย พูดดีมากๆ ได้ความรู้เรื่องโรคไต ในแง่มุมที่มากขึ้น และการบริจาคอวัยวะอย่างมากเลย