หากคุณชอบงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ละก็ “ใจรัก” นี้แหละ จะช่วยให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่น แต่พูดไปก็รู้เหมือนกันว่า เรื่อง “ชอบหรือไม่ชอบ” คงบังคับใจกันไม่ได้ เพราะมีพนักงานเยอะแยะไปที่ได้งานเพราะฟลุก หรือญาติผู้ใหญ่ ช่วยฝากให้ หรือไม่งั้นก็ร่อนใบสมัครเผื่อไว้หลายๆแห่ง แล้วเผอิญได้งานในบริษัทที่ไม่ได้ชอบมากนัก แต่ก็เอาวะ ทำก็ทำอะไรเงี้ย จึงอาจเข้าตำรา “งานที่รักไม่ได้ทำ แต่งานที่ทำกลับรู้สึกงั้นๆ (คือทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้)” บางทีเรียนวิชานึง แต่กลับมีอาชีพคนละเส้นทางไปเลย ไม่ได้ ทำงานตามที่เรียนมาหรอก ถือเป็นเรื่องโชคชะตาฟ้ากำหนดอีกนั่นแหละ แต่ส่วนมากที่ได้งานมักเป็นเพราะโชค แถมบางทีฐานะทางครอบครัวก็ไม่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีทางเลือกมากนักซะด้วย ดังนั้น ถ้ามีงานอะไรให้ทำก็คว้าไว้ก่อนละกัน แล้วพยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ซึ่ง ถ้าใครอยากให้งานที่ทำอยู่ราบรื่น, ไร้อุปสรรคและประสบความสำเร็จละก็ ลองคิดและทำแบบนี้ดู...
1. พิจารณาว่า ตัวงานที่ทำนั้นต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมไหม? ถ้าต้องเป็นทีมเวิร์กละก็ คนทั้งทีมนั่นแหละควรปรับตัวเพื่อให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานให้ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเออออห่อหมกไปซะทุกอย่างก็ได้ ยิ่งมีการถกเถียงกันด้วยเหตุผลสิยิ่งดี และควรเป็นมืออาชีพพอที่จะเคารพในเหตุผลที่เข้าท่าที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วย
2. ถ้าเรียนรู้งานจากรุ่นพี่ได้ ก็ควรทำซะ เป็นอีกทางลัดทางหนึ่งที่ทำ ให้คุณได้เรียนรู้งานได้ไว และไม่ต้องมาคลำหาทาง เรียนถูกเรียนผิดเอาเอง
3. หากทำงานแล้วเกิดปัญหาติดขัด ไม่รู้จะแก้ไขไงดี? ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ, หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานดู ถ้าบุคคลเหล่านี้ลงมาช่วยทำนั่นทำนี่ให้ไม่ได้ แค่ให้คำชี้แนะในฐานะที่มีประสบการณ์มากกว่า หรือให้มุมมองของคนนอกที่อาจเห็นช่องโหว่ของปัญหามากกว่า
4. ช่วยงานของคนอื่นบ้างถ้าช่วยได้ เพราะบ้านเราเป็นสังคมถ้อยทีถ้อยอาศัย ยิ่งถ้าเป็นทีมงานของเราเองด้วย จงอย่านิ่งดูดาย แล้วจะทำงานได้อย่างมีความสุข
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
สวัสดีครับคุณสุภาภรณ์
สวัสดีค่ะคุณ
กระผมคิดว่าถ้าทำงานแล้วเกิดความสุข ก็จะทำให้เกิดความรักในงานนั้นด้วย เพราะถ้าเราสร้างความรักงานแต่ไม่มีความสุขกับการทำงานจริงๆ ก็คงเป็นแค่ความรักแบบชั่วคราวหรือไม่แท้จริง หรือท่านอื่นๆมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรครับ