Titanic
ตอนหนังเรื่องนี้เข้าฉาย ผมกับครอบครัวไปดูกันที่กรุงเทพฯ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรืออำกันเล่นว่าหนังเรื่องนี้ฉายทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียจะมีการตั้งชื่อตามที่แต่ละประเทศนิยม ประเทศลาวตั้งว่า "ชู้รักเรือล่ม" ประเทศกัมพูชา ตั้งว่า "สำปั้นสวาท" ตอนไปดูมีโปรโมชั่นเอาตั๋วไปแลกซื้อข้าวโพดถังใหญ่ได้ในราคา ๗๐ บาท กินกันสี่คนก็ยังไม่หมดถัง เอาไปโปรดให้ปลาในสวนอาหารกินต่อกันอีก..ฮิฮิ....
หนังจบแล้วลองถามหลายๆคนดูว่าชอบหนังเรื่องนี้ตรงไหน คนที่ชอบเพชรพลอยก็จะบอกว่าชอบสร้อย Blue Diamond คนที่ชอบโรแมนติคก็จะบอกว่าชอบตอนที่พระเอกลอยคอแช่น้ำแข็ง ปล่อยให้นางเอกเกาะแผ่นกระดาน
แล้วถามว่าพระเอกตายเพราะอะไร ถ้าถามผมผมก็จะบอกว่าตายเพราะนางเอกอวบไปหน่อย ถ้านางเอกผอมกว่านี้นะพระเอกก็จะไม่ตายจะสามารถเกาะนอนบนแผ่นกระดานได้อีกคนและจะได้ใกล้ชิดนางเอก กอดกันอย่างอบอุ่นช่วยให้ร่างกายไม่หนาวตนเกินไป แฮ่......
ถ้าไปถามวัยรุ่นเขาก็จะบอกว่าชอบตอนที่พระเอกนางเอกยืนอยู่บนหัวเรือแล้วกางแขนรับลม ทำท่าจะบิน สำหรับผมประทับใจนักดนตรี เรือกำลังจะจมเพราะแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่และแสดงให้เห็นถึงอารมณ์มนุษย์ในภาวะที่จิตใจหมดอาลัยตายอยาก รู้ตัวว่าจะต้องตายแน่นอนแล้ว การเลบ่นดนตรีจึงเป็นการเล่นด้วยอารมณ์ศิลปินอย่างแท้จริง ได้อารมณ์นักดนตรีสวนอาหารอย่างผม (ก่อนมารับราชการผมเป็นนักดนตรีในสวนอาหารจริงๆ..ผับเผื่อย..)
สมัยผมเป็นเด็ก คุณพ่อไม่ชอบให้ดูหนังเพราะท่านมีแนวความคิดว่าการดูหนังเป็นเรื่องไร้สาระโดยเฉพาะหนังไทย พระเอกจนนางเอกรวย นางเอกจนพระเอกรวยเป็นผู้ดี ปลอมตัวมาจีบนางเอกรักกันจนในที่สุดนางเอกรู้ว่าพระเอกมีฐานะร่ำรวยก็โกรธพระเอกหาว่ามาหลอก...หรือพระเอกรวยมาชอบนางเอกซึ่งเป็นสาวชาวบ้าน แต่แล้วในที่สุดความจริงก็เปิดเผยออกมาว่านางเอกเป็นลูกผู้ดีที่ตกยากได้มาเจอคุณหญิงย่า ได้รับมรดก.....เฮ้อ...เพ้อฝันและไม่เห็นว่ามันสร้างสรรค์ตรงไหน ผิดกับหนังไทยในยุคปัจจุบันที่สะท้อนความจริงมีสาระมาก สร้างให้เห็นภาพว่าอันธพาลยุคก่อนมีใครบ้างสร้างวีรกรรมวีรเวรอะไรบ้าง การตีกันมันไม่ดีนะเพื่อสอนวัยรุ่นยุคปัจจุบัน สอนดีจริงๆจนยุคนี้วัยรุ่นตีกันเหมือนสมัยก่อนและก้าวหน้ากว่า สมัยก่อน ชกกัน เอาไม้ตีกัน เดี๋ยวเอาปืนมาไล่ยิงกัน .....เฮ้อ.....ที่นี่ประเทศไทย
การดูหนังให้มีคุณค่านั้นต้องดูแล้วคิดในหลายแง่หลายมุม ถ้าจะดูหนังให้ได้อารมณ์หลากหลายก็ต้องเอาตัวไปเทียบเป็นตัวละครในหนัง สมมุติว่าเป็นพระเอก สมมุติว่าเป็นนางเอก สมมุติว่าเป็นนางร้าย วันนี้จึงมาชวนเชิญให้ท่านคิดแบบนักกฎหมายครับ
หนังเรื่องนี้นางเอกชื่อโรส พระเอกชื่อแจ๊ค นางเอกมีคู่หมั้นแล้วเป็นมหาเศรษฐี เนื่องจากมันนานมาแล้ว และผมก็ไม่ได้สนิมทสนมกับเขาด้วยก็เลยนึกชื่อไม่ออก (ฮิฮิ) การหมั้นของโรสกับคู่หมั้นจะถูกต้องหรือไม่ เราไม่ทราบแต่อนุมานได้ว่าน่าจะหมั้นกันถูกต้องตามกฎหมายเพราะแม่ของนางเอกรับรู้แล้วด้วย มีการสวมแหวนแล้วด้วย มีการให้สร้อยคอบลูไดมอนด์ แล้วด้วย ถ้ามาดูตามกฎหมายไทย กฎหมายไม่ได้บังคับว่าจะสมรสกันต้องหมั้นกันก่อนแต่อย่างใด ดังนั้นการสมรมที่ชอบด้วยกฎหมายอาจไม่ต้องหมั้นกันก่อนก็ได้ แต่ถ้าหมั้นกันแล้วกฎหมายก็จะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ถ้าจะหมั้นกัน ประการแรกคือจะต้องมีของหมั้น เพราะกฎหมายบอกว่า ของหมั้นคือทรัพย์สินที่ฝ่ายชายมอบให้แก่ฝ่ายหญิงเพื่อเป็นการประกันว่าจะสมรสด้วย ถ้ายังไม่ได้มอบให้ก็ไม่ถือเป็นของหมั้นนะครับ เช่น จะหมั้นด้วยทอง ๑๐ บาท แต่เอามา ๕ บาท ส่วนที่เหลือ ๕ บาทจะเอามาให้ทีหลังเช่นนี้ ทอง ๕ บาทแรกเป็นของหมั้น แต่ ๕ บาทหลังเป็นแต่ลมครับไม่ใช่ของหมั้น
ประการที่สอง การหมั้นไม่เป็นเหตุบังคับให้ทำการสมรส ครับ หมายถึงว่าแม้การหมั้นจะทำถูกต้อง ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเบี้ยวไม่ยอมสมรส อีกฝ่ายหนึ่งจะบังคับให้สมรสด้วยไม่ได้ ได้แต่เรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนครับ นอกจากนี้จะทำสัญญากันว่าถ้าเบี้ยวไม่สมรสด้วยจะต้องชดใช้เบี้ยปรับเป็นเงินเท่านั้นเท่านี้ก็ไม่ได้อีก เพียงแต่ว่าถ้าฝ่ายหญิงผิดสัญญาหมั้นก็ต้องคืนของหมั้น หากฝ่ายชายเป็นฝ่ายผิดสัญญาฝ่ายหญิงก็เอาของหมั้นไป เท่านั้นเอง
ประการที่สาม การเรียกร้องค่าทดแทนในกรณีผิดสัญญาหมั้น จะต้องเกิดขึ้นจากคู่หมั้นไม่ยอมสมรสด้วยโดยไม่มีเหตุที่จะอ้างได้ตามกฎหมาย เช่น จะอ้างว่าคู่หมั้นหน้าตาไม่หล่อ ไม่เหมือนแจ็ค ดอว์สั้น อย่างนี้ไม่ด้ และจะเรียกร้องค่าทดแทนได้ก็ต่อเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ความเสียหายที่ว่ามีอะไรบ้าง เอาไว้ต่อตอนสองดีกว่านะครับ เห็นหลายท่านบ่นว่าผมเขียนยาวเกินไปอ่านไม่ทัน ครับ...
ความเห็น (8)
- ตามมาอ่าน
- Internet ช้ามากๆๆวันนี้
- ปกติจะเร็วมาก
- สงสารพระเอกเนอะ
- ถ้าถามผมผมก็จะบอกว่าตายเพราะนางเอกอวบไปหน่อย
- ถ้าเราไม่หมั้น
- เจ้าสาวยอมตามมาที่บ้านและเธอบรรลุนิติภาวะแล้ว
- ไปอยู่กับเรา(ฉุดไปนะครับ)
- ถามว่ามีความผิดทางกฎหมายไหม
- อิอิอิๆๆ
สวัสดีค่ะท่าน
- วันนี้ครูอ้อยมาอ่านเป็นคนแรกมั้งคะ
- การหมั้น ฝรั่งถามครูอ้อยว่า...คนไทยหมั้นเช้าและแต่งเย็น แปลกดีค่ะ
- ของฝรั่ง หมั้นเป็นปีเลยค่ะ....แบบนี้หากเป็นคนไทย หมั้นแล้ว...ไม่รอดแน่...เขาชอบค่ะ
ขอบคุณค่ะ
หวัดดีครับ อ.ขจิต
คิดจะชวนใครมาที่บ้านละเนี่ย ถ้าบรรลุนิติภาวะ แล้วอาจารย์ยังไม่มีคู่สมรสและชวนสาวอายุเกินยี่สิบมาอยู่ด้วย ก็ปลอดภัยด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้า อาจารย์มีเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แม้หญิงจะอายุเกินยี่สิบและยินยอม อาจจะผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารได้นะครับ ไม่ได้ขู่นะเนี่ย...อิอิ...
หวัดดีครับคุณครูอ้อย
การหมั้นในสมัยก่อนเพื่อให้คู่หมั้นและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเขาดูความเหมาะสมและความพร้อม โดยเฉพาะฝ่ายหญิงเขาจะดูว่าฝ่ายชายเป็นคนทำมาหากินหรือเปล่า และสมัยก่อนผู้หญิงเป็นใหญ่ครับ เพราะผู้ชายต้องมาอยู่บ้านผู้หญิง ช่วยฝ่ายหญิงทำมาหากิน เมื่อแต่งแล้วก็ต้องอยู่บ้านผู้หญิง ผู้ชายจึงต้องเกรงใจฝ่ายหญิงจึงมักไม่ค่อยมีเรื่อง แถมยังเป็นครอบครัวขยายลูกหลานจึงมีคนอบรมดูแลตลอด ผิดกับสมัยนี้เป็นครอบครัวเดี่ยวถ้าเข้าใจการดูแลอบรมสั่งสอนก็ดีไป ไม่เข้าใจก็เกิดปัญหา เห็นกันอยู่หลายครอบครัวครับ
- สวัสดีค่ะ อาจารย์
- กฎหมายเปิดช่อง หมั้นแล้วเบี้ยวๆๆๆๆๆ คืนของหมั้นก็ไม่เป็นไร เพราะใช้จนคุ้มละ
- -----
- อ.ขจิต เล็กพริก......ฉุดผู้หญิงจะไหวเหรอคะ ขอให้ฉุดหญิงไทยนะคะ ฉุดแหม่ม ป้าไม่ปลื้มค่ะ อิอิอิ
อ่านแล้วก็มีประโยชน์มากคะ ท่าน แต่พอถึง ป้าแดง ป้าอ้อย อาจารย์ขจิตฉุดแหม่ม ป้าไม่ปลื้มค่ะ อิอิอิ นกว่าดีนะเขาได้สินค้ามาประเทศเรานะ
ขอบคุณป้าแดง
ที่แวะมาเยี่ยมครับ คราวนี้ผมเขียนสั้นๆสองตอนจบ กลัวคนเบื่อครับ สำหรับ อ.ขจิต ปล่อยแกไปเหอะแกจะฉุดใคร ผมว่าแกเก่งแต่พูด(ว่าฉุด) อิอิ เพราะไม่งั้นแกมีเมียไปนานแล้ว ฮ่าๆ
ขอบคุณคุณรัตน์ชนก 
ที่แวะมาเยี่ยมครับ ขอบคุณสำหรับคำชมครับ
สวัสดีค่ะ ...คุณบัณฑูร
เอ...ฮืม... ฝรั่งเค้ามีหมั้นกันแบบไทยมั้ยคะ แล้วงี้กฏหมายการหมั้นเค้าเป็นแบบไหนคะ เห็นมีแต่ฟ้องหย่ากันจัง (ในหนัง)
ทำให้นึกถึงละคร เรื่องกลิ่นแก้ว กลางใจ (เพิ่งได้ดู ...จริงๆ มันคงจะจบไปนานแล้วล่ะค่ะ) พระเอกโดนบังคับให้จดทะเบียน เค้าไม่เซ็น ถูกจับปั๊มรอยนิ้วมือ อย่างงี้ได้มั้ยคะ
ส่วนเจ้าสาว ก็ไม่ยอมแต่ง แต่รายนี้ถูกบังคับ จับเซ็นใบสมรส ...แต่เอ... เค้าเล่นจับมือเซ็น อย่างงี้ลายเซ็นมันขยุกขยิก ถือว่าได้มั้ยคะ
555 เปลี่ยนจากหนังฝรั่ง เป็นละครไทยซะงั้น พอดีโรสอวบไปหน่อยอย่างที่ลุงขจิตบอกอ่ะค่ะ เลยไม่ค่อยอิน
^____^
สวัสดีครับคุณ 
การสมรสต้องเกิดจากความสมัครใจครับ การบังคับขู่เข็ญให้ลงลายมือชื่อ ถือว่าการสมรสนั้นไม่สมบูรณ์ สามารถถูกปฏิเสธได้ แต่ก็ต้องยกขึ้นมาฟ้องร้องขอให้ศาลเพิกถอนการสมรสเสียภายใน ๑ ปี
บังเอิญว่าไม่ได้ดูละครเรื่องนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าตอนเซ็นชื่อนั้นเป็นการเซ็นชื่อในทะเบียนสมรสหรือเซ็นชื่อในสัญญา แล้วคนที่รับจดทะเบียนสมรสให้เป็นปลัดอำเภอเขาไม่ว่าอะไรหรือครับ สงสัยต้องหาเรื่องนี้มาอ่านและเอามาวิเคราะห์กันใหม่ ว่าแต่ว่าคุณ is มีเรื่องย่อไหมครับผมจะวิเคราะห์ให้อ่านเล่นๆครัล
ฝรั่งจะมีการหมั้นหรือไม่ ไม่ค่อยแน่ใจกฎหมายของเขานะครับ แต่ฝรั่งไม่มีการสู่ขอแบบของเรานี่ครับ เขาชอบกันเขาหมั้นกันเอง แต่ของเรามีผู้ใหญ่อยู่ด้วย และข้อสังเกตุกฎหมายเราใช้คำว่า "ฝ่าย"ชาย ฝ่ายหญิง หมายถึงผู้ใหญ่ด้วยครับเพราะอยู่ในฝ่ายนั้นๆครับ