ขณะที่เขียนบันทึกนี้ เป็นเช้าวันใหม่ เวลา 01.00 น. ณ ที่ทำงาน
กลับบ้านไปเมื่อตอน 20.00 น. ทำกิจกรรมที่มนุษย์พึงกระทำเสร็จแล้ว ก็ชั่งใจอยู่หลายนาทีว่า จะมาทำงานต่อให้เสร็จ หรือ ทำพรุ่งนี้ดี ... ปรากฏว่า ใจข้างทำงานชนะ
งานที่ว่าก็คือ การนั่งตรวจรายงานลูกศิษย์ เพื่อจะต้องออกเกรดให้ทันเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด เรียกว่า ตาแหกและตาปลิ้น ดีจริง
เข้ามาตะกี้ ... ก็ต้องไปเขียนบันทึกให้ รปภ.ประตูทางเข้าว่า ชื่ออะไร เลขทะเบียนรถอะไร และเข้ามาเวลากี่โมง (00.39 น.)
คิดถึงโฆษณา "ปลาเส้นฟิชโช" ที่มีผู้ชายอยู่ 4 ประเภท คือ ประเภทแรก แต่งงานแล้ว ประเภทที่สอง บ้างาน (สงสัยตัวเองอยู่) ประเภทที่สาม MAN แต่ ... จึ๊ย ๆ และสุดท้าย ก็ต๊อง กับ กินจนอ้วน
ออกเกรด ... นอกจากทำในกระดาษแล้ว ยังต้องส่งเกรดเข้าฐานข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอีกต่างหาก
ขับรถมาจากบ้าน ... เงียบสงบ รถนับคันได้ บางช่วงมีไฟทาง บางช่วงไม่มีไฟทาง อากาศเย็นสบายด้วยช่วงนี้ ลมหนาววิ่งเข้ามาแล้ว น่านอนมากกว่าน่าทำงานอีก
ในสมองมีอยู่หลายตอนทีเดียวที่เคยขี่รถตอนที่ถนนโล่งว่าง อากาศดี ที่สำคัญมองไปข้างทาง ชาวบ้านเค้าหลับกันหมดแล้ว เหมือนถนนเส้นนี้เป็นของเรา มันได้ความรู้สึกดี ... เคยไหมครับ
แว่บแรก .... ปิ๊ง ๆ ณ ถนนสายอำเภอเมืองเชียงราย - แม่สาย .... เคยขี่มาแล้ว เพราะทำงานกลับดึกบ่อย ประมาณเที่ยงคืน จังหวัดนี้ก็หลับกันหมดแล้ว เหลือแต่พวกขี้เมา พวกเที่ยวกลางคืน หรือสายตรวจตำรวจ ระหว่างที่ทำงาน กับ ที่พัก สักประมาณ 20 กิโลเมตร เคยขี่เป็นร้อย เพราะรถไม่มีเลย เงียบเชียบมาก .... ถนนเป็นของเรา
แว่บที่สอง .... ถนนสายแม่สรวย เชียงราย - ดอยสะเก็ด (จำหมายเลขทางหลวงไม่ได้) เส้นนี้จะใช้ตอนวันศุกร์ หลังเลิกงาน คือประมาณ 6 โมงเย็น (หลังจากกลับจากที่ทำงาน อาบน้ำ และแพ็คของเสร็จ) เริ่มเดินทาง จากฟ้าหลัวดำ ๆ ก็มืดสนิท ยกเว้นวันไหนเดือนขึ้น ฟ้าจะใส ปิดไฟหน้ารถ ยังขับได้เลย แต่มืดมาก เพราะมันผ่านป่าเขาและดอย นานจะเจอหมู่บ้านใหญ่สักที อันนี้ยืนยันว่า มืดจริง จะขี่เร็วเหมือนกัน แต่โค้งมันเยอะ ทำให้เสียเวลาพอสมควรกว่าจะถึง ... แต่ก็รู้สึก ถนนเป็นของเรา
แว่บที่สาม ... ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ออกจากเชียงใหม่ ตี 2 ใช้สายเชียงใหม่ - แม่มาลัย - ปาย - ปางมะผ้า - เมืองแม่ฮ่องสอน โฮ้ ... เงียบกว่า หมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านอยู่ห่างกันเป็นดอย สำหรับท่านที่เคยไปสม่ำเสมอจะทราบว่า กี่โค้ง กี่หมู่บ้านกว่าจะถึงกัน สมัยก่อนโน้น ไม่ค่อยกลัวอะไร เพราะยังวัยรุ่น มีเป้าหมายที่เดียวคือ ไปให้ถึงซึ่งแม่ฮ่องสอนให้ได้ ใจมันมุ่งมั่นมากครับ กว่าจะถึงแม่ฮ่องสอน ก็สัก 4 โมงเย็น ... แต่ถนนก็เป็นของเรา ในช่วงที่คนเค้ายังไม่ตื่นกัน
เอาพอแล้ว 3 แว่บพอ .... มากกว่านี้ เดี๋ยวยาว จะหาว่า แก่ ประสบการณ์เยอะ เดี๋ยวจะซวย ...
แต่ทราบไหมครับว่า เวลาที่ขี่รถถนนที่ไม่มีรถ ไม่มีคนแบบนั้น มีแต่เดือนกับดาวเป็นเพื่อนร่วมทาง เหมือนคุณอ่านหนังสือบทกวีสักเล่มที่รำพึงรำพรรณ ถึงความสวยงามของธรรมชาติ ความเงียบสงบของจิตใจ ... แถมอากาศของภาคเหนือก็เย็นฉ่ำ ยิ่งกว่าคุณนั่งในห้องแอร์เสียอีก
มันเป็นแค่ "ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ" ที่เราสามารถหาได้จากผืนแผ่นดินที่เรายืนอยู่ จากขาที่เราก้าวเดิน
คนขี้ลืม ก็ต้อง ป.ล. เสมอ ว่า ... คุณทราบไหม รถที่ผม "ขี่" คือ รถอะไร ... แต่คงไม่ใช่จักรยานแน่นอน และผมก็ไม่ได้บอกเลยว่า ผม "ขับ" รถ ....
สวัสดีเช้าวันใหม่ (อีกแล้ว) :)
กลับมาดูบันทึกที่ 5 ... แล้วมีความสุขดี :) ... ชีวิตที่ต้องดำเนินกันต่อไป
สวัสดีค่ะ
ตามมาอ่านบันทึกที่ 5
และมาส่งกำลังใจให้อาจารย์ด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบพระคุณ พี่ jaewjingjing ที่ทำให้บันทึกที่ 5 ตื่นจากหลับใหล เกือบครึ่งปีทีเดียว ครับ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ :)
สวัสดีจ๊ะ หนู morisawa :)
ขอบคุณครับ :)
แอบมาอ่านบันทึก...คนมีความสุข กับการขี่....อิอิ
ครูเอก็เคย ขี่รถขึ้นดอยคนเดียว (เรามาช้าเลยถูกทิ้ง พวกเขาคิดว่าเราไม่ขึ้นดอยแล้ว โดยเป็นทางดอยลูกรัง ถนนนั้นดินเหนียวจนเป็นสีเหลืองทอง เวลาขึ้นหน้าฝนต้องใส่โซ่ล้อหลัง ดีนั้นวันนั้นฝนไม่ตก ครูเอต้องขึ้นคนเดียว จากปากทางขึ้น เป็นระยะทาง 17 กิโล แทบตาย ขึ้นดอย 6 โมงครึ่ง ถึงโรงเรียน 2 ทุ่ม
เฮ้อ รอดตายแล้ว
กำลังจะไปผ่าค่ะ แล้วถ้าผ่าเสร็จ จะมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ
ติดตามอาการครับ ครูเอ :)
ถนนสายแห่งความหลัง
ถนนแห่งความทรงจำ
ถนนที่คลาสสิค นิรันดร์
มีความหลัง ถนนนี้เป็นของเรา ? :)
เรื่องราวของ "ถนน" เส้นที่วิ่งผ่าน ยังตระการอยู่ในใจเสมอครับ
ขอบคุณมากครับ คุณ Poo ;)...
ป.ล. บันทึกครบรอบ ๔ ปี ;)...