ไปตกปากรับคำคุณท้องฟ้าว่าจะเขียนเรื่องการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวาน ทั้งๆที่ไม่ใช่หมอรักษาโรค แต่เป็นหมอความ ฮ่าๆ ...คุณท้องฟ้าบอกว่ามี ๓ ต.๑ ห. สำหรับ ห.นั่นไม่ต้องห่วงเพราะดูแลอย่างดี อิอิ เหลืออยู่แค่ ๓ ต. คือ ตา ไต และ ตีน เอิ้กๆๆ.....
สำหรับตานั่นพอรู้ว่าต้องหมั่นคอยดูแลสุขภาพถ้ามีอาการผิดปกติต้องรีบพบแพทย์ เพราะถ้าเบาหวานขึ้นตาอาจทำให้ตาบอดได้ สำหรับผมตอนนี้หมอแนะนำว่าควรตรวจตาปีละครั้ง ตรวจไปแล้ว ๑ ครั้งหมอบอกว่าปกติดีทุกอย่าง พูดถึงเรื่องตา เวลาดื่มกาแฟก็ควรจะต้องระวัง เพราะดื่มกาแฟมากๆอาจทำให้ตาบอดได้ เพราะช้อนกาแฟอาจทิ่มตาได้..ฮา..
มีคำถามว่า ทำไมยายชอบให้ตาดื่มกาแฟ..... ตอบ เพราะจะทำให้ ตา..แข็ง (ผมไม่ได้คิดอย่างอื่นเลยนะ อิอิ)
สำหรับไตก็ต้องระวังเรื่องเบาหวานลงไต เพราะไตมีหน้าที่คัดกรองของเสียในเลือดออกมาผ่านไปทางการฉิ้งฉ่อง แล้วดูดซึมสารที่เป็นประโยชน์กลับเข้าไป สารที่ว่าก็มีโปรตีนอยู่ตัวหนึ่งที่เรียกว่า อัลบูมิน กลับเข้าสู่กระแสเลือด ถ้าไตปกติก็ดูดซึมได้หมด ถ้าไตผิดปกติก็ดูดซึมได้ไม่หมด ผมก็ได้ข้อสรุปว่าไอ้เบาหวานมันต้องอยู่ตรงกลางๆแน่เลย เพราะมันปีนไปขึ้นที่ตาก็ได้ มันไต่ลงมาที่ไต และ ตีนก็ได้ อิอิ แสดงว่ามันต้องอยู่ที่พุงถ้ากินเข้าไปเยอะมันก็จะอาละวาด ถ้ากินเข้าไปน้อยๆมันก็จะสงบเสงี่ยมเจียมตน ฮ่าๆๆ
วันนี้จะเน้นไปที่ตีนหรือเท้า เราดูเหมือนจะไม่ค่อยได้เน้นความสำคัญไปที่เท้ากันสักเท่าไร ทั้งๆที่ความจริงแล้วคนที่เป็นเบาหวานมีโอกาสเกิดแผลมากกว่าคนทั่วไปถึง ๒๕ เท่า และคนที่ถูกตัดขาเพราะเบาหวานมีเยอะมาก แต่สามารถป้องกันได้ ผมอ่านนิตยสารเบาหวานเขาบอกว่า แผลที่เท้าของคนเป็นเบาหวานจะมี ๒ สาเหตุ คือ ๑.การขาดเลือด กรณีเส้นเลือดไม่ดีมีการตีบตัน กับ ๒.มีอาการเท้าชาไม่มีความรู้สึก เกิดจากแรงกดบางจุด เช่นคนที่เป็นตาปลา หากเป็นคนปกติจะรู้สึกเดินแล้วเจ็บ แต่คนที่เป็นเบาหวานจะชาไม่เจ็บ พอเดินมันก็จะเกิดแรงกดซ้ำๆ ทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือดและอาหารไปเลี้ยง แล้วมันก็จะเสียใจ จากนั้นมันก็จะน้อยใจ แล้วในที่สุดมันก็จะขาดใจ เนื้อเยื่อตรงนั้นมันก็จะตายกลายเป็นผี เอ๊ย แผล
คราวนี้เราก็คงต้องมาเอาใจใส่กับเท้าหรือตีนของเราอย่าให้เกิดแผลกดทับ รองเท้าที่ใส่ก็ต้องดูให้มันพอดีๆอย่าให้หลวมหรือคับจนเกินไป เพราะหลวมเกินไปอาจเสียดสีจนเกิดเป็นแผลได้ คับเกินไปก็เกิดการเสียดสีจนเกิดแผลได้เช่นกัน ผู้ป่วยที่เท้าชาก็อาจเกิดปัญหารองเท้าหลุดอยู่บ่อยๆ ก็มักจะใช้เท้าจิกรองเท้า ซึ่งเขาบอกว่าอาจจะเกิดแผลที่ปลายนิ้วได้ สำหรับผมใส่รองเท้าหุ้มส้นขนาดพอดีกับเท้าไม่คับไม่หลวมจนเกินไป แต่เนื่องจากผมเป็นคนเท้าใหญ่เวลาถอดรองเท้าในงานพิธีต่างๆ พอเดินมาที่รองเท้ามักจะมีคนแซวว่า นึกว่าเรือ....อิอิ
ที่ผมทำอยู่เป็นประจำเวลาอาบน้ำก็ฟอกสบู่ให้ครบทุกง่าม เอ้อ...กำลังพูดถึงง่ามนิ้วเท้าครับ อย่าไปนึกถึงง่ามขา ฮิฮิ...ดูแลอย่าให้เท้าเหม็น อย่าให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ระวังอย่าให้เกิดแผลโดยเด็ดขาด ถ้าเกิดแผลก็ต้องรีบไปหาหมอให้ตรวจรักษาและบอกให้คุณหมอทราบด้วยว่าเป็นเบาหวานอยู่ ผมยังโชคดีที่เท้าไม่มีปัญหาอะไร มันยังเป็นญาติดีกับผมอยู่ พอไปอ่านหนังสือมาก็เลยต้องทนุถนอมมันหน่อย คนที่เป็นแผลกดทับก็ยิ่งต้องเอาใจใส่ดูแลมันเป็นพิเศษ อย่านึกว่ามีแต่หน้าเท่านั้นที่ต้องการโลชั่น ตีนมันก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าหน้า บำรุงรักษาทาโลชั่นให้มันด้วย นึกถึงการไปพบหมอ หมอบางคนละเอียดซักคนไข้แต่ละคนนานประมาณครึ่งชั่วโมง บางคนก็ไม่ซักอะไรมาก ถามคนไข้ว่าเป็นอะไรมา คนไข้บอกปวดท้อง หมอท่านนั้นอาจเป็นเทวดาก็ได้จะรู้เลยว่าต้องกินยาธาตุ สั่งยาให้เขาเลย บางทีเขาอาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบก็ได้ การพูดเล่าบอกอาการป่วยกับหมอก็ต้องพูดให้ชัด บางทีถ้าหมอมือใหม่อาจเข้าใจเอาเองบ้าง เพื่อนอยู่ภาคเหนือเล่าให้ฟังว่า
มีหญิงสาวชาวเขาคนหนึ่งไปหาหมอ บอกว่า “โตะเขา” หมอถามว่าเจ็บมากไหม เธอก็ตอบว่า “ม่ายเจะม่า” หมอก็บอกว่า “งั้นเอายาไปทาตรงจุดที่ตกเขานะ”
สาวเจ้าก็หายไปวันเดียวก็มาขอพบหมอ หมอก็ถามว่าเป็นไง ดีขึ้นไหม เธอก็ตอบว่า “ม่ายดีขึ้เลย” หมอก็เรียกพยาบาลมาบอกว่า “ช่วยพาเธอไปอธิบายหน่อยนะว่าแผลตกเขาที่เป็นแผลช้ำบวมก็ต้องใช้เวลานิดหน่อย อย่าใจร้อน ทายาวันเดียวมันจะหายได้ยังไงล่ะ”
พยาบาลหายไปพักหนึ่ง แล้วมาถามหมอว่า หมอจ่ายยาอะไรไปให้เขา
หมอก็ตอบว่า ก็เขาตกเขามาไม่เห็นมีอะไรก็จ่ายยาหม่องให้เขาไปทาจุดที่มีแผลตกเขาสิ พยาบาลร้องว่า หา...เขาเป็นตกขาวมา หมอจ่ายยาหม่องให้ไปทาที่จุดนั้น...น่านนะสิ หนูก็สงสัยเพราะเขาบอกหนูว่า “แสะฉิ๊หัย” แฮ่ๆๆๆสวัสดีครับคุณสายลม
กลัวจะตกเทรนด์ ตั้งแต่ อ.โกศล เอารูปสมัยนักเรียนมาลงตามด้วย อ.แสวง น้องแก่นจัง ฯลฯ ก็เลยเอารูปสมัยเรียนรามมาลงกับเขามั่ง อิอิ
อยากไปร่วมเฮฮาศาสตร์ที่ดงหลวงด้วยแต่ทำท่าจะมีปัญหาทั้งเรื่องลูกจะย้ายร้านมาอยู่ภูเก็ตกับเรื่องประชุม อ.ก.ค.ศ. ซึ่งผมเป็นประธานในช่วงนั้นอยู่ครับ พยายามจัดเวลาอยู่
สวัสดีครับคุณ
สมัยหนุ่มๆผมหล่อไหม ฮ่าๆ ผมดกดำเป็นมัน อิอิ
สงสัยจะมีคนคิดแบบคุณแน่เลย ปกติพอโพสต์ไปแป๊บเดียวจะมีคนเข้ามาเยี่ยมทัยที วันนี้มันแปลกๆพอเปลี่ยนรูป เขาคงจะงงว่าดาราเกาหลีมาอยู่ที่บล๊อกนี้ยังไง หุหุหุ
สวัสดีครับอ.บัวชูฝัก
เอามาลงเพื่อความสะใจและสมน้ำหน้าตัวเอง อยากตะกละดีนักสมัยก่อนหุ่นดีอยู่แล้วผมก็ดกด้วย พอมาเดี๋ยวนี้อ้วนลงพุงหัวก็ล้านอีก สมน้ำหน้า อิอิ
หวัดดีครับหมอกุ้ง
มุขสาวชาวเขาเขาคลาสสิคดี คราวหน้าจะเอามุขภาษาใต้มาเล่าสู่กันฟังตามคำขอ อิอิ
สวัสดีครับ
เกิดเหตุมหัศจรรย์ เมื่อผมเซ็นชื่อได้อีกครั้ง
สงสัยจะเป็นเพราะรูปใหม่อันเก่านี่ล่ะ ดูแปลกตาดีครับ ;)
เข้ามาอ่านเรื่องเบาหวาน แต่ว่าสะดุดเอาเรื่องตกเขา อิๆ
สวัสดีครับ อ.ธวัชชัย
สะดุดแล้วระวังล้มนะครับ อิอิ
เป็นรูปสมัยหนุ่มๆ ในภาพกำลังซ้อมดนตรีกัน ผมเล่นกีตาร์ครับ
คุณอัยการ
ขอบคุณมากที่ได้เล่าเรื่องดีๆให้อ่าน ถ้าคนไข้เบาหวานปฏิบัติตัวได้แบบคุณอัยการ รับรองว่า โลกสดใสสว่างที่สุดเลยจ้า
ฝากเรื่องการบริหารเท้า ,มือ ทุกๆวันด้วย เพราะส่วนมากผู้ป่วยเบาหวานเลือดจะไปเลี้ยงปลายมือ เท้า ได้น้อย
เมื่อวานนี้กำลังทำหนังไปขอสนับสนุนโลชั่นและผ้าขนหนูของบริษัทจอห์นสัน เพื่อจะได้มามอบให้กับผู้สูง อายุที่ยากจน และช่วยเหลือตนเองได้น้อย
สวัสดีครับคุณท้องฟ้า
วันนี้ไปตรวจเลือดมาครับ เดี๋ยวบ่ายนี้จะไปเอาผลและจะแจ้งให้ทราบนะครับ
การบริหารมือและเท้าปกติผมจะนวดนิ้วมือบ่อย และเวลาก่อนนอนก็มักจะนวดนิ้วเท้าด้วย แต่บางทีพอนวดแล้ว ภรรยามักใช้ให้ผมนวดเธอด้วย เฮอะๆๆ
แสะชิ๊หา ฮ่า ฮ่า
มุขสาวใต้ต้อง เคยบวมครับ
สวัสดีครับคุณหมอ
ช่วยนับถอยหลังกับหมอด้วยนะครับ
เดี๋ยววันหลังต้องเอามุข เคยบวม มาเล่นหน่อยแล้ว ฮิฮิ