ทำไมต้อง "ประชาธิปไตย" Why Democracy?


สารคดีเรื่องนี้มีหลายตอน ตอนที่เพิ่งได้ดูจบไป ชื่อตอน Please Vote for me ที่มันน่าสนใจเพราะเขาไปถ่ายทำ "ประชาธิปไตย" ในชั้นเรียนประถมศึกษา ของประเทศจีน 

สารคดี จากช่อง SBS (ช่องแปดของออสเตรเลียครับ ฉายสารคดีกับข่าวเป็นหลัก ไม่มีละคร และเกมส์โชว์) นี้มีหลายตอนครับ เจาะค้นความหมายของประชาธิปไตย ฉายทุกวันอาทิตย์ช่วงประมาณสองสามทุ่ม

เรื่องราวเป็นเรื่องการเลือกหัวหน้าห้อง "เป็นครั้งแรก" นักเรียนอายุแปดขวบสามคน ได้รับการเสนอชื่อจากครูประจำชั้นให้เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งให้เป็นหัวหน้าห้อง

ความสนุกอยู่ตรงที่ว่า คุณครูเปิดโอกาสให้ผู้สมัครแต่ละคนมีเวลาหลายวัน ในการหาเสียง รอบแรก ด้วยการการพูดเดี่ยวๆ หน้าห้อง แสดงความสามารถต่างๆ หลายวันต่อมาเป็นรอบที่สอง เป็นการดีเบท จับผู้สมัครมายืนหน้าห้อง ผลัดกันใช้เหตุผลเพื่อโน้มน้าวว่า ตนมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ มีประโยคเด็ด ที่เขาเอามางัดกันเช่น

"เธอมีข้อเสียที่สำคัญคือ เธอกินข้าวช้าเกินไป"

"การกินข้าวช้าหรือเร็วเป็นบุคลิกส่วนตัวของฉัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับการเป็นหัวหน้าห้อง"

"การเป็นหัวหน้าห้องต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง ถ้าเธอกินช้า เธอจะเป็นตัวอย่างให้กับเพื่อนๆ ได้ยังไง"

"เรื่องนั้นชั้นปรับตัวได้ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญซะหน่อย"

งานนี้พ่อแม่ของเด็กๆ ทั้งสามคนที่ได้รับการเสนอชื่อ เตรียมตัวให้ลูกอย่างเต็มที่ครับ เนื่องจากนโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีน เด็กๆ ทั้งสามจึงเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ซึ่งล้วนเป็นคน มีหน้ามีตาในสังคม เป็นผู้จัดการ, เป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์, เป็นผู้กำกับการตำรวจ แต่ละคนก็งัดเอากลยุทธมาช่วยลูกอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ช่วยเขียนสคริปหาเสียง เสริมสร้างความมั่นใจให้ลูก หรือแม้กระทั่งสอนวิชามารอย่างเช่นการติดสินบน ด้วยการพาเพื่อนๆไปเที่ยว และแจกของ

สรุปว่าคนที่ชนะการเลือกตั้งคือคนที่ใช้วิชามารครับ

มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่สองสามเรื่อง

เรื่องแรกคือความเป็นหัวแก้วหัวแหวนของเด็กจีนสมัยปัจจุบัน ซึ่งทุกคนเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ทุ่มเทความรักให้เป็นอย่างมาก จนอาจกล่าวได้ว่าเมื่ออยู่ที่บ้านทุกคนแทบจะเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเองและข่มขู่พ่อแม่

เรื่องที่สองคือ การทำความเข้าใจ "ปรัชญา"ประชาธิปไตยของคนจีนซึ่งเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ มีความน่าสนใจครับ เขาเปิดโอกาสให้นักเรียน สัมผัสและมีปฏิสัมพันธ์กับระบบการเลือกตัวแทน ได้อย่างน่าสนใจ โดยมีคุณครูเป็นคนสอน เป็นคนสรุปและเป็นคนไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่อาจจะลามไปเป็นความวุ่นวายในชั้นเรียนคุณครูบอกตอนจบว่า "ผลการเลือกตั้งอาจจะไม่สำคัญเท่ากับประสบการณ์ที่พวกเธอ ผู้สมัคร ได้รับในกระบวนการการเลือกตั้ง" "มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการไปเป็นผู้ใหญ่ของเธอ"

เรื่องที่สามนอกเรื่องนิดหน่อยครับ คือความสามารถในการอ่านและเขียนของนักเรียนกลุ่มนี่ นับว่าสูงมาก นักเรียนผู้สมัครสามารถเขียนและอ่านบทหาเสียงของตนเองได้เป็นหน้าๆ ใช้ศัพท์ยากๆ และก็อ่านออกเสียงอย่างคล่องแคล่ว

เป็นสารคดีที่สนุกครับสนใจตามดูต่อได้ที่

http://www.whydemocracy.net/film/3

 

หมายเลขบันทึก: 135981เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2007 19:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 11:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท