ต้องมองเห็นทุกข์กันเสียก่อน
ถ้าคนเราไม่มีทุกข์ก็คงจะไม่ต้องหาทางดับทุกข์กันให้วุ่นวายไปดังเช่นมีบางคนกล่าวว่า เขาไม่มีความทุกข์อะไร
เขามีทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าต้องการแล้ว เรื่องอะไรเขาจึงต้องปฎิบัติธรรมให้เหนื่อยยากลำบากกาย แต่เขาว่า เขาไม่มีความทุกข์
นั้นมันมีจริงหรือ เราลองสนทนาซักถามเขาดูทีหรือว่าจะตอบอย่างไร
เรา ผมขอแสดงความยินดีด้วย ที่คุณไม่มีความทุกข์อะไร หากคุณไม่รังเกียจ ผมใครขอเรียนถามว่าในเวลานี้คุณยังคงมีความหิว ความกระหายอยู่อีกหรือไม่
เขา ยังคงมีอยู่เป็นธรรมดาครับ แต่เมื่อหิวหรือกระหายเมื่อใดผมก็จะมีกิน มีดื่มทุกครั้งไปนี่ครับจะขอพักการสนทนากันไว้เพียงแค่นี้ก่อน แล้วลองมาพิจารณากันดูก็จะเห็นได้ว่าที่แล้ว ท่านผู้นี้ไม่รู้จักความทุกข์ว่าคืออะไร
เมื่อไม่รู้จักก็เลยไม่รู้ว่าตนตนกำลังมีทุกข์อยู่ อย่าน้อยที่สุดก็คือ " ทุกข์เพราะชาติ " คือการได้เกิดมามีสรีระล่างกาย
ซึ่งท่านจัดว่าเป็นทุกข์ประจำตัวของทุก ๆ คนไม่มีใครเหลีกเลี่ยงได้ ยังมีทุกประจำตัวอย่างอื่นอีก คือ
ทุกข์เพราะความเจ็บป่วย
ทุกข์เพราะความแก่ชรา
ทุกข์เพราะความตาย
เพราะฉะนั้นทุกข์ทางใจจึงไม่จำเป็นจะต้องเกิด พร้อมทุกข์ทางกายของเราเองเสมอไป แต่ยังเกิดขึ้นเพราะทุกข์
ทางกายบุคคลที่เรามีความผูกพันรักใคร่อยู่ด้วยกันก็ได้ นอกจากนี้ทุกข์ทางใจยังเกิดขึ้นจาก
ความพลัดพราจากกันกับคนที่เราชอบ
การได้อยู่ใกล้ชิดกับคนอื่นหรือสิ่งที่เเกลียดหรือสิ่งที่ชัง
ความปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้สิ่งนั้นหรือความผิดหวังต่าง ๆ