โรงพยาบาลทุกแห่งมีมาตรฐานเท่ากันไหม

เมื่อวันพฤหัส ที่ผ่านมา  ดิฉันพาแม่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเทพ  เนื่องจากแม่ได้ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจมาได้ 2 ปี  และต้องมาตรวจ           ร่างกายหลังผ่าตัดเป็นระยะๆ ตามที่หมอสั่ง   ทุกครั้งที่จะไปตรวจแม่ต้องเดินทางออกจากบ้านที่อุทัยธานี ตั้งแต่ตี 4 เพื่อให้ถึงโรงพยาบาลประมาณ 7 โมงเช้า  เพื่อต้องนัดตรวจเลือดและและเอกซ์เรย์ทรวงอก  กว่าจะตรวจเลือดเสร็จก็เกือบๆ 10 โมง  แม่ถึงได้กินข้าวเช้า  แล้วก็ต้องไปนั่งรอเรียกชื่อเพื่อเข้าพบคุณหมอตามนัด  กว่าจะได้พบคุณหมอก็เกือบๆ บ่ายโมง  กว่าจะต่อแถวรับยาเรียบร้อยก็อีกเป็นชั่วโมง  แต่เราก็เข้าใจเพราะว่า  ที่นี่คนไข้เยอะมาก  ก็คงเป็นธรรมดาของการมาโรงพยาบาลใหญ่ๆ ที่มีคนไข้วันละหลายพันคน

                 จนวันนัดครั้งนี้ พี่สาวซึ่งเป็นพยาบาล  รู้สึกสงสารแม่ที่ต้องมานั่งรอนานๆ  จึงปรึกษากับคุณหมอที่โรงพยาบาลที่บ้านให้ตรวจเลือดและเอกซ์เรย์ให้แม่จากโรงพยาบาลที่นี่ไปเลย   เพราะอย่างน้อยแม่จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก เรามีผลเลือดและฟิล์มไปแล้ว  รอพบคุณหมออย่างเดียว คุณหมอที่นี่ก็ว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร  พี่สาวจึงโทรไปถามโรงพยาบาลที่กรุงเทพ  ผู้ที่รับโทรศัพท์ (คิดว่าน่าจะเป็นคุณพยาบาล) ก็บอกว่า ได้....ไม่มีปัญหาอะไร  พี่สาวจึงจัดการตรวจเลือดและเอกซ์เรย์ แม่ในวันพุธ

                    พอได้เข้าพบคุณหมอ  คุณหมอดูผลเลือดและฟิล์ม แล้วก็บอกว่า 

          คุณหมอ : นี่ไม่ใช่ผลจากโรงพยาบาลของเรานี่   

         พี่สาว     :  ค่ะ  จากโรงพยาบาลที่บ้าน  โทรมาถามที่นี่แล้ว  เค้าบอกว่าตรวจเลือดกับเอกซ์เรย์ มาได้

         คุณหมอ : หรอ.... ใครเป็นคนบอกคุณ

       พี่สาว    :  ไม่ทราบค่ะ  แต่คิดว่าเป็นพยาบาลที่ วอร์ดศัลยกรรมทรวงอก

      คุณหมอ  :  ฟิล์มนี่ก็  จากโน่นใช่มั้ย   คราวต่อไป  อย่าทำแบบนี้อีกนะ    ให้คนไข้มาตรวจเลือด และ ฟิล์มที่นี่  บอกตรงๆ นะ ผมไม่มั่นใจผลเลือดกับฟิล์ม นี่เลย

                ดิฉันสงสัยจังค่ะ  โรงพยาบาลทุกแห่งมีมาตรฐานการตรวจเลือด และเอกซ์เรย์ ไม่เหมือนกันหรือคะ   แล้วถ้าโรงพยาบาลใหญ่ๆ ในกรุงเทพ  สามารถตรวจผลได้แน่นอนกว่า  แล้วคนไข้อีกหลายหมื่นหลายแสนคนที่รักษาที่โรงพยาบาลต่างจังหวัดเค้าก็จะได้รับการตรวจเลือดและเอกซ์เรย์ที่ไม่แน่นอนหรอคะ  แล้วอย่างนี้ คนต่างจังหวัดอย่างเราจะทำอย่างไรดีหรือทั้งหมดนี้ เป็นความคิดเห็นของคุณหมอคนนั้นคนเดียว  แต่จริงๆแล้วทุกโรงพยาบาลมีมาตรฐานเท่ากัน