สมเด็จเจ้าฟ้าในดวงใจ


ณ วันนี้ วันที่เราได้เห็นการสืบต่อปณิธานที่ยิ่งใหญ่ จากแม่สู่ลูก จากสมเด็จพระบรมราชชนนี ถึงพระองค์ท่าน ผู้เป็นประดุจ รุ้งงามที่ทาบทอบนแผ่นฟ้า ฉาบฉายฉานความสดใส ชุมชื้น หลังฝนชโลมดิน

6 พฤษภาคม  เมื่อ 84 ปีกว่ามาแล้ว   เจ้านายไทยพระองค์น้อยได้ประสูติ ณ ต่างแดนอันห่างไกล   ใครเลยจะทราบได้ว่าเจ้านายพระองค์นี้ในภายหน้าจะทรงสร้างคุณูปการอันเป็นประโยชน์ แก่ชาวไทยมากมายอเนกอนันต์  ใครจะทราบได้ว่าเจ้านายพระองค์นี้จะดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระพี่นาง ของพระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงคุณอันประเสริฐถึง 2 พระองค์  พระนามของพระองค์ท่านได้ถูกจารึกไว้ในหัวใจของราษฎรไทยมายาวนาน ในฐานะของเจ้านายฝ่ายในที่ทรงกรม พระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช   สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

นับแต่จำความได้ ข้าพเจ้าได้เห็นภาพพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินตามสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการเยี่ยมเยียนราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดาร  โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  หรือ พอสว. มาอย่างต่อเนื่อง  ทรงไม่ถือพระองค์ และทรงให้กำลังใจแก่ราษฎร และเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา เป็นภาพพิมพ์ใจที่ชินตา ที่ได้เห็นเจ้าหน้าที่แต่ละจังหวัดที่เสด็จไป  จะร้องเพลงประจำจังหวัดถวาย และทรงชมเชยอยู่เสมอ  อันแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อคนไทยในทุกวัยทั้งเด็ก  ผู้ใหญ่  และคนชรา   สายพระเนตรอันอ่อนโยน  พระสุรเสียงที่ตรัสถามและให้กำลังใจ ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของข้าพเจ้ามาตลอด

ทรงมีโครงการในพระอุปถัมภ์หลายร้อยโครงการ ทั้งด้านการแพทย์ ประวัติศาสตร์ ดนตรี ศิลปะ สัตว์เลี้ยง  โดยเฉพาะด้านการศึกษา ทรงสนพระทัยและทรงสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางปัญญาด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของนักเรียนในระดับโรงเรียน ด้วยทรงเห็นว่าการศึกษาในระดับโรงเรียนเป็นพื้นฐานของการศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงให้ความอุปถัมภ์การจัดส่งนักเรียนไปแข่งขันวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ระหว่างประเทศ ตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มส่งนักเรียนไปแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 30 ณ ประเทศสาธารณรัฐเยอรมัน เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2532 จนถึงปัจจุบัน ด้วยทรงเห็นว่าการแข่งขันระดับนานาชาติจะช่วยพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนให้มีความสามารถทัดเทียมนานาประเทศได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศในระยะยาว   ทรงประทานทั้งเงินและกำลังใจ ทรงห่วงใยและติดตามผลของการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ทรงตั้งมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของนักเรียนทั่วประเทศให้ได้มาตรฐานสากล ซึ่งเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลแบบยั่งยืนและประเทศไทยจะได้นักเรียนเก่งระดับมาตรฐานสากล มาร่วมเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคตมากขึ้น

ในด้านดนตรี  ทรงสนพระทัยในในดนตรีคลาสิกเป็นอย่างมาก ได้ทรงให้ทุนและสนับสนุนนักเรียนที่มีความสามารถทางดนตรี ในการศึกษาเล่าเรียนในสถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียงของโลก   สนับสนุนสถาบันด้านดนตรี และการจัดแสดงดนตรีระดับโลก เพื่อเปิดโลกทัศน์และส่งเสริมความสามรถของนักดนตรีไทย   ทำให้ดนตรีคลาสิกเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเพิ่มมากขึ้น

ด้านการพระศาสนา ทรงเอาพระทัยใส่ และทำนุบำรุงพระศาสนา  ให้การอุปถัมภ์ทางการศึกษาแก่สถาบันสงฆ์มาอย่างต่อเนื่อง  ตลอดจนได้ดำริในการเผยแพร่พระศาสนาให้กว้างไกลออกไปในสายตาชาวโลก  ในการจัดทำพระไตรปิฎกฉบับภาษาโรมัน และนำไปถวายยังประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนาพุทธอย่างถูกต้อง เฉกเช่นกับสมเด็จพระอัยกาธิราช รัชกาลที่ 5 ทรงเคยกระทำ

ด้านการแพทย์ นอกจากการดูแลมูลนิธิ พอสว. เพื่อสืบต่อปณิธานของพระราชชนนีแล้ว ยังทรงรับมูลนิธิ องค์กร  และหน่วยงานด้านการแพทย์ไว้ในพระอุปถัมภ์มากมาย อาทิ มูลนิธิโรคไต  มูลนิธิโรคหัวใจ  เป็นต้น โดยทรงวิริยะจัดหาทุน จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสมีสิทธิทางการแพทย์ที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังทรงมีพระอัจริยภาพในด้านการประพันธ์  พระนิพนธ์ที่มีชื่อเสียงหลายเล่มเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก  โดยเฉพาะเรื่องราวส่วนพระองค์ที่พสกนิกรไม่เคยทราบมาก่อน เช่น แม่เล่าให้ฟัง     เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย์      เวลาเป็นของมีค่า     จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์

มหามงกุฎราชสันตติวงศ์   และพระนิพนธ์เกี่ยวกับประเทศต่างๆ ที่เสด็จประพาส  ล้วนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพสกนิกร  และยิ่งมีพสกนิกรน้อยนักที่จะทราบว่าพระองค์ท่านยังมีพระอัจฉริยภาพด้านการขับเครื่องบินปีกสองชั้น และเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย

                หลายเรื่องราวที่เรารู้ ณ วันนี้ เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งแห่งพระมหากรุณาธิคุณ ดุจดั่งสายธารใส ไหลเย็นหล่อเลี้ยงหัวใจของพสกนิกรชาวไทย     วันนี้  วันที่พระองค์เดินทางมายาวไกลในฐานะสมเด็จพระพี่นาง กว่า 72 ปี  เราไม่เคยเห็นพระองค์เหน็ดเหนื่อย   เราไม่เคยเห็นพระองค์ย่อท้อ  เราเห็นแต่รอยแย้มพระสรวล  ยามเมื่อทรงเยี่ยมเยียนประชาชนของพระองค์ในทุกพื้นที่ที่ทรงเสด็จไป  ณ วันนี้  วันที่เราได้เห็นการสืบต่อปณิธานที่ยิ่งใหญ่ จากแม่สู่ลูก  จากสมเด็จพระบรมราชชนนี ถึงพระองค์ท่าน  ผู้เป็นประดุจ รุ้งงามที่ทาบทอบนแผ่นฟ้า ฉาบฉายฉานความสดใส ชุมชื้น หลังฝนชโลมดิน   ณ วันนี้  วันที่เราได้เห็น ความเอื้ออาทร และพระปณิธาน ที่สอดคล้องกันของพี่น้อง ระหว่างพระองค์ท่านกับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ที่ตั้งมั่นจะดูแลราษฎรของพระองค์ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกวิถีทาง   ณ วันนี้ วันที่เรามีเจ้าฟ้าผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ที่เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต  ถึงแม้จะสูงค่าเพียงใด แต่ทรงใช้ชีวิตดุจสามัญชน ที่สุขุม และยึดมั่นในความพอเพียง ประดุจเดียวกับพระราชมารดา และพระอนุชา  เป็นสมเด็จเจ้าฟ้าในดวงใจของพสกนิกรตราบนานเท่านาน   

หมายเลขบันทึก: 136757เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2007 20:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม 2012 12:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท