คุณธรรมจริยธรรม(๘)


วิธีบริหารจัดการครอบครัว

คุณธรรมจริยธรรม ๘

บัณฑูร  ทองตัน

 

            วันนี้จะมาเล่าให้ฟังเรื่องการเอาใจใส่ดูแลครอบครัว ขอเน้นเรื่องของครอบครัวอีกครั้ง เพราะเราต้องการให้ครอบครัวอบอุ่น เราจึงต้องการให้ผู้คนในสังคมให้วันอาทิตย์เป็นวันของครอบครัวที่ให้คนในครอบครัวใช้ชีวิตร่วมกัน ให้เวลากับครอบครัวบ้าง แทนที่จะใช้เวลาทุกวันให้กับงานหรือให้กับสังคม ผมไม่รู้ว่าในที่สุดคนเราในสังคมจะดีขึ้นไหม แต่ผมว่าน่าจะได้ผลสำหรับผู้ที่คิดได้บ้างบางส่วน สำคัญมันอยู่ที่คนในครอบครัวให้ความสำคัญกับมันจริงจังไหม  ผมให้เวลากับครอบครัวมาก วันของผมทุกวันเป็นวันครอบครัว ผมมีความสุขกับการได้อยู่กับคนในครอบครัว แต่ผมก็ไปช่วยงานสังคมอยู่เสมอ ผมไปรับรองแขกเสมอ แต่ผมก็ให้เวลากับครอบครัวเสมอเช่นกัน

            บางครั้งเราก็ต้องปล่อยให้ครอบครัวเราเข้มแข็งบ้างเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เราจะต้องปกป้องอยู่ตลอดเวลา เพราะหากเป็นเช่นนั้น วันใดที่ไม่มีเราอยู่คนในครอบครัวเราก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน  ผมมีเรื่องเล่าของสามีภริยาคู่หนึ่ง ที่รักกันมากและดูแลซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่วายที่จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งคลายความรักเสียแล้ว เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ

            มีผู้หญิงคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ ทำให้ต้องตาบอดทั้งสองข้าง และเธอก็ทุกข์ทรมานกับการสูญเสียการมองเห็น แต่สามีเธอก็พยายาม ปลอบใจ และให้กำลังใจเธอตลอด พยายามสอนให้เธอใช้ประสาทสัมผัสให้มากขึ้น ที่ทำงานของเธอกับสามีอยู่คนละทาง แต่เขาก็ขับรถไปส่ง และไปรับอยู่เสมอ
            จนวันหนึ่งสามีบอกเธอว่าเขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก เขาจึงพูดกับเธอว่าให้เธอลองพยายามขึ้นรถเมล์ไปทำงานเอง โดยที่เขาไม่ต้องไปรับไปส่งได้ใหม ในวินาทีนั้น ….. เธอรู้สึกเหมือนโดดเดี่ยว และน้อยใจสามีเธอ แต่เธอก็พยายามทำตามที่เขาขอ แรกๆเขาก็พาเธอขึ้นรถเมล์ เดินทางไหน ใช้รถเมล์เบอร์ไหน ลงทางไหน ไปที่ทำงานอย่างไร แต่ต่อมาเขาก็ให้ เธอพยายามขึ้นรถเมล์เอง พยายามไปทำงานด้วยตัวเอง และบอกด้วยว่าคุณต้องไปเองแล้วนะ จนในที่สุดเธอก็สามารถทำได้
           
วันหนึ่งก่อนที่เธอจะลงรถไปทำงานตามปกติ คนขับรถเมล์ก็เข้ามาจับแขนเธอและพูดกับเธอว่า ผมช่างอิจฉาคุณผู้หญิงจริงๆครับ เธอก็เลยถามว่า อิจฉาเธอเรื่องอะไร
คนขับรถเมล์ก็เลยบอกว่า สามเดือนที่ผ่านมา ผมจะเห็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเขาจะขึ้นรถเมล์ตอนเช้า มานั่งตรงเบาะหลังคุณ เฝ้ามองดูคุณด้วยความห่วงใย และตามคุณลงรถไป และเฝ้าดูคุณเดินเข้าไปที่ทำงานอย่างห่วงใย  และ ตอนเย็นทุกๆเย็นเขาก็จะมาเฝ้ารอดูคุณขึ้นรถ และคอยดูคุณจนคุณลงรถทุกวัน             พอเธอได้ยินดังนั้น เธอก็นำตาไหลด้วยความตื้นตัน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอน้อยใจที่สามีไม่ยอมมารับมาส่งเหมือนเคย เธอเชื่อว่าเขาคลายความรักที่เขามีต่อเธอเธอกลายเป็นตัวภาระของเขา...แต่ในความเป็นจริงเขาไม่เคยทิ้งเธอไปไหน เขายังอยู่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด เขาเหนื่อยยิ่งกว่าตอนที่เขาต้องคอยมารับมาส่งเธอซะอีก
            ผมนำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังก็เพราะอยากเตือนผู้มีครอบครัวว่าให้พูดคุยกันในเรื่องที่ไม่เข้าใจกันให้เข้าใจกันเสีย อย่าเก็บเอาไว้ บางครั้งคนในครอบครัวขาดการพูดคุยกัน แล้วไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ทำให้เข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งผิดไป แต่ก็จะบันทึกความไม่เข้าใจนี่ไว้ พอเก็บไว้หลายเรื่องก็จะมีการระเบิดออกมา ทำให้ชีวิตสมรสพังทะลายลงได้            อีกเรื่องหนึ่งของตัวอย่างในการใช้ชีวิตร่วมกัน เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งแข็ง อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องยอม บางครั้งเรื่องของชีวิตสมรสไม่อาจกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัวได้ว่าต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ คู่สมรสนั้นๆต้องคิดกันเองปรับเข้าหากันเอง ลองมาดูคู่นี้ดู รายการเจาะกายสัมภาษณ์เสี่ยแป๋งและภรรยา ….ว่ามีเทคนิคอย่างไร…? จึงใช้ชีวิตคู่กันอย่างชื่นมื่นยาวนาน…..ต้องการให้คนรุ่นใหม่นำไปเป็นตัวอย่าง….ชีวิตคู่จะได้มีความสุขและยั่งยืน…..
            ภรรยาเสี่ยแป๋ง :อ๋อ….ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ…..ตอนที่แต่งงานกับพี่แป๋งใหม่ๆ….พี่เขาพาไปฮันนีมูนบนเขา ขนเอาสัมภาระบรรทุกบนหลังม้าขึ้นไป….ขณะเดินทางม้าเกิดพยศ….ไม่ยอมเดินต่อพี่แป๋งเอามือลูบหัวแล้วพูดกับม้าว่า… “ ครั้งที่ 1” ม้าจึงยอมเดินต่อพอขึ้นไปได้ครึ่งทาง….ม้าเกิดพยศอีก พี่แป๋งเอามือลูบหัวม้า แล้วพูดว่า…. “ครั้งที่ 2” ม้าเลิกพยศและเดินต่อ….
            เมื่อใกล้ถึงยอดเขา…..ม้าเกิดพยศอีก….คราวนี้พี่แป๋ง….ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ค่อยๆ เดินเอามือไปลูบหัวแล้วหยิบปืนในกระเป๋ายิงเปรี้ยงเข้ากลางแสกหน้าม้าตายสนิทคาที่…..
           
หลังจากฮันนีมูนวันนั้นเป็นต้นมา…. ชีวิตคู่ของเราก็มีแต่ความ สุขราบรื่น…. มี
บางครั้งที่ดิฉันโกรธ…...โมโห….ไม่พอใจ….บ่นพูดจาว่ากล่าวรุนแรงไปบ้างพี่แป๋งก็เป็นฝ่ายยอม…..เป็นผู้ชายที่ใจดีมาก….ไม่โกรธ….ไม่โมโหมีเมตตาแค่เดินมาลูบหัวดิฉัน…..แล้วกระซิบ ข้างหูว่า... “ครั้งที่ 1”            หลังจากนั้นดิฉัน ก็ไม่เคยขัดใจเขาเลย.!!!!!!!            ชีวิตครอบครัวมันทางใครทางมัน จะเอามาเทียบกันไม่ได้ เพราะความสุขของครอบครัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน
           
หวังว่าทุกคนที่อ่านเรื่องนี้แล้ว ช่วยกลับไปมองความรักของเราอีกทีว่า ทุกวันนี้เรารักเขาหรือเธอแบบไหน

            ถ้าผมขอได้ ผมขอให้มองความรักด้วยความอ่อนโยนนะครับ
หมายเลขบันทึก: 134938เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2007 20:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับคุณบัณฑูร 

  • อ่านบทความเรื่องชีวิตครอบครัวดูมันยากเย็นนะครับ  ผมยังโสดอยู่เพราะพ่อมาเสียชีวิตต้องดุแลน้องให้จบการศึกษา พอน้องจบการศึกษา เราก้รู้ว่าเราสายไปสักนิดที่จะมีคู่
  • การดำรงชีพของคนมีคู่ ต้องอาศัยความเชื่อใจกัน เข้าใจกัน ไว้ใจกัน ก้คงพอไปได้เหนือสิ่งอื่นเราคงรักลูกเท่ากับรักคู่ชีวิตด้วย
  • รักเขา ก็ต้องรักพ่อแม่เขาด้วย ลุกเขาด้วย ใช่ไหมครับผม
เรียนท่าน
  • ยินดีที่ได้รู้จักท่านค่ะ  ทั้งได้แง่คิดและสนุกมากกับบันทึกของท่าน  ขออนุญาตเป็นแฟนคลับค่ะ... 
  • ฮาก๊ากๆๆๆๆ....กั้กๆๆๆๆๆๆ...แบบไม่มีมารยาทครั้งที่ 1 ค่ะ....(และไม่แน่ใจว่าจะอดกลั้นไหวหรือไม่ที่จะไม่ให้มีครั้งที่ 3....ท่านไม่ต้องลูบหัวนะคะ...หวาดเสียวค่ะ)...อิ....อิ....
  • สวัสดีค่ะ อาจารย์
  • อยากให้ สามีและภรรยา ได้อ่านพร้อมกันจังเลยค่ะ อิอิอิ
  • สามี-ภรรยา บางคู่ มักจะสร้างเยื่ออะไรบาง ปิดกั้นตัวเอง และความอดทนก็น้อยลงทุกวัน จึงมักต้องลงเอยกันด้วยการแยกทางกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือการไม่ฟังเหตุผลของแต่ละฝ่าย คือการไม่พูดคุยกันนั่นเอง
เป็นเรื่องที่สร้างความรู้สึกที่ดีมากๆเลยครับ
  • ขอบคุณทุกท่านนะครับ
  • P หากจะรักใครต้องรักครอบครัวเขาด้วยครับ เพราะเราจะให้เขาทิ้งสายสัมพันธ์เขานั้นเป็นไปไม่ได้ และเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วปรัชญาชีวิตง่ายๆก็คือ "ขอให้รักกันเหมือนวันแรกรัก" เพราะมันเป็นวันที่มองเห็นแต่ความน่ารักของอีกฝ่ายหนึ่งครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
  • P ดีใจที่คุณกฤษณาชอบครับ จะพยายามหาเรื่องสนุกๆมาเล่าเรื่อยๆครับ ผมมีภาพชีวิตเมียอยู่ภาพหนึ่งไม่ทราบเคยเห็นหรือยัง ขอไปหาก่อนแล้วจะมาโพสต์ให้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
  • P หวัดดีป้าแดงครับ ป้าแดงเป็นคนคุ้นเคยสำหรับผมไปแล้ว ฮิฮิ
  • Pยินดีที่ได้รู้จักอาจารย์เอก ครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท