เมื่อวันหนึ่งรู้สึกตัวว่าจิตใจช่างเปราะบาง…


หนูคิดถึงพ่ออ่ะ...พ่อทำงานเหรอ...พ่ออยู่กรุงเทพฯเหรอ...พ่อจะมาหาหนูเมื่อไหร่...
               ผ่านวัยเด็ก...ผ่านวัยรุ่น..มุ่งสู่วัยทำงาน  ผ่านวันทั้งโหดร้าย สุข เบิกบาน โศกและเหงา..เหงา จนลุ่มหลงกับความเหงา เสพกินความเหงาเป็นสิ่งสุข มีเพื่อนเป็นความเงียบ.... แล้ววันหนึ่งก็พบว่าจิตใจเราช่างเปราะบางโดยแท้..ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อใด รู้สึกก็เมื่อมันจุกอกและน้ำตาก็กลั่นตัวบ่อยขึ้น ยังมีก็เพียงการอดกลั้นเท่านั้นที่ยังพอยับยังมิให้มันหลั่งริน แต่เราเชื่อว่านัยน์ตาคงเริ่มแดง..และแดงกล่ำด้วยเส้นเลือดคุคั่ง           เสียงเจ่ยแจ้วคงดังก้องในหัว...หนูคิดถึงพ่ออ่ะ...พ่อทำงานเหรอ...พ่ออยู่กรุงเทพฯเหรอ...พ่อจะมาหาหนูเมื่อไหร่...เป็นประโยคคำถามที่ถามติดต่อกัน โดยมิทันให้เราได้ตอบกลับแม้แต่สักคำถามเดียว นั่นถือเป็นสิ่งที่ดี...ดีที่สุด...เพราะหากเราต้องตอบคงตอบด้วยสำเนียงที่สั่นเคลือ และแน่นอนเราตอบไม่ได้แม้แต่คำถามเดียว...แต่ละคำถามมันดำดิ่งลงสู่ส่วนลึก มันลึกจนดำมืด จุกไปหมด..ตอบออกไปว่าพ่อก็คิดถึงหนูพ่อรักหนูนะ  แล้วพ่อจะโทรหาหนูบ่อยๆนะ                ไม่เคยรู้สึกคิดถึงใครแล้วอยากไปหาในทันทีเช่นสาวน้อยคนนี้มาก่อนเลยในชีวิต ...... หรือเป็นเพราะเหตุนี้หนอที่ทำให้จิตใจเราอ่อนเปรี้ยพาลเสียน้ำตาอีกหลายต่อหลายครั้ง...ดูหนังดูละครก็เป็นเอาง่ายๆทั้งที่เมื่อก่อนไม่เป็นอย่างนี้...เข้าหมู่บ้านนั่งคุยกับชาวบ้านได้ฟังความทุกข์ความกังวลใจ เราก็แสดงอาการโศกจนแทบเสียท่าไม่เป็นอันจับประเด็นเพื่อวางแผนการทำงาน ..และเมื่อไม่นานมานี้ได้ฟังชาวบ้านที่ต่อสู้กับการทำเหมืองแร่โปแตซที่จังหวัดอุดร เค้าพูดคุยกันด้วยภาษาหัวใจ ภาษาที่ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยพลังกดดันและหมดทางหนี... ตายเป็นตาย... พูดด้วยพลังที่ทั้งรักและหวงแผ่นดินอันเป็นทุกสรรพสิ่งที่ทำให้ชีวิตยังอยู่...ทำให้น้ำตามันเริ่มจะก่อตัวและพยายามกัดจะเซาะผนังตาออกมาดั่งกับน้ำในอ่างที่พยายามทลายทำนบออกมา....                หนูคิดถึงพ่ออ่ะ...พ่อทำงานเหรอ...พ่ออยู่กรุงเทพฯเหรอ...พ่อจะมาหาหนูเมื่อไหร่...เสียงนี้ยังคงแว่วอยู่ในหูตลอดเวลา...มโนภาพก็ผุดขึ้นขึ้นเป็นฉากๆ ตั้งแต่เราต้องเสียน้ำตาให้กับเธอครั้งแรกเมื่อเธอเกิดได้ไม่ครบสองวัน พ่อต้องอยู่ดูแลหนูในตึกเด็กของโรงพยาบาลเพียงสองคน พ่อยังทำอะไรไม่ค่อยเป็นเลย หนูตัวร้อนมาก ในห้องมีแต่บรรดาแม่ๆที่อยู่กับลูกที่คลอดใหม่และต้องได้รับการดูแลจากหมอเป็นพิเศษ  แต่สำหรับเรา เรามีกันสองคน หนูกับพ่อ พ่อรักหนู...รักหนูมากจริงๆ..... เนิ่นนาน....อีกนานแน่นอน...ที่สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าคนและมันคือคนผู้นี้ ต้องเป็นเช่นนี้ เหมือนคนเป็นโรค  เราคงต้องได้พบและได้ยินเรื่องราวความขมขื่นของผู้คนอีกมากมายตามรายทางชีวิต และทุกครั้งมันก็กลับมาทิ่มดั่งลิ่มเหล็กปักแทงจิตใจตัวเอง เสมอๆ
หมายเลขบันทึก: 135327เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2007 17:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อ่านแล้วให้ข้อคิดอะไรดี ๆ  อีกเยอะ

ขอบคุณในกำลังใจครับ...ไม่อยากเชื่อเลย เพราะผมเองเข้าใจว่าพื้นที่นี้มีไว้ให้เอางานมาแปะๆไว้เท่านั้นเอง งานของคนดังมีชื่อเท่านั้นถึงจะมีคนตอบ..ขอบคุณอีกครังครับแม้ว่าอาจจะเป็นข้อความอัตโนมัติของเวปมาสเตอร์ก็ตาม

ไม่ใช่ข้อความอัตโนมัตินะครับ...แต่เป็นการชื่นชมอัตโนมัติจากหัวใจ

-----------------------------------------------------------------

เป็นบันทึกที่บอกเล่าเห็นภาพอารมณ์ได้ดีมากครับ อยากให้เขียนเรื่อยๆนะครับ

จะแข็งแกร่ง ภายนอกแค่ไหน แต่หัวใจก็มีเลือดเนื้อ มีอารมณ์ ...ไม่แปลกที่จะบอกกล่าวความรู้สึกอย่างที่เป็น

                                          จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

ตอบรวดเร็วทันใจ อยากไปคารวะที่ปรายสักครั้ง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท