การจัดการเวลา


ไม่ต้องพึ่งยาหมอเลย มีแต่ยาใจ

   เมื่อคืน ไปงานศพผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง เมื่อก่อนนี้ผมจะได้กินอะรที่อร่อยๆจากฝีมือท่านอยู่เสมอ ทุกครั้งที่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมท่าน ระยะหลังมานี้ผมมีภาระกิจมาก มีงานหลายอย่างที่ต้องทำ เลยไม่ได้เจอกับท่าน มารู้อีกที ก็ตอนที่ท่านเสียแล้ว  

    หลังฟังพระสวดอภิธรรมเสร็จแล้ว ก็มานั่งคุยกันกับญาติๆของท่านไปตามประสา  ในวงสนทนาก็มีท่าน สว.  ( ผู้สูงวัย ) อยู่หลายท่าน ท่านก็คุยกันว่าจะไปออกรอบกันที่โน่นที่นี่ไปตามเรื่องของผู้สูงวัย  ผมก็นึกอิจฉาอยู่ในใจลึกๆ ว่าเราจะมีโอกาสมีอายุยืนอย่างท่านหรือเปล่าหนอ  ท่านบอกกับผมว่าตอนนี้วางงานไว้ให้ลูกหลานทำต่อเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็จะเที่ยว เดินทาง พักผ่อน แล้วก็กลับบ้าน ( บ้านเก่า ) ท่านชี้มาที่ผมว่า ระวังนะทำงานอย่างนี้ เวลาอายุมากต้องได้ซื้อยากิน ผิดกับท่านที่ตอนนี้อายุมากๆแล้ว ไม่ต้องพึ่งยาหมอเลย มีแต่ยาใจ ( กำลังใจนั่นเอง )

     ระหว่างที่ขับรถกลับก็นึกถึงคำพูดของท่าน แล้วก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญของเวลาผิดไป เอาเวลาทั้งหมดไปอยู่ที่ภาระมากเกินไป จนลืมนึกถึงสุขภาพ ทั้งกาย และใจ เรียกว่ายังบริหารเวลาไม่เป็น  

     อย่ากระนั้นเลย ต่อไปนี้เราจะออกกำลังกายให้มากขึ้น โดยการวิ่งรอบๆทุ่งนาหลังบ้านในทุกๆเช้า  เพื่อสูดกลิ่นของข้าวที่กำลังออกรวง 

     แต่พอจะเริ่มต้นทำ  ฝนก็มาตกอีกนั่นแหละ ตกทั้งคืนเลย ตอนนี้ก็ยังพรำๆอยู่เลย  นี่แหละพอจะตั้งใจทำอะไรซักอย่างก็มักจะมีปัญหาอยู่เสมอ  ( ไม่ได้อ้างนะครับเป็นจริงๆ )  สงสัยจะไม่มีโอกาสได้พึ่งยาใจอย่างท่าน คงต้องได้พึ่งยาหมอแทนจริงๆเสียละมั้ง  เซ็งจริงๆเลย

 

หมายเลขบันทึก: 137303เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2007 08:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท