ใครๆในโลกนี้...ต้องการความสุขกันทั้งนั้น
แต่ความสุขของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไปตามประสบการณ์ ทัศนคติ และความเชื่อของแต่ละคน
ความสุขปัจจุบันนี้สามารถ ซื้อหากันได้ทั่วไป เช่น เรามักซื้อ ส.ค.ส. มาเขียน และส่งให้คนที่เราอยากให้เขามีความสุข เราอาจซื้อตั๋วไปดูหนัง พังเพลง เพื่อได้มาซึ่งความสุข กรี๊ด อิ่มเอมใจ เป็นต้น แต่ความจริงนั้นทุกคนมีความสุขได้โดยไม่ต้องซื้อ
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ดูรายการทีวี รายการหนึ่ง พิธีกร เชิญแขกรับเชิญมาคุยกันในเรื่องศิลปะแนวพุทธ ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนตอนนี้ แล้วก็พูด กันถึงความงาม ศิลปะ ความสุข
ฟังไปฟังมาก็เกิดความคิด ปิ๊งขึ้นมาว่า...
จริงๆแล้วความสุขก็มีมิตินะ และมิติของความสุขนั้น ไม่ใช่ น้อย-มาก...แต่เป็น มิติแบบสั้น-ยาว ต่างหาก
เมื่อก่อนเราชอบเปรียบเทียบว่า ใครมีความสุขมากกว่า ใครมีความสุขน้อยกว่า แล้วก็กลายเป็นความอิจฉาริษยาผู้ที่มีสุขมากกว่า จริงๆแล้วคิดว่าความสุขที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งนั้นมันเท่ากัน ...แต่ความต่างก็คือ มันอยู่กับเราแบบสั้นๆ หรือยาวนาน ต่างหาก เคยเป็นแบบนี้ไหม...บางช่วงตะเกียกตะกาย ดิ้นรน ไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งความสุข แล้วก็มีความสุขตามที่หวังได้ไม่นานสุขนั้นหมดไป ต้องหาความสุขมาเติมให้กับชีวิตซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เหมือนการเติมน้ำในแก้วที่รั่ว เทเท่าไรก็ไหลออกไปหมด จนคิดว่าชีวิตนี้ช่างเหนื่อย ยากอะไรเช่นนี้ แต่บางช่วงไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นั่งนิ่งๆ เฉยๆ ไม่คิด กลับรู้สึกและสัมผัสได้กับความสุขที่ยาวนาน
ความสุขมีมากมาย ทั้งที่อยู่ตามธรรม(ชาติ): มักจะเป็นความสุขแบบยาว...และที่มนุษย์สร้าง(สมมุติ) ขึ้นมา: มักจะเป็นความสุขแบบสั้น
คนที่เลือกจะมีความสุขแบบสั้น ความสุขจะอยู่กับเราสั้นๆ แล้วก็หายไป และเพื่อให้ได้มาซึ่งความสุข จะต้องไขว่คว้า วิ่งหา ความสุขมากมายมาครอบครอง แล้วก็จากไปอีก ( แค่คิดตามก็เหนื่อยแล้ว) แต่คนที่เลือกมีความสุขแบบยาว ความสุขก็จะอยู่กับเรานาน ไม่ต้องไขว่คว้า วิ่งหาความสุขให้มากมายเท่ากับกลุ่มแรก ก็มีสุขได้เช่นเดียวกัน เราก็จะเหนื่อยน้อยลง
การมองความสุขในมิติสั้น-ยาว ทำให้เรามองหาความสุขจากภายในตัวมากขึ้น แทนการมองความสุขจากภายนอกตัวเรา และก็จะเห็นว่ามีความสุขแบบนิรันดรอยู่จริงแบบที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รู้มาแล้ว (แต่ว่าเรายังทำไม่ได้)
คงจะดีไม่น้อย หากมีวิชาความสุข สอนในโรงเรียน เด็กๆ จะได้เรียนรู้การมีความสุขอย่างถูกต้อง จะได้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขอย่างถูกต้อง ...คิดไปคิดมาพบว่า ธรรมะ คือสิ่งที่จะทำให้เราพบความสุขแบบยาวได้...
หรือเปลี่ยนชื่อวิชาพุทธศาสนา เป็นวิชาว่าด้วยเรื่องความสุขก็ได้ เด็กๆจะได้รู้สึกว่ามันน่าสนใจขึ้นบ้าง จริงมะ (แฮ่ะๆๆ เด็กๆเรียนพุทธศาสนาได้เกรด 1 จ้า)
ไม่มีความเห็น