กินทุกอย่างที่ปลูก
1. การเพาะเห็ดด้วยขอนไม้ ชื่อเห็ด เห็ดขอนขาว ไม้ที่จะนำมาเพาะเห็ด มีไม้มะม่วง ไม้แค ไม้มะเหลื่อม ไม้นุ่นวัสดุ อุปกรณ์ในการทำ 1. ขอนไม้สด 2. ก้อนเชื้อเห็ดขอนขาว 3. เหล็กแป๊บกลวง ขนาด 6-8 ยาว 4 – 6 นิ้ว 4. ค้อนไม้สำหรับตอกเหล็ก5. เหล็กกลมขนาด 3 – 4 หุน ยาว 7 นิ้ววิธีทำ1. ตัดไม้ที่จะนำมาเพาะเห็ดยาวประมาณ 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้วขึ้นไป2. ใช้เหล็กกลวงตอกขอนไม้ให้เป็นรู แต่ละรูห่างกัน 1 คืบ ตอกให้ทั่วขอนไม้3. ตอกให้ลึกประมาณ 1 ข้อนิ้วมือ4. นำเชื้อเห็ดขอนขาวมายัดลงในรูที่ตอกให้เต็มรู5. ใช้ไม้ปิดฝารูให้แน่นทุกรู6. ถ้าเชื้อเห็ดไม่หมดให้ปิดปากถุงให้สนิท แล้วเก็บไว้ในที่ร่ม เก็บไว้ใช้ในวันต่อไปการดูแล 1. นำขอนเห็ดมาเรียงเป็นกองให้ใช้กระสอบหรือพลาสติกคลุมไว้ 1 เดือน 2. เมื่อครบ 1 เดือนให้เปิดผ้าคลุมออกนำขอนเห็ดไปผึ่งแดด 1 เดือน 3. นำขอนเห็ดไปแช่น้ำ 7 – 10 วัน 4. นำขอนเห็ดมาวางเรียงตั้งขึ้นไว้ที่ร่มไม้ 5. เห็ดจะค่อย ๆ งอกออกจากขอนไม้เรื่อย ๆ 6. เก็บเห็ดมาประกอบอาหารตามใจชอบจนหมดขอน 7. นำขอนเห็ดลงแช่น้ำ อีก 2 วัน 8. ครบ 2 วัน แล้วนำขอนเห็ดขึ้นน้ำเอาไปไว้ในร่มเช่นเคย 9. เห็ดก็จะค่อย ๆ งอกออกจากขอนอีกและเก็บไปประกอบอาหาร หมดแล้วนำขอนเห็ดไปแช่น้ำอีก 2 วัน แล้วเอาขึ้นมา ทำแบบนี้ไปจนกว่าขอนไม้จะหมด 10. จะมีเห็ดรับประทานตลอด 1 – 2 ปี สำหรับคนขี้เกียจ ไม่อยากดูแลตามขั้นตอน หลังจากเจาะรูขอนไม้ใส่เชื้อเห็ดแล้ว ก็ปล่อยตามธรรมชาติ โดยนำขอนเห็ดมาชันไว้ที่ร่มไม้ รอฝนรดให้เห็ดก็จะงอกเหมือนกัน แต่จะช้า และเห็ดที่งอกก็จะไม่สมบูรณ์2. การทำเตาปิกนิก วัสดุอุปกรณ์ 1. ปี๊บ 1 ใบ 2. กระป๋องเครื่องดื่ม 1 กระป๋อง 3. ตะปู 3 นิ้ว 1 ดอก 4. ค้อน 1 หัว 5. ไม้กลมขนาดเท่าแขนยาว 50 ซม. 1 ท่อน 6. ขี้เลื่อย ขี้กบ แกลบ 1 ถุงปุ๋ยวิธีทำ 1. นำปี๊บมาเปิดฝาด้านบนออก โดยใช้ค้อนกับตะปูตีเป็นช่องให้พอเหมาะกับก้นหม้อที่ต้องการใช้ 2. นำกระป๋องเครื่องดื่มมาเปิดฝาออกทั้ง 2 ด้าน โดยใช้ตะปูกับค้อนเจาะออก 3. เจาะรูปี๊บด้านล่างสุดให้กระป๋องเครื่องดื่มยัดเข้าได้ เพื่อเป็นช่องลม 4. นำกระป๋องเครื่องดื่มยัดใส่ในรูด้านล่างให้มิด 5. นำไม้ท่อนมาตั้งลงไปในปี๊บให้ท่อนไม้ด้านข้างไปชนกับกระป๋องเครื่องดื่ม 6. นำขี้เลื่อย หรือขี้กบ ที่เตรียมมายัดใส่ในปี๊บให้แน่นพอประมาณ ห่างจากปากปี๊บประมาณ 10 ซม. 7. ดึงไม้ท่อนออกจะเห็นเป็นช่อง สำหรับจุดไฟ 8. ใช้กระดาษจุดไฟยัดลงในช่องขี้กบ ขี้เลื่อยก็จะติดไฟ 9. นำหม้อหรือกระทะตั้งบนปากปี๊บที่ไฟติดอยู่แล้วประกอบอาหารได้เลย 10. ทำครั้งหนึ่ง นึ่งข้าวได้สุก 2 ครั้ง 11. ถ้าจะดับไฟให้เอาไม้ท่อนยัดใส่ในรูเดิมแล้วใช้ไม้ยัดขี้กบ ขี้เลื่อยให้แน่น ไฟในปี๊บก็จะดับ 3. การทำน้ำปลาจากปลาร้า วัสดุในการทำน้ำปลา 1. ปลาร้าล้างน้ำสะอาด 1 กก. 2. เกลือ 2.5 กก. 3. น้ำตาลทราย 2 กก. 4. สับปะรด 1 ลูก 5. อ้อย 2 ข้อ 6. น้ำสะอาด 15 ลิตร วิธีทำ 1. คั่วเกลือในกระทะให้สุก 2. นำปลาร้าที่ล้างและผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ลงคั่วในกระทะจนแตกตัวละเอียด 3. เทลงในหม้อที่ใส่น้ำไว้ 15 ลิตร 4. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้ได้สีตามต้องการ เทลงในหม้อน้ำที่เตรียมไว้ 5. ปอกเปลือกสับปะรด หั่นเป็นซีก 5 – 6 ซีก ใส่ลงในหม้อ 6. นำอ้อย 2 ข้อ มาทุบพอแตกใส่ลงในหม้อขึ้นตั้งไฟต้มนาน 10 – 15 นาที 7. ยกลงแล้วนำมากรองโดยใช้หวดนึ่งข้าว และถ่านที่ล้างน้ำให้สะอาด ล้างตากให้แห้ง นำใยบวบ หรือใยมะพร้าวมากรอง 8. นำน้ำที่กรองแล้วมากรองอีก 2 รอบ โดยผ้าขาวเพื่อให้ตะกอนหมด น้ำปลาจะได้ใสไม่มีตะกอนตกค้าง 9. นำน้ำที่กรองได้มาต้มอีก 10 – 15 นาที ทิ้งให้เย็นแล้วนำขวดที่สะอาดมาลวกน้ำอุ่น ตากให้แห้งแล้วนำมาใส่น้ำปลา ปิดฝาให้แน่นอย่าให้อากาศเข้าได้ 10. นำขวดที่ใส่น้ำปลาปิดฝาแล้วมาตาดแดด อีก 7 วัน ก็นำไปใช้ปรุงอาหารได้ 11. ทำ 1 ครั้ง จะได้น้ำปลา 22 ขวด เก็บได้นาน 6 เดือน 4. การทำปุ๋ยหมักชีวภาพแบบแห้ง วัสดุในการทำ 1. มูลสัตว์ 6 ส่วน 2. แกลบดำ , แกลบดิบ, ใบไม้แห้ง, หญ้าแห้ง, ฟาง 3 ส่วน 3. รำข้าว 1 ส่วน 4. น้ำหมักชีวภาพ 2 ช้อนแกง 5. กากน้ำตาล 2 ช้อนแกง 6. น้ำตามสมควร วิธีทำ 1. เอาวัสดุทุกอย่างมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำน้ำมารดพอประมาณ 2. ผสมน้ำหมักชีวภาพและกากน้ำตาลในน้ำรดให้ชื้น 60 % 3. กองไว้ในที่ร่มแล้วกลับกองปุ๋ยทุก 3 วัน หรือจะบรรจุกระสอบไว้ในที่ร่ม โดยไม่ต้องมัดปากกระสอบ ทิ้งไว้ 7 – 15 วัน ก็นำไปใช้ได้ หลังจากศึกษาดูงานที่หนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์มเรียบร้อยแล้วได้เดินทางไปศึกษาดูงานในจุดต่อไป คือ ที่บ้านของผู้ใหญ่ หนูกาล วิรุณพันธ์ บ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 3 ตำบลคอนฉิม อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น ได้มาดูการทำนาของผู้ใหญ่ หนูกาล วิรุณพันธ์ ทำนา 1 ไร่ ได้ 100 ถัง การทำเกษตรผสมผสาน ไม่รวย ไม่ยาก ไม่จน ทุกอย่างปลูกกินเอง ก่อนที่จะทำพื้นที่ 1 ไร่ ให้ได้ข้าว 100 ถัง ครั้งแรกจะต้องปรับที่ทำนาให้ดี โดยคันนาจะต้องทำให้กว้างใหญ่ไว้สำหรับปลูกของกิน ให้ปลูกทุกอย่างที่กินได้ เหลือกินแจกญาติพี่น้องร่วมบ้าน เหลือแจก ขาย ก่อนถึงฤดูทำนา ให้นำปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักใบไม้ทุกชนิดที่มีมาใส่ในที่นา 1 ไร่ แล้วไถกลบ ทิ้งไว้สักระยะแล้วหาปุ๋ยหมักใบไม้มาใส่อีกครั้งที่ 2 พอฝนตกมาก็ไถ หาต้นกล้ามาดำที่นา 1 ไร่ ใช้ต้นกล้า 300 มัด ดำแล้วจะได้ต้นข้าว 37,000 กอ. น้ำที่ขังนาข้าว อย่าให้สูงเกิน 1 คืบ ต้นข้าวจะเจริญเติบโตและแข็งแรงสูงประมาณ 2 เมตร ต่อต้น นี่เป็นการบรรยายของคุณพ่อหนูกาล วิรุณพันธ์ แห่งบ้านโนนสวรรค์ หลังจากนั้นนักศึกษา อาจารย์ ทุกคนก็ได้เดินทางกลับมาที่บ้าน คุณพ่อบุญเต็ม ชัยลา เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งมีแม่ครัวเตรียมไว้แล้วอย่างอร่อย กับข้าวมี ส้มตำ แกงเห็ด ทอดปลาดุก ข้าวเหนียว ข้าวจ้าว หลังจากทางคณะได้เริ่มรับประทานอาหารอิ่มทุกคนแล้ว ก็ได้เข้าห้องประชุม เพื่อรับฟัง คุณพ่อบุญเต็ม ชัยลา สรุปการนำนักศึกษาดูงาน ในการไปศึกษาดูงานพอสรุปได้ว่าในการประกอบอาชีพเราต้องยึด 1. เลิกทำส่งให้พ่อค้าคนกลาง 2. หันมาทำให้พออยู่พอกิน 3. ทำให้พอประมาณ 4. เดินสายกลาง 5. ทำแบบมีเหตุมีผล 6. มีภูมิคุ้มกัน ไม่เสี่ยงต่อการขาดทุน โดยใช้หลัก- มีความรู้ ความรอบรู้ ความรอบคอบ ความระมัดระวัง- มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทนบันได 5 ขั้นสู่ความสำเร็จ 5. ความต่อเนื่อง 4. จดบันทึก จดบัญชี 3. เลือกตัดสินใจทำ 2. พิจารณาทรัพยากร ดิน, น้ำ, พืช, สัตว์, ภูเขา, ทะเล 1. พิจารณาตัวเองหัวใจในการทำงาน 4 ขั้น 1. พออยู่ พอกิน พอใช้ 2. มีตลาดรองรับ 3. ทำธุรการ 4. มีการส่งออกผลที่ได้รับจากการทำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. มีความสุข สุขภาพดีขึ้น 2. เป็นนายของตนเอง 3. ครอบครัวอบอุ่น 4. มีงานทำตลอดปีและมั่นคง 5. มีรายได้ ลดรายจ่าย ปลดหนี้ 6. สิ่งแวดล้อมดีขึ้น 7. มีเวลาให้แก่ส่วนรวม 8. เป็นแหล่งเรียนรู้เสร็จแล้ว คุณพ่อบุญเต็ม ชัยลา ได้นำนักศึกษาดูกิจกรรมต่าง ๆ ที่ คุณพ่อบุญเต็ม ชัยลา ได้ทำก็มี- บ่อเลี้ยงกบ- บ่อเลี้ยงปลานิล- บ่อเลี้ยงปลาดุก- โรงเพาะเห็ดฟาง- ดูเล้าเป็ด เล้าไก่- ดูคอกวัวได้เวลาพอสมควร ตัวแทนนักศึกษาก็ได้กล่าวขอบคุณ คุณพ่อบุญเต็ม ชัยลา แล้วก็เดินทางกลับ ถึงบ้าน เวลา 20.20 น. อาบน้ำ รับประทานอาหาร พักผ่อน เตรียมตัวไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้คือวันที่ 8 กันยายน 2550
คำสำคัญ (Tags): #เศรษฐกิจพอเพียง หมายเลขบันทึก: 134801เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2007 12:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น