งานแข่งโพน… ที่พัทลุง
"โพน" เป็นภาษาท้องถิ่นของจังหวัดพัทลุง ใช้เรียกเครื่องดนตรีไทยที่มีรูปร่างคล้ายกลองทัด "โพน" มีสามขา ตีด้วยไม้แข็ง 2 มือ ตัวโพนทำด้วยการขุดเจาะไม้จากต้นตาล ไม้ขนุน ฯลฯ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 35-80 เซนติเมตร โพนที่ทำพิเศษเพื่อการแข่งขันเรียกว่า "โพนแข่ง" โพนที่มีชื่อเสียงในอดีต ได้แก่ โพนชื่อ ฟ้าลั่น ,ก้องนภา,ฟ้าสะท้าน ,ชัยนิมิตร,ก้องนภา ,อีโครงพุก ,ฟ้าจำลอง ,น้องไพ ,ไอ้สมบูรณ์ ฯลฯ
…ทั้งร้อยพันหมื่นแม้นเสียงตะโกน ฤาจะสู้เสียงแข่งโพนที่เมืองลุง….
การใช้ประโยชน์จากโพน
ใช้ตีบอกเวลาของวัด เช่นตีตอนเช้า (07.00 น. ) พระฉันจังหัน หรือตีช่วงพระฉันเพล ( 11.00 น.) .ใช้ตีเพื่อเรียกคนมาประชุมในวัด …ใช้ตีให้จังหวะในการลากพระในวันออกพรรษา…ใช้ตีเพื่อการประชัน หรือแข่งโพน
ประวัติการแข่งโพน
ในช่วงเข้าพรรษา วัดทั่วไปในภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดพัทลุง พระหรือผู้เกี่ยวข้องจะต้องทำกิจกรรม 2 อย่างคือ สร้างโพน และทำเรือพระ ฉะนั้น ช่วงเข้าพรรษาจะได้ยินเสียงการตีโพนเพื่อทดสอบเสียง และการแต่งเสียงโพน ดังมาจากวัดทุกวัด โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำถึงเที่ยงคืน แต่ละวัดจะต้องตีให้ดังมากที่สุดเพื่อเป็นการกลบเสียงโพนของวัดอื่น.. ต่อมาได้มีการนัดหมายนำโพนของแต่ละวัดไปตีแข่งขันกัน โดย มีกรรมการฟังเสียงโพน 3 จุดแล้วตัดสิน กรรมการจะต้องฟังเสียงห่างจากจุดตีโพนไกลตามระยะที่ตกลงกัน เช่น 300 เมตร 800 เมตร เดิมไม่มีโทรศัพท์มือถือ กว่าจะได้คะแนนจะต้องใช้เวลาพอสมควร ปัจจุบันใช้โทรศัพท์บอกคะแนนได้รวดเร็ว
จังหวัดพัทลุงจัดการแข่งโพนครั้งแรก เมื่อ พ.ศ 2524 และจัดเป็นประเพณีทุกปีจนถึงทุกวันนี้ มีการรับสมัครและแบ่งสายจับคู่การแข่งขัน (เหมือนกีฬาฟุตบอลนั่นแหละ) ในปี 2550 นี้จัดแข่งโพนในช่วงวันที่ 17-25 ตุลาคม 2550 ครับ
ประเภทของการแข่งโพน
1.ประเภทเสียงดัง (สามารถกลบเสียงของคู่แข่งขันได้)
2.ประเภทลีลา (ดูลีลาของคนตี)
3.ประเภทตีทน(ตีนาน)
ภูมิปัญญา การทำโพนเป็นภูมิปัญญาของแต่ละสำนัก มีการลองผิดลองถูกกันมาหลายสมัยเช่นการใช้หนัง การตอกหมุด การดึงหนัง การขุดเจาะไม้ และประเภทของไม้ที่ใช้ทำโพน จนได้วิธีที่ดีทีสุดในปัจจุบัน มีการถ่ายทอดวิชาให้เยาวชนและผู้สนใจ.....นำมาเล่าพอเข้าใจครับ
ไม่มีความเห็น