เรื่องเล่า ประสบการณ์ตรง จาก ผอ.สตรข.3


ต่อยอดความรู้

ประสบการณ์ : สร้างสรรค์ แก้สูญเสียที่สุดสวย
ความเป็นมา
          ราวปลายเดือนพฤษภาคม  ปี 2541 เวลาประมาณ 06.00 น.  ขณะที่ผมทำงานในฐานะผู้อำนวยการกองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีภาระรับผิดชอบงานด้านบริการ อำนวยความสะดวก นอกจากการบริหารงบประมาณแล้วยังมีงานสนับสนุนทั้งสาธารณูปโภค สาธารณูปการและอาคารสถานที่ทั้งหมด ภายในกระทรวงฯ ให้เป็นไปด้วยความสะอาด เรียบร้อย สวยงามและปลอดภัย     แต่ได้ขอพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักหัวหน้าฝ่ายพัสดุ ในบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ  ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (ยาม)  แจ้งให้ทราบว่า มีผู้ชาย 2 คน นำเต็นท์มาปักกางขวางหน้าป้ายกระทรวงศึกษาธิการตรงบริเวณที่ว่างระหว่างทางเข้า-ออก ผมรีบไปพบบุรุษทั้งสอง ทราบว่า มาตั้งเต็นท์ประท้วงการทำงานของกรมการศาสนาเรื่องที่ดินศาสนสมบัติกลาง ในวันนั้นผมพยายามพูดจาเพื่อเกลี้ยกล่อมด้วยเหตุผลและขอความเห็นใจให้คนทั้งสองเปลี่ยนจุดที่ตั้งเต็นท์ไปตั้งที่บริเวณริมเกาะถนนราชดำเนินนอกใต้ต้นมะขาม ซึ่งไม่ไกลจากที่เดิม แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ  เพราะเขาอ้างว่าหากไปตั้งที่นั่นจะไม่มีผู้สนใจรับข้อเสนอการประท้วง  ผมเรียนท่านปลัดกระทรวงฯ  ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ่งที่ได้ดำเนินการไป แต่ไม่สำเร็จ  ให้ท่านทราบด้วยความกังวลใจ ต่อมาท่านได้เชิญอธิบดีกรมการศาสนามาร่วมหารือ และมีการมอบหมายให้จัดคณะข้าราชการไปรับฟังข้อเสนอและขอให้ยุติการประท้วง แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะผู้ประท้วงยืนกรานจะตั้งเต็นท์ต่อไปจนกว่าจะได้รับคำตอบตามความประสงค์หรือเป็นที่พอใจ ซึ่งคงจะตั้งเต็นท์อยู่อีกนานวัน  เมื่อการพูดจาไม่ได้ผล  ท่านปลัดกระทรวงฯ จึงเชิญคณะผู้เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันอีกครั้ง  มีข้อเสนอวิธีสลายการประท้วงทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ กทม.  ตำรวจ และกระทรวงศึกษาธิการมากมาย  แต่ทางเลือกที่ตัดสินใจดำเนินการสุดท้ายคือการใช้กำลังเคลื่อนย้ายเต็นท์ไปยังจุดที่ตั้งที่ผมเคยเสนอเขาทั้งสองแต่แรก
            ก่อนการปฏิบัติการจะเริ่มขึ้น ผมมีข้อเสนอต่อท่านปลัดกระทรวงฯ ว่าจะอาสาไปพบเขาทั้งสองอีกครั้ง  ด้วยข้อเสนอที่ฉุกคิดขึ้นได้ว่าน่าจะเป็นผลสำเร็จ นั่นคือการขอให้ท่านปลัดกระทรวงฯ บันทึกสั่งการ(ย้อนหลัง 1 สัปดาห์)  ให้ผมเตรียมการจัดตกแต่งซุ้มเพื่ออัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ประดิษฐานบริเวณหน้าป้ายกระทรวงฯ  ให้เสร็จภายในกลางเดือนกรกฎาคม  2541  เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2541  เมื่อที่ประชุมเห็นชอบ  ในเวลาต่อมา  ผมได้จัดทำบันทึกพร้อมแผนปฏิบัติการในเรื่องดังกล่าวนำเสนอท่านปลัดกระทรวงฯ ลงนาม   
            จากนั้นผมและหัวหน้าฝ่ายพัสดุก็ไปพบผู้ประท้วงทั้งสองตอนใกล้ค่ำของวันนั้น   ผมกำหนดวิธีใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ยื่นมิตรภาพ  มอบถุงผลไม้ให้เขา ถามสภาพความเป็นอยู่ของเขาค่อนข้างนาน  เมื่อสัมผัสว่าเขาให้ความไว้วางใจและให้เกียรติพอสมควรแล้ว  ผมก็เริ่มรุกเขาบ้าง โดยพูดคุยในเชิงระบายว่าตัวเองกำลังมีทุกข์ เพราะยังไม่สามารถจัดทำซุ้มตกแต่งที่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้  เพราะเต็นท์ของเขาตั้งขวางบริเวณก่อสร้างพร้อมกับนำหนังสือสั่งการของท่านปลัดกระทรวงฯ ให้เขาดูเพื่อยืนยันให้สมจริงด้วย  เขาแสดงความเห็นใจซักถามระยะเวลาก่อสร้าง  ระยะเวลาตั้งซุ้มประดิษฐาน และการรื้อถอนเมื่อเสร็จภารกิจดังกล่าว  โดยสรุปใช้เวลาตามแผนทั้งหมดราว 45 วัน   
            แทบไม่น่าเชื่อว่าบุรุษทั้งสองยอมให้เคลื่อนย้ายเต็นท์ไป ณ จุดที่ผมกำหนดให้ตามที่กล่าวแต่ต้น  และมีข้อต่อรองกับผมด้วยว่าเมื่อพ้นช่วงเวลาดังกล่าวแล้วเขาทั้งสองขอให้ผมย้ายเต็นท์กลับมาที่เดิม  ผมรับข้อต่อรองเพราะเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นเหตุการณ์ประท้วงคงจะคลี่คลายผมใช้วิทยุสื่อสารเรียกระดมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมด 4 คน มาช่วยกันเคลื่อนและขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ของเขาไป ณ จุดกำหนดเสร็จในคืนนั้นด้วยบรรยากาศการอนุเคราะห์อย่างเอื้ออาทรและเต็มใจ ในลักษณะ win & win  ทันที
            เช้าวันรุ่งขึ้น ผมก็สั่งพวกช่างก่อสร้างเร่งขนวัสดุก่อสร้าง  กระถางต้นไม้ปรับแต่งสถานที่และลงมือก่อสร้างอย่างเร่งด่วน แม้ว่าจะเป็นปีที่ใช้เวลาก่อสร้างตกแต่งเร็วและยาวนานอย่างต่อเนื่องกว่าทุกปี  แต่ก็เป็นปีที่สร้างประวัติการจัดสวนหย่อม ไม้ประดับอย่างถาวรเกิดขึ้นบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการจนเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดการจัดตกแต่งสวนหย่อมไม้ดอกไม้ประดับในบริเวณอื่น ๆ ภายในร่มรื่นและสวยงามอย่างถาวร จนกระทั่งได้รับรางวัล หน้าบ้านน่ามอง ตามโครงการของกรุงเทพมหานคร ในปี 2542 ถัดมา
            ความเป็นไป จากที่มาและที่ไป คือ จุดเริ่มต้นและความสำเร็จครั้งนี้ พอจะสรุปเป็นองค์ความรู้จากตัวผมได้ดังนี้
            1.  ผู้บังคับบัญชา
                    1)  ต้องรับทราบเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว
                    2)  ต้องวางแผนการแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการทางปัญญา
                    3)  ต้องเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาโดยไม่ย่อท้อและมีความจริงใจต่อคนที่ก่อปัญหาด้วยเมตตาธรรม
                    4)  หากอาศัยสถานการณ์อันสำคัญ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อันเป็นพระบารมีที่พสกนิกรชาวไทยเคารพเทิดทูนเป็นองค์ประกอบสำคัญ   ในการยกกล่าวอ้าง จะช่วยให้ทางแก้ปัญหาสำเร็จลงได้ด้วยความเต็มใจ
            2.  ผู้ร่วมทำงาน
                    1)  ต้องรับทราบสภาพปัญหา สาเหตุเป้าหมายทางเลือกในการแก้ไขปัญหา
                    2)  ต้องร่วมทำงานโดยหลักสามัคคีธรรม
                    3)  ต้องปฏิบัติภารกิจด้วยความรอบคอบและอดทน
            3.  ผลพลอยได้จากเหตุการณ์นี้ เป็นโอกาสให้องค์การคือ กระทรวงศึกษาธิการ คิดแก้ปัญหาในเชิงพัฒนาโดยการจัดตกแต่งสวนหย่อมอย่างสวยงามหน้ากระทรวงศึกษาธิการเป็นครั้งแรกและสามารถแก้ปัญหาการตั้งเต็นท์ประท้วงด้วยสาเหตุต่าง ๆ ได้อย่างถาวร


                                         *****************************

หมายเลขบันทึก: 13666เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2006 16:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท