เมื่อเบาผมหวาน


การดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวาน คุมมันอย่าให้มันคุมเรา สู้ๆๆ

                รับปากรับคำคุณท้องฟ้าที่เข้ามาเยี่ยมบล็อกก็เลยได้เรื่องที่จะบันทึกวันนี้

เมื่อปี ๒๕๔๗ ผมไปตรวจโรคประจำปี ได้ของแถมมาหนึ่งอย่างคือ ความดันโลหิตสูง ๑๖๐/๑๑๐ หมอให้กินยาและแนะนำให้ออกกำลัง กินยาวันละครึ่งเม็ดความดันก็ลดลงมาอยู่ที่ ๑๒๐/๘๐ แทบทุกวัน แสดงว่ายาเอาอยู่ แต่ก็ไม่ยอมออกกำลัง จนกระทั่งปี ๒๕๔๘ ไปตรวจโรคประจำปี เจอกลูโคสในระดับ ๑๔๙  หมอให้เวลา ๑ อาทิตย์ ลองไปปรับการกินและแนะนำให้ออกกำลังอีก แต่ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่เพียงลดความหวานกับภรรยาให้น้อยลง อิอิ ลดของหวานลงด้วยครับ ผลปรากฏว่าคราวนี้กลูโคสอยู่ที่ ๑๒๐ หมอก็บอกว่าคุมให้ดีๆนะ ท่านควรออกกำลังด้วยนะ ลดน้ำหนักด้วยนะ

ปี ๒๕๔๙ ประมาณมกราคม ๒๕๔๙ เป็นอัยการจังหวัดมาได้เกือบ ๑ ปี ไปตรวจร่างกายประจำปี ความดันปกติ แต่ได้เบาหวานมาอีก ๑ ตัวแน่นอนเพราะ กลูโคสอยู่ที่ ๒๓๕ ส่วนคอเรสเตอรอล ปกติ ไตรกลีเซอร์ไรด์ ปกติ จำได้ว่าไม่ได้ตรวจ HbA1c หมออ่านผลแล้วส่ายหน้าจัดยาให้ คราวนี้ต้องกินยาแก้เบาหวานอีกครึ่งเม็ดก่อนอาหารเช้าทุกวัน หมอก็พูดให้ผมลดน้ำหนัก และออกกำลังอย่างน้อยวันละ ๒๐ นาที จนปากแฉะ...อิอิ ก็ปากหมอนะสิ..อิอิ ผมกลัวตายแล้วครับ เพราะดูชักจะมากเรื่อง ถูกส่งไปตรวจตาด้วย คราวนี้ต้องศึกษาที่จะอยู่กับมัน แล้วก็ได้ความรู้มาว่ามันเป็นแล้วไม่หาย แต่เราควบคุมอย่าให้มันซ่าได้ ตัดสินใจเอาวะ..ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว คุมลูกน้องก็ยังคุมได้ กะอีแค่เบาหวานมันอยู่กับตัวทำไมเราจะคุมไม่ได้

หนังสือบอกว่ามื้อเย็นควรทานผัก อย่าทานแป้งมาก การบริโภคเนื้อสัตว์ ควรเป็นเนื้อปลา เช้าขึ้นมาทานลูกชิ้นปลา ปลานึ่ง ข้าวต้มปลา เน้นปลาเป็นอาชีพ ถ้าให้ดีเด็กเสิร์ฟถ้าชื่อปลาด้วยก็จะทำให้ลดน้ำตาลลงได้อีก (แต่อาจจะได้เลือดหัวออกมาแทน อิอิ) มื้อเที่ยงทานตามปกติ มื้อเย็นชวนแม่บ้านกับลูกสาวไปทานส้มตำไทยเป็นส่วนใหญ่ ๓ เดือนถัดมา ไปเจาะเลือด ค่ากลูโคสลงมาที่ ๑๖๐ ค่า Hba1c อยู่ที่ ๑๐.๑ หมอบอกว่าทำต่อไป

สามเดือนถัดมาผมไปเจาะเลือดอีกครั้ง คราวนี้ HbA1c  เหลือ ๘.๒ ค่ากลูโคส ลดมาที่ ๑๑๐ ระหว่างนั้นผมเริ่มออกไปว่ายน้ำ แรกๆว่ายได้ ๑๕ นาทีจะตายเอา หาหนังสือมาอ่านเขาบอกว่าการออกกำลัง ๒๐ นาทีแรกมันจะช่วยเผาผลาญพลังงานที่เรากินเข้าไปในวันนั้น ถ้าอยากจะให้มันดึงไขมันออกมาใช้ด้วยก็ต้องออกกำลังอย่างน้อย ๓๐ นาที เพื่อให้ ๑๐ นาทีหลังมันดึงพลังงานออกมาใช้ ผมว่ายน้ำไม่แข็งเท่าไหร่ ก็ใช้วิธีว่ายไปกลับตามขวางของสระว่ายน้ำ แรกๆว่ายวันละ ๓๐ เที่ยว แล้วเพิ่มเป็น ๖๐ เที่ยว จนเป็น ๙๐ เที่ยว ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงพอดี คราวนี้พอไปเจาะเลือด กลูโคสเหลือ ๙๒ ตรวจ HbA1c เหลือ ๖.๑ หมอบอกว่าคุมได้เยี่ยมมาก ค่าตับไตไส้พุงคอเรสเตอรอล ฯลฯ เข้าเกณฑ์ปกติทุกตัว ให้สู้ต่อไป

เพื่อนฝูงชวนไปออกงานกินเลี้ยงสังสรรค์ ผมก็ได้โอกาสขอตัวเพราะเป็นเบาหวานหมอสั่งห้ามดื่มเหล้าเบียร์ ความจริงหมอไม่ได้หามแต่เมียห้าม.. ฮา..กางเกงเอว ๔๐ ลดเหลือ ๓๘ เสื้อที่เคยใช้ xxl ก็ต้องใช้ xl เสียอย่างเดียวเมียคุมเข้มยิ่งกว่าเดิม เพราะดูไปก็หล่อขึ้นมากกว่าเดิม คิกคิก....

ความที่เป็นคนที่มีเพื่อนฝูงเยอะ เพื่อนก็เอา ฮว่านง๊อก มาให้ต้นกระจิ๊ดนึง มีใบอยู่ ๔ ใบ บอกว่าพี่ ได้ต้นนี่เขากินวันละ ๗ ใบ ผมก้มมามองดูต้นที่มันให้มา ก็มันมีอยู่สี่ใบ แล้วบอกให้ตูกิน ๗ ใบ เดี๋ยวพ่อเหนี่ยว.... มันรู้ตัวครับ มันบอกว่า ให้พี่เอาไปเพาะไว้ก่อน พอใบเยอะค่อยกิน พี่เก็บที่โคนมันกินก่อนนะ แล้วพอเหลือยอดพี่ก็เด็ดปัก มันจะแตกเรื่อยๆ ผมก็ทำตามวิธีที่เขาบอก จนได้กิน  แต่ระหว่างนั้นป้าก็ให้ต้น แป๊ะตำปึง มาให้กินกับน้ำพริกบอกว่าช่วยรักษาความดันและเบาหวาน ให้กินวันละ ๗ ใบ เอามาเพาะไว้ กินได้ทุกวันวันละ ๑ ครั้ง ในที่สุดก็เพาะแจกทั้งสองอย่าง ไปตรวจเลือดแต่ละครั้งก็จะอยู่ที่ระดับไม่เกิน ๑๐๐ ค่า HbA1c ก็ไม่เกิน ๖.๒ หมอก็พอใจ เราก็พอใจ

วันก่อนเมื่อประมาณ ๖-๗ เดือนที่ผ่านมา มีงานสินค้าโอทอป จัดที่ภูเก็ต มีสมุนไพรรักษาเบาหวานมาขายด้วย ผมดูว่าสูตรนี้ผ่าน อย.หรือไม่ ปรากฏว่าผ่านแล้วครับ ผมดูในถุง เขาบอกว่าชุดละ ๔ ถุง กินถุงละ ๗ วัน ถ้าจะให้เบาหวานหายขาดชัวร์ให้กิน ๒ ชุด ผมเห็นในถุงมีบอระเพ็ด สะเดา มีมะระขี้นก และไม่รู้อะไรต่อมิอะไร ผมถามว่าขมใช่ไหม เขาบอกใช่ ถ้าไม่อยากหายก็ไม่ต้องกิน ผมอยากหายเห็นว่าเป็นสมุนไพรและผ่านอย.มาแล้วก็เลยซื้อ ๑ ชุด ลองดู มาถึงบ้านก็เอายาใส่หม้อขนาดเบอร์ ๒๖ ใส่น้ำต้มจนเดือดและมันงวดลง ๑ ในสาม จากนั้นก็เอามาดื่ม (ให้มันเย็นลงก่อนนะลูกพี่ กินทั้งเดือดๆเบาหวานตาย ลูกพี่อาจตายตามเบาหวานไปด้วย...แฮ่...) กินวันละ ๓ -๔ แก้ว พอน้ำจะแห้งก็เติมน้ำต้มต่อไปอีก ถุงนึงดื่มได้อาทิตย์นึงจนยาเริ่มจืด ขอบอกว่าสุดยอดของความขมแต่มันก็หอมๆสมุนไพรนะ เสียดายผมเก็บสลากไว้ที่ไหนก็ไม่รู้หาก่อนนะแล้วจะนำมาบอกทีหลัง) วิธีดื่มสำหรับของขม ก็คือ กลั้นใจซดทีเดียวอย่าดื่มแบบผู้ดีทีละจิบเพราะมันจะขมทุกจิบ ฮิฮิ ถ้าดื่มแบบมึก คนใต้เขาเรียก มึก หมายถึงดื่มเป็นคำๆ อธิบายแบบนี้ไม่รู้น้องเม้งว่าถูกหรือเปล่า..เข้าใจไหมครับ แบบเคือกๆๆ มันจะขมทีเดียวสำหรับมื้อนั้น แล้วก็กินมะละกอ ฝรั่งหรือส้ม หรือกล้วย ลบความขม.. ผมกินจนหมดชุด ไม่ได้นึกว่ามันจะทำให้หายขาดหรอกครับ ผมยังเชื่อหมอแผนปัจจุบันอยู่แต่นึกในใจว่าเราใช้สมุนไพรน่าจะดีต่อสุขภาพมากกว่ายาที่เป็นสารเคมีนะ..

ทุกวันนี้ พยายามทานอาหารที่เขาบอกว่ามีผลต่อการลดน้ำตาลในเลือด เช่น ใบแป๊ะตำปึง ฮว่านง๊อก มะระขี้นก มะเขือพวง (ความจริงผมว่าน่าจะเป็นมะแว้งนะเพราะมันขม) บอระเพ็ด (อันนี้ต้องชนิดแคปซูล เพราะไม่เก่งกาจพอ แต่ผมก็ปลูกเอาไว้ที่บ้านเหมือนกัน จะเอาไปตากแห้งแล้วให้ร้านบดยาเขาบดและใส่แคปซูลให้ถูกกว่าซื้อเป็นขวดเยอะแยะเลยครับ 

 ผมต่อรองกับหมอว่าทุกวันนี้ความดันโลหิตก็ไม่ได้สูงถึง ๑๒๐/๘๐ ส่วนใหญ่จะไต่อยู่ที่ ๑๑๐-๑๑๘/๗๐-๘๓ ผมวัดน้ำตาลกับความดันฯ วันเว้นวันครับ น้ำตาลก็ไม่ถึง ๑๐๐ ขอลองลดยาลงได้ไหม ขอวันเว้นวันทั้งยาเบาหวานและยาความดัน หมอก็ให้ทดลอง นี่ก็ได้เวลาที่จะต้องไปตรวจเลือดหลังจากทดลองทานยาวันเว้นวันแล้วครับ ได้ผลอย่างไรจะมารายงานครับ  อ้อ อย่าลดยาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์เด็ดขาดนะครับ  การตรวจน้ำตาลและความดันผมค่อนข้างจะเข้มข้นเพราะเราทานอะไรเข้าไปบ้างในแต่ละวันเราต้องสังเกต บางทีอยากกินข้าวเหนียวมะม่วง ทานไป ๒-๓ คำ รุ่งเช้าจะตรวจเลือดทันที ถ้าน้ำตาลไม่ถึง ๑๐๐ ก็โอเค ถ้าทานอะไรเข้าไปแล้วน้ำตาลเกิน ๑๐๐ เราก็จะจำไว้ไม่ทาน เคยทานทุเรียนไป ๒ เม็ด เช้าขึ้นมาตรวจเลือดดูค่าอยู่ที่ ๑๑๐ ก็อย่าทานมาก ปีหน้าก็อาจจะทานสักเม็ดเดียว

และที่พิสูจน์ได้แน่นอนคือ น้ำหนักลด จากการออกกำลัง เบาหวานและความดันลดแน่นอน

มื้อเย็นถ้าแทนผักเป็นหลัก ไม่แตะแป้งเลยได้เป็นดี เพราะในผักมันก็มีคาร์โบไฮเดรตอยู่แล้ว

ทานของขม ดมของหวาน(ใช้ดมแทนอย่ากิน ฮิฮิ) จัดการข้าวกล้อง เรียกร้องทานผัก และเป็นนักออกกำลังกาย ก็พอจะช่วยควบคุมเบาหวานได้ บางคนบอกว่าทานไม่ได้ข้าวกล้องแข็ง เรื่องนี้มีเคล็ดลับ แม่บ้านผมหุงข้าวกล้องไม่แข็ง เพราะเธอจะแช่น้ำก่อนหุง ข้าวกล้องบางชนิดก็จะแช่น้ำไว้ ๒ ชั่วโมง บางชนิดเช่น ข้าวกล้องหอมนิล ต้องแช่นานหน่อย

เบาหวานจะไม่น่ากลัวหากเราเป็นเพื่อนกับมัน แล้วเราคุมมันอย่าให้มันคุมเรา เท่านี้เบาหวานก็อยู่หมัดเราแล้วครับ แล้วเราก็มาตะแลดแตร๊ดแตร๋ เขียนบล็อกอย่างสบายใจครับ 5 อิ.....
หมายเลขบันทึก: 141795เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2007 14:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

ขอบคุณ คุณอัยการชาวเกาะที่เล่าเรื่องดีๆ  มีประโยชน์  รวมทั้งความสนุกสนานจากการที่ได้อ่าน

พรุ่งนี้ที่รพ.มีคลินิคเบาหวานจะได้เล่าเรื่องคุณอัยการให้เขาฟังจะได้ให้ผู้ที่อยากอ่อนหวาน ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ฝากเรื่องโรคแทรกซ้อน  3 ต.1 ห ด้วยนะ(ให้ทายเอาเองว่ามีอะไรบ้าง  ฮิฮิๆๆๆๆ5555

สวัสดีครับ ท่านอัยการ

   "แล้วเราก็มาตะแลดแตร๊ดแตร๋ เขียนบล็อกอย่างสบายใจครับ   5 อิ....."

   กินของขม ชมเด็กสวย รวยความหลัง นั่งทอดหุ่ย

   เป็นอาการของคนแก่  ครับ.....2 อิ...

  • สวัสดีครับ
  • เป็นบันทึกที่อ่านสนุกมากครับ
  • น่าจะได้ลงในวารสารเบาหวานนะครับ...อิอิ
  • ขอบพระคุณมากครับ
  • สวัสดีครับ
  • แสดงว่าต้องทานน้ำสลัดไม่หลุดทุกเย็นเป็นแน่แท้
  • ผมเองก็กลัวเหมือนกันครับ เลยต้องออกกำลังกายบ้างเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ตอนนี้เล่นบาสที่ชอบไม่ไหว เพราะวิ่งไปก็จะขาดใจตาย เลยมาขี่จักรยานแทน
  • ช่วงนี้ตอนเช้าอากาศดีครับ ออกมาขี่จักรยานซะหน่อยโล่งโปร่งสบาย
  • ดีครับ มีพยาบาลส่วนตัวคอยดูแลและควบคุมให้

สวัสดีครับคุณท้องฟ้าP

ไอ้ ๓ ต.ไม่ค่อยถนัด แต่ ๑ ห.ชำนาญ อิอิ ผมทายว่าโรคหัวใจต้องระวัง ใน ๓ ต.ที่ต้องระวังคือ ไต ตับ และคอเรสเตอรอล มั๊งงงง

หวัดดีลุงวอครับP

แก่แต่ร่าง หัวใจยังหนุ่มครับ 3 ระยองครับ (ฮิ)

คุณสิงห์ป่าสัก P ครับ รักษาสุขภาพอย่าให้เป็นโรคอะไรเลยนะครับ อโรคยา ปรมาลาภา จริงๆครับ แต่ถ้า อโรภรรยา ปรมังสุขัง ครับ ๓ อิ

คุณสุดทางบูรพา P

วันนี้ภรรยาผมเขาเห็นบทความกับภาพที่ผมโพสต์ เขาไปนั่งทำน้ำสลัดแจกหลานที่ กทม.อีกแล้วครับ

ผมเลือกที่จะออกกำลังแบบแอโรบิค ครับ เราไม่ใช่วัยรุ่นไปเล่นบาสเล่นเทนนิส ท่าจะเดี้ยงเสียก่อน เดินเรื่อยๆ ว่ายน้ำ ถีบจักรยานแบบท่านก็น่าจะดีครับ

สวัสดีค่ะ

  • เก่งจังเลย  ที่คุมอยู่
  • มีไม่กี่คน ที่โชคดีขนาดนี้
  • (ต้องเรียกว่าเก่ง สิ)

ท่านครับ

   ภาษาอิสานว่า "เฒ่าแต่แข่ว  แอวนักเลง"

ขออนุญาติ  ถาม  คุณ P. นาย วรชัย หลักคำ


  • "เฒ่าแต่แข่ว  แอวนักเลง" แปลว่าอะไรหรือ คะ
  • คนเหนือ งง ค่ะ 
  • ขอบคุณ ค่ะ

ลุงวอครับ

คนเหนือเขาก็งง

คนใต้ก็งง เคยรู้มาว่า แข่ว แปลว่าฟัน

แล้วมันแปลว่าอิหยังล่ะครับ

  • อิอิ  ขออนุญาตแปลให้คนใต้และคนเหนือฟังนะครับ จากประโยคของลุงวอ P. นาย วรชัย หลักคำ   ว่า  "เฒ่าแต่แข่ว  แอวนักเลง" 
  • แปลว่า อิอิ แฮ่ ๆ 55555555  ถามป้าแดงดีกว่าครับ อิอิ

  • ท่านอัยการครับ ตอนนี้ผมป่วยเป็นโรคหนักหวานครับ อิอิ ตอนนี้มีความคิดว่าจะเปิดโรงงานแจกความหวานนี่ท่าทางจะดีมั้ยครับเนี่ย
สวัสดีครับ ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ เพราะฉะนั้นต้องรักษาสุขภาพเอาไว้มากๆ ตอนที่ไม่สบาย ก็นึกว่าทำยังไงก็ได้ขอให้หาย แต่พอหายดีแล้ว ก็ไม่ค่อยได้ดูแลกัน อิๆ ไม่ทราบว่าเป็นแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่าครับ เคยมีเพื่อนคนหนึ่ง ร่างสูงแล้วอ้วนด้วย หายไปสี่ห้าเดือน เจออีกที หุ่นเพรียวบาง ถามได้ความว่าเป็นเบาหวานซะแล้ว ก็ลำบากลำบนเรื่องกิน แถมต้องฉีดอินซูลินอีกต่างหาก อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ครับ เผื่อมันจะมาหาในอนาคต ขอบคุณนะครับ (แอวนักเลง นี่ ผมว่าทะลึ่งแน่ๆ ครับ)

คุณสายลมครับ P แล้วมันแปลว่า อิอิ หรือครับ โธ่...

ป้าแดงอยู่ไหน ช่วยทำให้หายงงหน่อย...

ฮ่ะๆ โรคหนักหวานเนี่ยรักษายากพอๆกับ moneyfelia แน่ๆเลย

อ.ธวัชชัย ครับ

แอวนักเลง มันทะลึ่ง แล้ว เฒ่าแต่แข่ว ไม่ทะลึ่งหรือครับ อิอิ ทำให้อยากรู้จริงๆแล้วนะเนี่ย เอิ้กๆ

ภาษาอิสานว่า "เฒ่าแต่แข่ว  แอวนักเลง"

คำแปล หมาย ถึงว่า ชายสูงอายุถึงจะฟันหลอ

แต่เอวยังใช้ได้ดี มีโชอัพ ฮะๆๆฮ่า

ใครไม่รู้ช่างสรรมาฮา อิอิ

ขอบพระคุณพ่อครูบาฯ ครับ

ทีหลังจะได้จำไว้ว่า เรา เฒ่าแต่แข่ว แอวนักเลง อิอิ

คุณอัยการชาวเกาะ

วันนี้ ได้เล่าเรื่องคูณอัยการให้ผู้เข้ากลุ่มลปรร โรคเบาหวานฟังแล้วล่ะ 

จากนั้นให้ผู้เข้ากลุ่มได้คุยกันถึงเรื่อง3 ต.1 ห โปรดฟังเฉลยๆๆ ๆๆๆ  ตา  ไต  เท้า (ต .เท้า  ภาษาสุภาพ คนไข้บอกว่าแบบนี้ และหัวใจ

 

ขอบคุณครับคุณท้องฟ้าที่นำมาเฉลยครับ จะได้ระวังกันต่อครับ

จริงๆแล้วผมมีอาการที่ควรจะสังเกตอยู่ก่อนแล้ว แต่เราไม่เคยสนใจเพราะพอมีแผลแล้วแผลแห้งช้าเป็นอาการบ่งบอกอย่างหนึ่งว่าเป็นคนหวานมาก ต้องเข้าคอร์สทำให้อ่อนหวาน อิอิ

 

  • เข้ามาขำ
  • 5555555
  • คุณ ธวัชชัย เตือนแล้วเชียว
  • ว่าต้อง ออกแนวทะลึ่ง แน่
  • ขอบพระคุณ พ่อครูบาค่ะ ที่ชี้แนะ
  • ลุง  wo ตัวดี หายจ้อยเลย
  • ต่อไปต้องระวัง ให้ดีค่ะ ..สำหรับ ศัพท์แปลก ๆ..
  • คิคิคิ
  • สวัสดีค่ะ
  • แวะตามมาอ่านด้วยคน
  • "เบาหวาน" อยู่ในความสนใจพอดีค่ะ
  • เพราะพ่อและแม่ เป็นโรคนี้ทั้งคู่
  • ทะเลาะกันเรื่องอาหารการกินประจำ
  • แต่ก็อยากบอกว่า ยินดีด้วยค่ะ ที่สามารถเอาชนะเบาหวานได้
  • สามารถควบคุมมันให้อยู่ใต้อาณัติได้...
  • การดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวาน คุมมันอย่าให้มันคุมเรา
  • เห็นด้วย ๆ สำหรับคนที่เป็น ส่วนใหญ่จะควบคุมมันยาก
  • มีไม่กี่คนที่สามารถควบคุมมันได้

สวัสดีครับP

ผมโชคดีที่ชอบทานผักอยู่แล้ว แต่ชอบทานเนื้อเยอะด้วย ที่สำคัญฯชอบทานข้าวเยอะ และทานเร็ว จึงมีของสะสมเยอะ แต่พอรู้ว่าเป็นเบาหวาน ก็กลับมาดูและอาหารการกินจริงจังขึ้น เปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง ทานผักเพิ่มขึ้นเพื่อลดแป้งลง ทุกวันนี้ยังทานโอเลี้ยง ชาร้อน แต่แค่วันละแก้ว ลดน้ำอัดลมเด็ดขาด ของหวานทานบ้าง เท่าที่สังเกตทานข้าวเหนียวหม้อแกง ๑ ห่อ ก็ไม่มีปัญหา ที่สำคัญนอกจากตรวจเลือดหลังอดอาหาร ๘ ชั่วโมงแล้ว ก็ยังตรวจเลือดหลังทานอาหาร ๒ ชั่วโมง ซึ่งทุกวันนี้จะมีน้ำตาลอยู่ที่ไม่เกิน ๑๖๐ เป็นอย่างสูง

คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันเรื่องอาหารบ่อยเพราะผู้สูงอายุมักคิดว่าแก่แล้ว มีชีวิตอยู่อีกไม่นาน ก็จะมีอาการดัน(ทุรังสูง) อิอิ ก็ต้องพยายามหาสมุนไพรที่ช่วยลดน้ำตาลให้ท่าน เช่น ใบชะพลู มะระขี้นก พวกของขมๆให้ท่านทาน ถ้าท่านไม่ชอบก็หาแบบเป็นแคปซูล เช่น มะระขี้นกทานก่อนอาหารมื้อละ เม็ด ทานแป๊ะตำปึง ฮว่านง๊อก ผมว่าน่าจะช่วยได้ เพราะพ่อของเพื่อนก็เป็นเบาหวาน ๒๐๐ กว่า ผมก็เอาสมุนไพรพวกนี้เพาะใส่ถุงให้ท่านเอาไปปลูก เดี๋ยวนี้ลูกชายมารายงานว่าตั้งแต่พ่อกินแป๊ะตำปึงกับฮว่านง๊อก พ่ออาการดีขึ้นเยอะ น้ำตาลลดลงเป็นที่น่าพอใจครับ

  • สวัสดีครับ ท่านอัยการ
  • ขอบคุณที่ท่านไปเยี่ยมผมมาครับ
  • ผมเป็นไขมันในเลือดสูงอยู่เหมือนกันครับ แต่ก็ดูแลสุขภาพ มาตลอดครับ
  • ขอบคุณครับ

    มาแว้ววว  คร๊าบ.......

      ท่านครูบา มาเฉลยก่อน

      ทำนองนั้นแหละครับ..... ๒ อิ...

สวัสดีครับคุณหนุ่มร้อยเกาะ P

ไขมันในเลือดสูงเขาบอกให้ทานชาดอกคำฝอยหรือจะเป็นชนิดแคปวซูลก็มีครับ ภรรยาผมก็เป็นเพราะตัดถุงน้ำดีออก เธอเป็นนิ่วครับ ไขมันในเลือดก็สูงไปถึง ๒๗๐ วันนี้เพิ่งไปซื้อดอกคำฝอยชนิดแคปซูลมาครับ พอเธอไปตรวจสุขภาพแล้วจะมารายงานเพราะตอนนี้หมอยังไม่ให้ทานยาอะไรเลยครับ บอกแต่ให้ควบคุมอาหารครับ

หวัดดีครับลุงวอ

แล้วลุงวอ แอวนักเลง บ่

สวัสดีค่ะ...ท่านอดีตประธานนักเรียน......นาย บัณฑูร - ทองตัน ..P

10 อิ...

สงสัยล่ะสิคะ....11 อิ

ครูอ้อย..สงสัยเป็นเบาหวานค่ะ...ช่วยด้วยค่ะ...12 อิ

สวัสดีครับครูอ้อย

ครูอ้อยรู้มาจากไหนครับ ผมเป็นหัวหน้าชั้นมาตั้งแต่ชั้นป.๕ จนจบ ม.ศ.๕ และตอนอยู่ ม.ศ.๕ เป็นรองประธานนักเรียน แต่บทบาทที่แสดงออกนั้นทุกคนเลยเข้าใจว่าผมเป็นประธานนักเรียนครับ และพอจบมาทำอะไรเพื่อนก็ยกให้ผมเป็นหัวหน้าตลอด เป็นประธานชมรม เป็นประธานรุ่นอัยการจังหวัด เป็นหลายประธานครับ ผมอยากรู้จริงๆครูอ้อยรู้จักเพื่อนผมหรือเปล่า เขาคือใคร...

ครูอ้อยสงสัยเป็นเบาหวานสงสัยเพราะหวานกับคนข้างๆมากเกินไปหรือเปล่า อิอิ

สวัสดีค่ะท่านประธาน..

  • ไม่ใช่เขา...กลายเป็น..เธอค่ะ
  • แอบบอกว่า..ท่านประธาน...รูปร่างสูงสง่า  ขาว  กล้า  และเก่งด้วยค่ะ
  • หากท่านอยากรู้ว่าเป็นใคร..2 อิ..ตามมาที่...ช้างเพื่อนแก้ว..ไปสู่สวรรค์

 

สวัสดีค่ะท่านนาย บัณฑูร - ทองตัน อยากนำลิงก์นี้ ทำเป็นลิงก์ที่ห้องOPD เบาหวานทุกโรงพยาบาลนะค่ะ เบาหวานจะไม่น่ากลัวหากเราเป็นเพื่อนกับมัน แล้วเราคุมมันอย่าให้มันคุมเรา เท่านี้เบาหวานก็อยู่หมัดเราแล้วครับ แล้วเราก็มาตะแลดแตร๊ดแตร๋ เขียนบล็อกอย่างสบายใจครับ 5 อิ.....

 

สวัสดีครับคุณ P Moo

ด้วยความยินดีครับที่จะทำ link ไปที่ OPD  เบาหวานทุกโรงพยาบาล

ผมมีความรู้สึกว่าถ้าคนไข้มีคนให้กำลังใจเขาน่าจะควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้น แต่ต้องรู้จักหยอดความรู้สึกที่ดีให้เขาด้วย เช่น เบาหวานเขาไม่ลด อาจจะบอกว่าถึงแม้น้ำตาลไม่ลด แต่ก็เก่งนะยังควบคุมได้ไม่เกินไปจากเดิม แล้วก็แนะนำเรื่องทานผักให้มาก ทานของขมให้มาก หรืออาจจะแถมสูตรอาหารให้ไปด้วย ก็ได้ครับ ผมบังเอิญว่ามีความพร้อมในการเจาะเลือดตรวจได้บ่อย จึงสามาถสังเกตตัวเองได้ง่ายพอน้ำตาลทำท่าจะสูงขึ้นก็จะปรับอาหารทันที เพิ่มการออกกำลังทันที ตั้งแต่ตรวจพบเบาหวานจึงยังไม่มีอาการหน้ามืดเพราะสังเกตตัวเองตลอดครับ

กลับมาอีกรอบคะ อ่านบันทึกท่านแล้วอยากให้สมาชิกเบาหวานได้เรียนรู้ เป็นการเล่าสู่กันฟัง ช่วงที่เป็นพยาบาลในการสอนสุขศึกษาผู้ป่วย นอกจากต้องสอนตามหลักการแล้ว จะใช้วิธีให้เพื่อนช่วยเพื่อน ผู้ป่วยด้วยกันเขามักจะมีความเห็นใจกันเป็นพื้นฐาน และเชื่อมั่นกัน จะจีบผู้ป่วยที่เข้าใจเกี่ยวกับโรคที่เป็นอยู่และปฎิบัติได้จริง เล่าประสบการณ์ที่ตัวเองทำอยู่ทำอย่างไร และได้ผลดี ซึ่งเป็นทั้งความภาคภูมิใจที่เขาได้ช่วยเหลือผู้ป่วยอื่น บางคนกลับบ้านไปแล้วยังแวะมาเยี่ยมคนที่ยังอยู่ที่รพ.

คิดว่าเรื่องไฮเทคลิงก์ไปทุก OPDเบาหวานทุกรพ.เป็นความรู้สึกที่อยากให้ผู้ที่เป็นเบาหวาน เขาได้เห็นมุมของความสุข เบาหวานจะไม่น่ากลัวหากเราเป็นเพื่อนกับมัน แล้วเราคุมมันอย่าให้มันคุมเรา เท่านี้เบาหวานก็อยู่หมัดเราแล้วครับ แล้วเราก็มาตะแลดแตร๊ดแตร๋ เขียนบล็อกอย่างสบายใจครับ 5 อิ..... แต่ตัวเองไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้

ขอบพระคุณคะท่าน

สวัสดีครับ คุณ Moo

ทุกอย่างเริ่มต้นที่ความคิดก่อนครับ แล้วเดี๋ยวคนที่มีความรู้เขาจะทำให้ในสิ่งที่เห็นสมควร อย่างน้อยคนเครือข่ายเบาหวานที่ได้อ่านก็จะบอกต่อๆกัน ถึงไม่ถึงทุกโรงพยาบาลก็บอกได้เยอะแหละครับ

ขอบคุณสำหรับความคิดดีๆเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นครับ

สวัสดีค่ะคุณบัณฑูร ขอบคุณที่ไปแวะทำให้ตามรอยกันมาเยี่ยมได้

ดีใจที่อยู่กับเบาหวานได้อย่างมีความสุขค่ะ ดิฉันเขียนหนังสือ"มหัศจรรย์แห่งKMเบาหวาน กรณีศึกษาโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก" ได้เห็นชาวบ้านที่ไม่ได้มีความรู้มากมายก็ยังสามารถดูแลตัวเอง ดูแลกันและกันในชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยทีมงานโรงพยาบาลปรับวิธีการทำงานและทำงานร่วมกับชาวบ้าน เห็นแล้วทึ่งมากๆ ปัจจุบันเบาหวานเป็นกันมากเพราะความกินดีอยู่ดีเกินไปนะคะ

ขอให้มีกำลังใจที่จะเอาจริงกับการดูแลสุขภาพเพื่อคุมเบาหวานให้อยู่อย่างยั่งยืนนะคะ

ขอบคุณคุณนายดอกเตอร์ครับ

ผมยังเป็นน้องใหม่ของ G2K ครับ แต่แปลกใจมากที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น นึกไม่ถึงว่าจะมีคนนำบล๊อกเข้าแพลนเนตตั้ง ๓๐ กว่าแพลนเนตเข้าไปแล้ว รู้สึกสนุกกับการเขียนหลังจากที่ไม่ได้เขียนบทความเป็นปีเพราะภาระงานในหน้าที่หนักมาก ตอนนี้ค่อยสบายมือหน่อยและเริ่มติดบล๊อกแล้วครับ อิอิ

            สวัสดีค่ะ คุณแม่ก็เป็นเบาหวานเหมือนกันค่ะ ดุแม่ทุกวันเรื่องรับประทานอาหารเบาหวาน(กลัวคุณหมอดุที่คุณแม่คุมไม่ได้ เนื่องตัวเองเป็นพยาบาล) ตอนนี้ดีขึ้นเยอะ เพราะท่านรู้จักปรับตัวคะ

       เป็นกำลังใจค่ะ ส่วนมากคนเป็นเบาหวานมักตามใจปาก จึงทำให้คุมน้ำตาลในเลือดไม่ได้ และพลอยป่วยเป็นหลายโรคตามมา

        สุดท้ายมาเสียใจที่ไม่เชื่อหมอแต่แรก

สวัสดีครับคุณเพชรน้อย

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ ตั้งแต่รู้ว่าเป็นเบาหวานเดี๋ยวนี้ผมไม่ดื่มน้ำอัดลมอีกเลย ดื่มแต่น้ำเปล่า และดูน้ำตาลถ้าไม่สูงอยู่ในเกณฑ์ ๙๐ ก็อนุญาตตัวเองให้ดูดโอเลี้ยงได้ และเจาะเลือดดูค่าน้ำตาลอยู่เรื่อยๆครับ

ฝากเป็นกำลังใจให้คุณแม่ด้วยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท