เป็นคนฉลาดแบบใดดี ตอน 2 (ตอนจบ)
จากสภาพสังคมปัจจุบัน ความฉลาดที่มาจากการมีสติปัญญาที่ดี หรือมี IQ สุงนั้นอาจจะไม่เพียงพอ สิ่งที่ควรพัฒนาควบคู่กันไปกับIQ ก็คือ การมี EQ (Emotional Quotient)ซึ่งหมายถึง ความฉลาดทางอารมณ์ ที่สามารถรับรู้และเข้าใจอารมณ์ทั้งของตนเองและผู้อื่น ตลอดจนสามารถปรับตัวหรือควบคุมได้เหมาะสมกับสภาพการณ์ เพราะสมองของคนเราแบ่งเป็นซีกซ้ายและซีกขวาที่เชื่อมโยงถึงกันด้วยเส้นใยประสาทจำนวนมาก การเรียนรู้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสมองได้รับข้อมูลจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และ ผิวกาย โดยสมองซีกซ้ายจะเกี่ยวข้องกับความสามารถในการใช้ภาษาพูด การวิเคราะห์ การคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล การจัดความสำคัญก่อนหลัง การควบคุมพฤติกรรม การนับจำนวน การบอกเวลา ที่เป็นความฉลาดทางปัญญา ในขณะที่สมองซีกทางขวาเกี่ยวข้องกับจินตนาการ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สัญชาติญาณ การสังเคราะห์ การซึมซับในดนตรีและศิลปะ ที่เป็นความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ นั่นเอง และการทดสอบEQ จะเป็นการวัดด้วยการประเมินจากความคิดเห็น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านอารมณืใน 3 ด้านได้แก่
ด้านดี คือ การควบคุมอารมณ์และความต้องการตนเอง เห็นใจผูอื่น ความรับผิดชอบ
ด้านเก่ง คือรู้จักและมีแรงจูใจตนเอง การตัดสินใจและแก้ปัญหา รวมไปถึงการมีสัมพนธ์ภาพกับผู้อื่น
ด้านสุข คือ ความภูมิใจในตนเอง ความพึงพอใจในชีวิตและมีความสุขสงบ
จะเห็นได้ว่าทั้ง IQ และ EQ มีความสำคัญต่อทุกคน เพราะเราจะต้องพัฒนาตนเองให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดีของสังคม เพื่อให้การอย่ร่วมกันในสังคมเป็นไปอย่างสงบสุข สำหรับผู้ที่สนใจต้องการทดสอบIQ สามารถเข้าทดสอบได้ที่ www.iqtest.dk และทดสอบ EQ ได้ที่ www.Bangkokhealth.com
เป็นบทความที่ควรทำการเผยแพร่ออกไป เพราะปัจจุบันทั้ง IQ และ EQ มีความสำคัญที่สอดรับกัน