ประโยคที่ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอืม…เอ้อ…อ้า ทำให้คนฟังต้องใช้สมาธิและคาดเดาวลีที่จะตามมา จึงทำให้ประโยคนั้นเป็นที่จดจำได้มากขึ้น
เดลิเมล์ - การพูดจาเอ้อๆ อ้าๆ อาจทำให้คนฟังหงุดหงิด แต่จริงๆ แล้วนักวิจัยบอกว่า คำพูดขาดช่วงแบบนี้ที่ทำให้แต่ละประโยคหลุดจากปากออกมาช้าลง กลับทำให้คนฟังเข้าใจและจดจำได้มากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสเตอร์ลิง และมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์กในสก็อตแลนด์ อธิบายว่า การพูดจาตะกุกตะกัก และเว้นจังหวะด้วยวลี ‘อืม…’ ‘เอ้อ…’ และ ‘อ้า…’ ทำให้คนฟังต้องตั้งใจฟังมากขึ้น
ในการวิจัย ผู้เชี่ยวชาญขอให้อาสาสมัครฟังชุดประโยค ซึ่งรวมถึงประโยคที่ตะกุกตะกัก จากนั้น จึงทำการทดสอบว่าอาสาสมัครเหล่านั้นจำสิ่งที่ได้ยินได้ฟังได้มากน้อยแค่ไหน
ผู้เชี่ยวชาญพบว่า เสียง ‘เอ้อ…’ ที่สอดแทรกอยู่ในประโยคคำพูด ทำให้คนฟังจดจำประโยคนั้นได้อย่างชัดเจน
หลังจากฟังเทปผ่านไปหนึ่งชั่วโมง อาสาสมัครทำแบบทดสอบและได้คะแนนการจดจำคำต่างๆ ได้ถูกต้องถึง 60% ในประโยคที่มีเสียงเอ้อๆ อ้าๆ เทียบกับ 55% สำหรับประโยคที่ไม่มีจุดสะดุด
ดร.มาร์ติน คอร์ลีย์ จากแผนกปรัชญา จิตวิทยา และภาษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก ชี้ว่าประโยคที่ขาดช่วงเป็นการขัดจังหวะที่กระตุ้นให้คนฟังคาดเดาคำพูดที่จะตามมา
ด้วยเหตุนี้ บรรดาพิธีกร นักการเมือง ทนายความ และบาทหลวง จึงได้รับคำแนะนำให้สอดแทรกเสียงเอ้อ…อ้า…อืม…ไว้ในประโยคที่พูดด้วย
อนึ่ง ขณะนี้ นักวิจัยกำลังศึกษาว่าคำบางคำ อาทิ ‘เช่น’ ส่งผลต่อคนฟังแบบเดียวกันนี้หรือไม่
ไม่มีความเห็น