สารสนเทศกับการจัดการความรู้


สารสนเทศ

การนำสารสนเทศไปพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา 

              การจัดระบบบริหารและสารสนเทศ เป็นหัวใจสำคัญของการบริหาร เพื่อให้เกิดคุณภาพ  การศึกษา ตามหลักการบริหารนั้น การประกันคุณภาพภายในเป็นกระบวนการบริหารจัดการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ต้องการ

              หลักการและกระบวนการบริหารดังกล่าวเป็นสิ่งที่ใช้ในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ โดยมีกระบวนการวางแผน ทำตามแผน ตรวจสอบ ประเมินผล และปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อให้การทำงานได้ผลและมีคุณภาพดี (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2543 : 8)  ครูและผู้บริหารจะต้องร่วมกันพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพดี จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องผู้บริหารและครูในสถานศึกษามีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ว่าต้องการพัฒนานักเรียนให้มีคุณสมบัติอย่างไร ต้องช่วยกันคิด และช่วยกันวางแผน (Plan) ว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วช่วยกันทำ (Do) ช่วยกันตรวจสอบ (Check) และปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง (Action) เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยร่วมกันทำงานเป็นทีม (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ, 2545 : 9) 

                   ระบบสารสนเทศทางการศึกษานั้นมีความสำคัญ เพราะ ระบบสารสนเทศทางการศึกษาเป็นการรวบรวมข้อมูลทางการศึกษา ดำเนินการประมวลผลและวิเคราะห์ให้เป็นสารสนเทศ ระบบสารสนเทศที่ดีจะต้องเป็นตัวแทนของเหตุการณ์ มีหลักฐาน มีการวิเคราะห์แปลความหมายของข้อมูล มีการเสนอ รายงานสรุปและการเผยแพร่ ระบบสารสนเทศจึงเป็นระบบที่ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับข้อมูลดังต่อไปนี้ (วีระ, 2539 : 7) คือ  1.  รวบรวมข้อมูลทั้ง  ภายใน ภายนอก ซึ่งจำเป็นต่อหน่วยงาน  2.  จัดระบบเกี่ยวกับข้อมูลเพื่อให้เป็นสารสนเทศที่พร้อมจะใช้ประโยชน์ได้   3.  จัดให้มีระบบการจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ เพื่อสะดวกต่อการค้นหาและนำไปใช้  4.  มีการปรับปรุงข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อให้อยู่ในสภาพดีมีคุณภาพทันสมัยตลอดเวลา  สถานศึกษาที่มีระบบสารสนเทศที่สมบูรณ์ ครบถ้วน เป็นปัจจุบันเรียกใช้ได้สะดวก และตรงกับความต้องการ จะช่วยให้สถานศึกษาสามารถดำเนินงานพัฒนาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้างความมั่นใจอยู่บนฐานวิชาการ หลักฐานข้อเท็จจริงตรวจสอบได้ มีการวิเคราะห์ประมวลผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะสารสนเทศทั้งหลาย นอกจากใช้ในการวางแผนและประกอบการตัดสินใจแล้ว ยังนำไปสู่การพัฒนาความคิด และแสดงทางเลือกใหม่ ๆ ในการดำเนินการต่าง ๆ ด้วย (สำนักงานทดสอบทางการศึกษา, 2544 : 8) 

                   เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการพัฒนาคุณภาพตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงระดับปฏิบัติ สำนักงานทดสอบทางการศึกษา (2544 : 115) ได้แนะนำการจัดระบบสารสนเทศภายในสถานศึกษา เพื่อให้เหมาะกับการนำไปใช้ โดยจำแนกเป็นระบบย่อยพอสรุปได้ ดังนี้ 

            1.  ระบบสารสนเทศเป็นพื้นฐานของสถานศึกษา ประกอบด้วยข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวกับภาพรวมของสถานศึกษา 

            2.  ระบบสารสนเทศเกี่ยวกับผู้เรียน เป็นระบบสารสนเทศที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียนทั้งหมด 

            3.  ระบบสารสนเทศการบริหารงานวิชาการ เป็นการจัดระบบสารสนเทศเกี่ยวกับหลักสูตรและการเรียนการสอน 

           4.  ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ สารสนเทศประเภทนี้ต้องประมวลผลรวมมีการเปรียบเทียบข้อมูลอย่างถูกต้องทันสมัย 

           5.  ระบบสารสนเทศเพื่อการรายงาน    

            สรุปได้ว่าการจัดระบบบริหารของสถานศึกษานั้นต้องเอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เป็นระบบ และสารสนเทศต้องเป็นข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล ครอบคลุมงานทุกด้าน ถูกต้องทันสมัย และจัดเก็บเป็นหมวดหมู่สามารถนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็วทันความต้องการรวมทั้งใช้ประกอบการวางแผนและตัดสินใจได้เป็นอย่างดี 

หมายเลขบันทึก: 138052เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2007 10:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท