เรื่องดีๆ ที่เพื่อนส่งมาให้ครับ นำมาแบ่งปันกันต่อ เรื่องราวของคนสองคนที่มีชีวิตแตกต่างกันไป เราคงตัดสินไม่ได้ว่าใครมีความสุขกว่าใคร อย่างที่ผมเคยบอกประจำว่า ความสุขของคนหนึ่ง อาจจะไม่ใช่ความสุขของอีกคนหนึ่ง ใครจะเป็นอะไรก็ช่างทำประโยชน์ให้กับสังคมบ้างก็แล้วกัน แต่อย่าทำดีต่อสังคม ทำประโยชน์ให้กับสังคม แล้วหวังผลประโยชน์ หวังรวยจากการให้สังคม จะเป็นการให้ที่ไม่สมบูรณ์แบบ
ลองอ่านดูชีวิตของคนสองคนนี้นะครับน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
สวัสดีค่ะ
ขอปรบมือให้นายเด่นคะ ต่อไปข้างหน้าเราจะยังมีนายเด่นอีกกี่คนคะ เพราะลูกนายเด่นก็คงต้องจบมหาวิทยาลัย ทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่างๆ ใช้จอบใช้เสียมไม่เป็น
เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วดิฉันพบผู้หญิงคนหนึ่งเป็นชาวสวน มีสามีและลูกเล็ก เข้ามาอำเภอเดือนละ 2-3ครั้ง เพื่อซื้อกับข้าว และหนังสือสวดมนต์เพื่อแจกเพื่อนชาววัดของเธอ ดูเธอมีความสุขกับชีวิต
ดิฉันเคยคิดว่าชีวิตคนเมืองอย่างเรา ต้องเรียนหนังสืออย่างน้อยจบ ป.ตรี ..........สรุปเหมือนนายสุธี ดูเหมือนว่ามีความสุขถ้าไม่เทียบดับนายเด่น ที่ทำให้ต้องคิดว่าทำไมต้องทำชีวิตให้ยุ่งยาก แต่เราถูกผลักมาจากสิ่งแวดล้อมเช่นพ่อ แม่หวังว่าลูกต้องจบอย่างน้อย ป.ตรี .... เอถ้าเราเป็นนายเด่นเราอาจจะอยากเป็นเหมือนนายสุธีก็ได้นะคะ.......ดารณี
สวัสดีครับ คุณ daranee
โอย ตอนนี้อายุจะได้ ๓๕ ปี ในอีก ๒ เดือนนี่แล้ว
หวาดเสียวเลย
ก็ดีพอฯกันทั้งสองที่ดำเนินชีวิต มันขึ้นกับโอกาสและสถานการณ์ครับ เหมือนคนขับรถมามองไปที่ท้องนาก็นึกอยากเป็นชาวนาจังคงไม่ว่นวายเหมือนชีวิตเรา ในขณะเดียวกันชาวนาก็คิดว่าเมื่อไรจะมีรถโก้เหมือนคนขับเก๋งชาตินี้คงไม่มีทาง