คติเตือนใจ


ปวดศีรษะ มีไข้ เป็นเวลานานต่อเนื่อง เบื่ออาหาร อยากอาเจียร อย่านอนใจ

จากประสบการณ์จริงในชีวิต  ซึ่งเหตุการณ์นี้  เกิดกับน้องชาย ประมาณเดือนสิงหาคม  2550 
เมื่อ  18  สค.50  หนุ่ม (น้องชาย) ได้มาหาดิฉันที่ทำงานประมาณ 15.00 น. มารับยาที่เขาลืมไว้
และบอกว่าจะรีบไปหาหมอ  หมอนัดไว้  หลังจากนั้นดิฉันได้ทราบว่า หนุ่มได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ด้วยโรคที่คิดว่าเป็นคือ  ไซนัส  เย็นวันเสาร์ได้ไปเยี่ยม  น้องยังมีอาการปวดศีรษะอย่างมาก  มีไข้  เมื่อลุกขึ้นนั่งคุยได้สักครู่ 
หนุ่มเริ่มมีอาการอยากอาเจียร  (หนุ่มได้หาหมอรักษาไซนัสมาก่อนแล้วประมาณ 2 สัปดาห์) ดิฉันได้ติดต่อสอบถามกับพยาบาล
ว่าทำไมคนไข้ยังอาการไม่ดีขึ้นเลย  ก็ได้คำตอบแค่ว่าหมอได้จัดยาที่ดีที่สุดให้แล้ว 
วันอาทิตย์  ได้โทรศัพท์ไปหาหนุ่ม  หนุ่มรับโทรศัพท์แต่ไม่พูด  จากสัญญาณโทรศัพท์รู้ว่ามีการรับสายแต่ไม่พูด  ดิฉันพยายามพูดถามไป
แต่หนุ่มไม่ตอบ  จนดิฉันตัดสินใจวางสาย  และได้โทรไปหาน้องสาวซึ่งอยู่ใกล้ รพ.ให้เข้าไปดูหนุ่มหน่อย
พอน้องสาวเข้าไปก็โทรมาบอกว่า  พี่หนุ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้ว  พูดเพ้อเจ้อ  จะกลับบ้าน  จะไปทำงาน
และที่สำคัญ  คืนวันเสาร์คนที่พักด้วยเล่าให้ฟังว่าพี่หนุ่มเข้าไปในห้องน้ำ  เล่นน้ำในห้องน้ำเหมือนเด็ก
และลื่นหกล้ม   ทุกคนในบ้านตกใจ  พยายามถามหมอและพยาบาลก็ดูจะไม่ได้คำตอบ  ได้คำตอบแค่ว่า  หมอได้รักษาอย่างดีที่สุดแล้ว
ได้ตรวจทุกระบบแล้ว  แต่ยังไม่ทราบว่าหนุ่มเป็นโรคอะไร  จากการที่หนุ่มหกล้มในห้องน้ำ  หมอได้ให้ไปเอ็กซเรย์สมอง  ได้พบจุดในสมองคล้าย
เส้นเลือดตีบ  แต่หมอวิเคราะห์ว่าไม่น่าจะใช่  เพราะหนุ่มยังอายุน้อย  เพียง 39 ปี ไม่น่าจะเป็น ในขณะนี้หนุ่มมีอาการไม่รับรู้  พูดคุยเหมือนจะรู้เรื่อง
แต่เมื่อคุยไปสักครู่จะรู้ว่าเขาพูดคนละเรื่องกับเรา  เขาเริ่มพูดเลื่อนลอย 
วันจันทร์ 23 หมอมาจะทำการเจาะไขสันหลัง เพื่อตรวจหาเชื้อโรค  แต่ปรากกฎว่าหนุ่มดิ้น  และจากนั้นหมอก็ไม่ทำ  ด้วยเหตุผลคือคนไข้ไม่ให้ความร่วมมือ
หมอทำไม่ได้  ถ้าพลาดมาเป็นอัมพาตหมอต้องรับผิดชอบ  หมอจึงไม่ทำ   ให้รอหมอที่มีความชำนาญมาทำ  (นี่โรงพยาบาลเอกชนนะคะ  แต่ความรู้สึกเหมือนไป
รพ.รัฐบาลเมื่อ30-40 ปีที่แล้ว)  ดิฉันฟังแล้วใจหล่น...  จากอาการของหนุ่ม  พี่น้องทุกคนรู้สึกว่าทุกนาที   มีค่า  มีความหมายกับชีวิต  อนาคตของหนุ่มมาก ๆ
คืนวันจันทร์ที่ทรมาน   ระหว่างรอได้พยายามติดต่อหา รพ.ใหม่ให้หนุ่ม  แต่ก็ไม่มีหวังเพราะอาการของหนุ่มหนักมาก
จึงต้องทนรอจนเช้าวันอังคาร  เรารอจนประมาณ  10.00 น. เราได้สืบทราบมาว่าหมอที่ชำนาญเรื่องนี้  คือหมอวันชัย  ทวีโภคา 
เราไม่รู้จักหมอมาก่อนว่าหน้าตาเป็นเช่นไร   แต่เหมือนโชคช่วยได้ยินเสียงพยาบาลเรียกหมอคนหนึ่งหน้าลิฟ  ว่า  อาจารย์หมอวันชัย  อาจารย์หมอ...ขอพบ
ดิฉันเอะใจ  ว่าจะใช่เรื่องของหนุ่มมั้ย   แต่หมอวันชัยกำลังจะไปที่ไหนสักแห่งจึงตอบว่า  เดี๋ยวไปพบที่ห้อง  จากนั้นดิฉันได้พบคุณหมอวันชัย
ที่หน้าลิฟท์ชั้น 1 อีกครั้ง  อดใจไม่ไหวจึงเรียนถามท่านไปว่า   อาจารย์หมอวันชัย  ทวีโภคา   ใช่ไหม  ท่านตอบว่าใช่   ดิฉันจึงเรียนท่านว่า
น้องชายกำลังรอคุณหมอช่วยเจาะไขสันหลังให้อยู่   เมื่อวานคุณหมอ.....  ได้เจาะแล้วแต่ไม่สำเร็จ  จึงรอให้คุณหมอมาทำวันนี้  คุณหมอวันชัยพยักหน้า
ดิฉันถามรุกไปว่า   ถ้าวันนี้คนไข้ดิ้น   หมอจะทำอย่างไร  (กลัวหมอจะไม่ทำอีก)  หมอตอบว่าถ้าดิ้นผมวางยา   แต่ความจริงเมื่อวานน่าจะตัดสินใจได้
ไม่เห็นต้องรอถึงวันนี้  จากนั้นหมอวันชัยได้เดินด้วยความรวดเร็วไปยังห้องที่หนุ่มพัก  ผ่านเคาเตอร์พยาบาลซึ่งรออยู่  ถามว่าเครื่องมือพร้อมมั้ย 
พยาบาลบอกพร้อม  หมอเดินเข้าไปในห้องทันที   หมอให้ดิฉันรอหน้าห้อง   ดิฉันภาวนาขอให้หนุ่มไม่ดิ้น  ให้หมอเจาะไขสันหลังได้สำเร็จเพื่อจะได้รู้
สักทีว่าเป็นโรคอะไร  เวลาผ่านไปประมาณ  20  นาที  หมอเดินออกมาและบอกว่าเรียบร้อยแล้ว  ให้คนไข้นอนราบประมาณ  6  ชั่วโมง
ห้ามรุกเพื่อปรับสมดุลย์ของน้ำไขสันหลัง  ดิฉันถามคุณหมอว่าจะทราบผลเมื่อไร  บอกว่า  3  ชั่วโมง   (มีต่อ)

หมายเลขบันทึก: 140079เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2007 13:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 02:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
อ่านและเอาใจช่วย ให้น้องคุณจันทนีย์หายเร็วๆ  เห็นบอกว่ามีต่อ  แต่ทำไมหายเงียบไปเลยคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  บางครั้ง หมอบางคน ย้ำนะค่ะไม่ตรวจให้ละเอียดค่ะ เพราะเหตุการณ์เรื่องสมองเคยเกิดกับคุณแม่เหมือนกันค่ะ

ก่อนเกิดเหตุ แม่ปวดหัวมาก ลงมาจากห้องวันนั้นแม่ล้ม ดีนะค่ะที่ล้มตรงเตียงพอดี (ที่บ้านขายเฟอร์นิเจอร์) เลยพาคุณแม่ไปหาหมอ คุณหมออยู่ใกล้บ้านนะค่ะ  แต่เขาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านนะค่ะ   แม่ทำประกันไว้ด้วย หมอบอกว่าต้องรอดูอาการก่อน ผ่านไป 2 วันแม่อาการไม่ดีขึ้น ร้องไห้ และร้องเสียงดังบ่นปวดหัว เอามือกุมหัวตลอดเลย พอหมอเข้ามาราณีบอกให้เช็คสมองแม่ให้หน่อย  เชื่อไหมค่ะว่าไม่คิดว่าคนที่เป็นหมอจะพูดว่า ก็รอไปก่อน ซิ  ไม่ใช่มีประกันจะอยู่โรงพยาบาลนะ เขาพูดทำนองว่าแม่แกล้งปวดหัวนะค่ะ  เท่านั้นละค่ะ เลือดขึ้นหน้าเลย  เลยพูดสวนกลับไป ว่าถ้าเป็นแม่คุณจะทำยังไง เขาเงียบและบอกให้รอ  ราณี บอกว่าถ้าไม่ตรวจ จะย้ายโรงพยาบาลทันที ไม่รักษาที่นี่แล้ว ด้วยความที่เราเด็ดขาด และบอกหมอว่าเราไม่ได้มารักษาฟรีนะ  เราจ่ายเงินให้คุณ คุณมาตรวจ ได้ตังค์ในแต่ละครั้งทำไมไม่ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เขาเงียบ 

สักพักเขาสั่งให้พยาบาลส่งแม่ไปห้องเอ็กซเรย์สมอง ทันที ปรากฎว่า เส้นเลือดฝอยในสมองแตกค่ะ ห้องเอ็กซเรย์บอกว่ามาตรวจช้านะค่ะ ควรจะมาตั้งแต่ปวดแล้ว  หมอได้ยินเต็ม 2 รูหูเลยค่ะ เขาบอกว่าต้องลองดูแม่เพราะอาการอย่างนี้ บางคนเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต  ราณีมองหน้าหมอทันที ดูเขาจ๋อย ๆ นะค่ะ ตั้งแต่นั้นมาหมอพูดดีมากเลยค่ะ  บอกหมอนี่ถ้าแม่เป็นอะไรไม่ปล่อยไว้แน่ เขาบอกขอโทษค่ะ  แต่แม่ราณีโชคดี ไม่เป็นทั้งอัมพฤกษ์ และอัมพาตค่ะ ช่วงนั้นแม่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ต้องเช็ดตัว อุจจาระ ปัสสาวะจนกว่าแม่จะลุกได้ ต้องพยุงอยู่นานค่ะ  แต่นอนโรงพยาล เป็นเดือนกว่าแนะค่ะ

สอบถามค่ะ คุณหมอวันชัย ทวีโภคา ที่รักษาดีไหมค่ะ ตอนนี้คูณพ่อก็รักษาอยู่ที่นั้นเป็นเส้นเลือดในสมองตีบค่ะ มะวานได้คุณหมอช่วยดูแล แต่ในใจก็สับสนไปหมด แต่ก็เชื่อหมอนั้นละค่ะ ตอนนี้รอดูอาการคคุณพ่อในห้อง ICU อย่างเดียวเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท