แม่น้ำแยงซีนั้น แต่ไหนแต่ไรก็เคยได้ยินเพียงชื่อ ไม่นึกว่าจะได้มาเห็นแม่น้ำนี้จริงๆ โดยเฉพาะในจุดที่เป็นประวัติศาสตร์และมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์-อารยธรรมของจีน
เพิ่งจะทราบว่าแม่น้ำสามสายสำคัญของเอเชียคือ แม่น้ำสาละวิน แม่น้ำโขง และแม่น้ำแยงซี นั้นเขาไหลเคียงคู่กันมาจากที่ราบสูงธิเบต แต่ตอนต้นๆสายนี้เขาก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างไป
คุณธีรภาพ โลหิตกุลเขียนไว้ในหนังสือ "เมืองแมนที่ปลายฟ้า"ว่า หากตั้งสมมุติฐานว่าแม่น้ำคือบ่อเกิดอารยธรรม คงไม่ผิดที่จะกล่าวว่าดินแดนนี้คือต้นธารแห่งอารยธรรมจีนและอุษาคเนย์
คณะนั่งรถมุ่งขึ้นสู่เมืองจงเตี้ยน ได้แวะหมู่บ้านชนบทชายขอบลี่เจียงก่อน ชื่อ สือกุ ซึ่งแปลว่ากลองหิน
เป็นกลองหิน ที่ขงเบ้งบัญชาให้แกะสลักไว้เมื่อครั้งมีชัยชนะเหนือพวกกบฏยูนนาน
แม่น้ำแยงซีที่ไหลผ่านเมืองลี่เจียงช่วงนี้มีชื่อว่า จินซา หรือเรียกเต็มๆว่า จินซาเจียง แปลว่าแม่น้ำทรายทอง ณจุดนี้เองที่แม่น้ำได้หักโค้งข้อศอกเป็นโค้งแรก ทำให้ไหลแยกจากแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำโขง ไปทางทิศตะวันออก ก่อให้เกิดอารยธรรมจีนที่ยิ่งใหญ่เมื่อหลายพันปีมาแล้ว กล่าวกันว่าถ้าไม่มีโค้งนี้ก็อาจไม่มีอารยธรรมจีนอันเกรียงไกร อีกทั้งจุดนี้ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ขบวนทัพของทั้งขงเบ้ง กุบไลข่าน ใช้เป็นจุดข้ามแม่น้ำแยงซีไปทำศึก และเหมาเจ๋อตงเดินทัพทางไกลหนีการล้อมปราบของพวกก๊กมินตั๋ง
คุณศรัณย์ บุญประเสริฐ นักเขียนสารคดีอิสระ ทำหน้าที่อธิบายเรื่องราวให้คณะ เล่าว่าที่ได้ชื่อว่าแม่น้ำทรายทองเพราะทรายในแม่น้ำส่องสะท้อนแสงตะวันเป็นสีทอง แม่น้ำนี้เป็นแม่น้ำที่ไหลแรง ทรายในแม่น้ำน่าจะฟุ้งตลบตลอดเวลา แต่น้ำกลับใส มีคำสลักที่กลองหินไว้ว่า
"....จินซามีแต่ทรายกลับใสสะอาด
กลองหินตีไม่ดัง แต่กลับมีเสียงแห่งชัยดังระบือไกล..."
เป็นชัยชนะของผู้แพ้ที่เปล่งประกายให้คนรุ่นหลังได้ประจักษ์จนถึงวันนี้
ในภาพคงบอกได้ว่าสภาพอากาศที่คณะเผชิญเป็นอย่างไร
กุบไลข่านเคยนำทัพผ่านลี่เจียงไปตีอาณาจักต้าหลี่หรือตาลีฟู ขากลับได้มอบวงดนตรีทั้งนักดนตรีและเครื่องดนตรีให้ชาวน่ะซีเป็นการแสดงความขอบคุณและไมตรีจิต ชาวน่ะซีจึงได้เรียนรู้ดนตรีของมองโกลไว้ด้วย กล่าวว่าจวบจนทุกวันนี้ชาวน่ะซีจึงชำนาญคีตศิลป์ทั้งแบบฮั่น แบบมองโกล และแบบของน่ะซีเอง
นักดนตรีสูงอายุทั้งวงที่หมู่บ้านสือกุ จัดว่าเป็นวงขนาดเล็ก แต่เห็นความสง่างาม ภาคภูมิ และความภูมิใจของผู้เล่นแล้วปลื้มใจ ขนลุก
ในหนังสือ"เมืองแมนที่ปลายฟ้า" คุณธีรภาพ โลหิตกุล เขียนไว้ว่า หากเขาเล่นเป็นวงใหญ่จะมีเครื่องดนตรีเกือบยี่สิบชิ้น ไม่ใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้าเลย และทุกวันนี้ชาวเมืองโบราณต้าหยันที่สามารถเล่นดนตรีโบราณของชาวน่ะซีได้มีถึงกว่า 500 คน รวมเป็นวงได้กว่า 20 วง น่ายินดีด้วย และเราน่าดูเป็นแบบอย่าง
เหนือลี่เจียงขึ้นไปเป็น เขตุปกครองตนเองชนชาติธิเบตแห่งตี๋ชิงเรามุ่งไปยังเมืองจงเตี้ยน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเขตุปกครองนี้ ระหว่างทางควรจะได้เห็นทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้แห่งฤดูใบไม้ผลิ มีสัตว์พวกม้าและวัวขนที่เรียกว่า เหมาหนิว ให้ลงไปถ่ายภาพกัน
นี่คือสิ่งที่เห็น
นี่คือสิ่งที่น่าจะได้เห็น แต่ไม่เห็น เลยยืมภาพมาจากหนังสือ Yunnan, A Land of Multiple Colors
ไม้ที่เห็นเหมือนรั้วนั้นไม่ใช่รั้ว แต่เป็นที่ตากข้าวชิงเคอ อันเป็นธัญญพืชแห่งชีวิตของชาวธิเบต เหมือนคนไทยขาดข้าวเจ้าไม่ได้ฉันนั้น คือทั้งบริโภคเป็นข้าว ทำเหล้าดื่มแก้หนาว และฟางไว้เลี้ยงสัตว์
จงเตี้ยน อยู่ที่ชายขอบที่ราบสูงธิเบต ที่ความสูง 3300 เมตร ตั้งอยู่ในชัยภูมิรอยต่อแดนของสามแว่นแคว้นในอดีตคือ ธิเบต เสฉวน และ ยูนนาน จึงเป็นศูนย์รวมหลายๆอย่างทั้งศิลปวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์ และดินแดนแห่งสัตว์ป่าล้ำค่าหายาก
ว่ากันว่าผู้คนที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ถือเขาถือเรา ไม่รังเกียจคนแปลกหน้า ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา
นี่จะใช่แชงกรี-ล่า ที่ตามหากันหรือไม่หนอ
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
ต้องขอบคุณอาจารย์มาก ค่ะ ที่เวลาอาจารย์ไปไหนมาไหนมักจะมีเรื่องราวดี ๆ นำมาให้ได้อ่านสวยงามมากเลยค่ะ และได้ความรู้จากเนื้อหาด้วยค่ะเห็นอาจารย์กล่าวถึงแม่น้ำโขงดิฉันก็เลยนำรูปภาพมาฝากอาจารย์ด้วยเช่นกันค่ะ ภาพนี้ส่งรายงานประเภทภาพทิวทัศน์ค่ะ
อีก รอบค่ะอาจารย์
ที่ดิฉันนำรูปภาพมาลงได้เพราะท่านอาจารย์ขจิตแนะนำวิธีลงรูปภาพค่ะ ค่ะดีใจจริง ๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะ
จีนมีที่เที่ยวสวยๆเยอะมากนะคะ และถ้าได้ไกดืดีๆ เราจะได้ความรู้+เห็นของจริงๆ เป็นความทรงจำมิรู้ลืมเลยค่ะ
อาจารย์ขจิตจำแม่นนะคะ มีหนังสือดังแต่งโดยชาวอังกฤษ Lost Horizon โดยJames Hilton ตั้งแต่ปี 1933 ว้าว ยังไม่เกิดเลย เป็นภาพยนตร์ด้วยได้ดูมั้ยคะ
พี่สบายดีค่ะ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีธุระหลายวันที่กรุงเทพ เลยตามอ่าน ตามตอบไม่ค่อยทัน นี่ก็ค่อยๆทยอยอ่านค่ะ
ตอนนี้น้ำจากเหนือกำลังลงมามาก ท่วมแปลงผักชั้นล่างไปเรียบร้อย มีสามขั้นใหญ่ๆ หวังว่าปีนี้คงไม่ท่วมบ้านค่ะ
อาจารย์รักษาสุขภาพดีๆนะคะ
คุณสะ-มะ-นี-กะ สงสัยก็หายไปหลายวันเหมือนพี่ เลยตกข่าว เขียนเลียบยูนนานมาเป็นตอนที่สามแล้ว ยังจบไม่ลง เหลืออีกตอน ถึงจะว่าด้วยแชงกรี-ล่าค่ะ
พี่ไปมาตั้งนาน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่งจะมาเล่าค่ะ
สวยจริงๆค่ะ ขนาดอากาศไม่ดี ก็สวยไปอีกแบบ
สวัสดีค่ะคุณปริญากรณ์ ขอบคุณมากสำหรับภาพ ไปถ่ายที่จุดไหน จังหวัดอะไรคะ
คุณปริญากรณ์กำลังเรียนสาขาวิชาอะไรอยู่คะ
ดีจังที่อาจารย์ขจิตสอนให้จนทำได้ ทำให้สนุกขึ้นมั้ยคะเวลาเขียนแล้วเรามีภาพประกอบ ตอนที่พี่ทำได้ครั้งแรกดีใจมากเหมือนคุณเลยค่ะ
คุณตามหาแม่น้ำแชงกรีล่า คงไกลไปมังครับ มาตามหาแม่น้ำบ้านเราดีกว่า ว่ามาจากใหน แม่น้ำหลักของประเทศไทย คือ เจ้าพะยา ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากทางเชียงใหม่บ้านเรา ยังมีแม่อีกหลายสาขาที่ไหลมาร่วมกัน เราน่าจะลองมาค้นหาสายโลหิตที่เลี้ยงผู้คนทางตอนล่างของประเทศ และช่วยกันอุรักษ์ต้นน้ำตามที่เป็นแหล่งกำเนิด คงจะดีกว่านะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์ ความที่จีนเป็นระเทศที่ใหญ่มหาศาล มีอะไรที่สวยๆ หรือที่เป็นประวัติศาสตร์มากมาย ไปเที่ยวอย่างนี้ จริงค่ะที่ไกด์ดีๆจำเป็นมาก ในคณะเราต้องมีไกด์สามคน
ข้อมูลที่ได้เพียบเลยค่ะ แคนที่ร่วมคณะก็น่ารักเพราะสนใจสาระ ความรู้ที่เขาตั้งใจเล่า ไม่ใช่ตั้งหน้าจะช้อป แล้วมีความเอื้อเฟื้อเป็นห่วง อาทรกันดี กลับมาแล้วเป็นเพื่อนกันหลายคนค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์
มาตอบอาจารย์ค่ะ
ภาพถ่ายที่จังหวัดหนองคายฝั่งประเทศลาวค่ะแม่น้ำโขงค่ะ
ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมค่ะ คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการศึกษา และ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการวัดและประเมิณผลการศึกษาค่ะ
เรียนภาคสมทบค่ะทำงานไปด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณเอื้องดอยพัฒนาฯ ตัวเองไม่ได้ตามหาหรอกค่ะ การไปท่องเที่ยวบ้านเมืองอื่นคือการไปขยายขอบฟ้าแห่งโลกทัศน์ของตนเอง ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ตามสมควร
เมื่อก่อนเดินทางในแถบยุโรปบ่อยตามความจำเป็นของงานและการศึกษา ตอนนี้มีเวลาอย่างนักวิชาการอิสระจึงอยากทำความรู้จักเพื่อนบ้านเราให้มากขึ้น
แปลกแต่จริงว่าการได้ไปเห็นสิ่งดีๆในบ้านเมืองอื่นทำให้เราตระหนักว่าเราก็มีสิ่งดีๆมากมายไม่ได้น้อยไปกว่าประเทศอื่นๆ และทำให้รักเมืองไทยมากขึ้น
แชงกรี-ล่าไม่ใช่แม่น้ำ เป็นดินแดนในอุดมคติอย่างในบทประพันธ์เรื่อง Lost Horizon ค่ะ
เห็นด้วยว่าเมืองไทยมีสิ่งที่มีคุณค่าที่พวกเราควรทำความรู้จัก และตระหนักในความสำคัญที่ธรรมชาติเหล่านั้นมีคุณูปการสูงยิ่งต่อชีวิตผู้คนในประเทศของเราเอง
หากเป็นสิ่งที่คุณเอื้องดอยพัฒนากำลังทำอยู่ น่าจะเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้นะคะ จะตามไปอ่านในบล็อกของคุณค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ
คุณปริญากรณ์ ใฝ่รู้และขยันจังนะคะ เรียนตั้งสองสาขาและยังทำงานไปด้วย ขออวยพรให้มีสุขภาพแข็งแรง ความคิดแจ่มใส เรียนรู้ให้นำมาใช้ประโยชน์กับการทำงานอย่างที่มุ่งมั่น
แม่น้ำโขงช่วงนี้ดูราวกับไม่กว้างเท่าไหร่ เคยไปหนองคายมีบ้านเพื่อนอยู่ริมน้ำโขง รู้สึกว่ากว้างมาก อาจเป็นช่วงหน้าน้ำนะคะ
โอ้โฮพี่บางทราย ทักทายมาไกลจากเว้แน่ะ
ขอให้สนุกนะคะ จะรออ่านเรื่องเล่าจากเว้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณทิชา ขอบคุณที่มาแวะเยี่ยมชม ดีใจค่ะที่มีเพื่อนใหม่มาแวะให้ได้รู้จักกัน
ชอบดูสารคดีท่องเที่ยวเหมือนกันกับคุณnaree suwan เลยค่ะ มันไม่ใช่แค่ได้เห็นความงามความเพลิดเพลิน แต่มันทำให้เห็นวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ธรรมชาติ อาหารการกินของคนชาติอื่นๆด้วย ยิ่งเห็นมาก ยิ่งรู้สึกตัวเองเล็กลง หากดูและเที่ยวอย่างมีสาระ มีสตินี่ให้ข้อคิดมากเลยนะคะ
จิ้วจ่ายโกวยังไม่เคยไปเลย หน้าที่สวยที่สุดคือใบไม้ร่วง ช่วงตุลาคมนี่ล่ะมังคะ เพื่อนๆไปกันมาแล้วบอกว่า คนเป็นล้าน ทั้งนักท่องเที่ยวจีน(ซึ่งเป็นช่วงที่เป็นวันหยุดอะไรซักอย่าง) และต่างชาติ เลยชั่งใจว่าจะไปเมื่อไหร่ดี ไม่ชอบคนมากๆ ผู้อาวุโสเวียนหัวค่ะ
โลกร้อนเป็นปัญหาใหญ่ทุกด้านจริงๆค่ะ
ในด้านท่องเที่ยวนั้น พวกที่ท่องเที่ยวที่ต้องมีหิมะให้คนไปเล่นสกีจะรู้สึกชัดมาก เพราะหลายที่เห็นในข่าวว่ามีหิมะน้อยมาก อย่างในเขตร้อนก็ทำให้เจอแบบที่พี่เจอนี่แหละค่ะ
สวัสดีค่ะคุณอ้อยควั้น ขอบคุณที่มาแวะเยี่ยมนะคะ ได้รู้จักกันเป็นเพื่อนใหม่ แล้วมาเยี่ยมกันเรื่อยๆนะคะ จะไปแวะเยี่ยมคุณเช่นกัน
หากชอบภาพสวยๆและเรื่องของยูนนาน ติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ จะเล่าถึงแชงกรีล่าค่ะ
สงสัยน้องซูซานต้องวางแผนไปธิเบตเองแน่ๆเลย 555 จะได้ไปขอโทษพระธิเบตเอง ที่ตัวเองเป็นต้นเหตูให้ชีวิตท่านตกอยู่ใต้ภัยคุกคาม
ขนตัวลามา มีจริงๆเป็นสัตว์ในแถบเทือกเขาแอนดีส เช่นในเปรูก็เลี้ยงกันมาก เขาบอกว่าใครไปใกล้มันมากๆแล้วเผลอมันจะพ่นน้ำลายใส่เลย
แชงกรีล่าที่จะเล่าตอนต่อไป ที่จริงก็มีต้นคิดมาจากจินตนาการของฝรั่ง แล้วรัฐบาลจีนหยิบมาใช้ประโยชน์ซะเลย
ใครที่ชอบธรรมชาติ การผจญภัยและความลึกลับ ดินแดนแถบนี้น่าสนใจจริงๆค่ะ