Free Burma! : New media กับบทบาทการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า


New media กับบทบาทการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย

 

 

 ร่วมกันรณรงค์ติดแบนเนอร์ "Free Burma" ไว้ที่เว็บไซตในวันที่ 4 ต.ค. นี้ เพื่อรณรงค์ให้เกิดประชาธิปไตยในพม่าโดยสันติ โดยวิธีการมีดังนี้
1. ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมที่ http://www2.free-burma.org/index.php
2. ติดแบนเนอร์บนเว็บไซต์ ดังตัวอย่างภาพด้านล่าง หรือ ดูที่ http://www.flickr.com/groups/479791@N25/pool/
3. โพสข้อความหรือความเห็นบนกระดานข่าว, Blog, Social Network ในหัวข้อ "Free Burma!"
4. Tag หรือสร้างคำหลักของข้อความ (ถ้าทำได้) ด้วยคำว่า "Free Burma"
5. เขียนข้อความสนับสนุนประชาธิปไตยในพม่าอย่างเสรี

ตั้งแต่เริ่มการชุมนุมใหญ่ของพระสงฆ์และประชาชนชาวพม่าตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้เห็นภาพและวีดีโอ ที่สร้างความรู้สึกตื้นตันใจที่เห็นพลังของพระสงฆ์และประชาชนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และสะเทือนใจกับภาพความโหดเหี้ยมของรัฐบาลเผด็จการทหารที่ป่าเถื่อนที่เข่นฆ่าพระ และประชาชน โดยไม่เลือกว่าจะเป็นชนชาติไหน

ภาพเหล่านี้ได้ถูกเผยแพร่ทั้งสำนักข่าวระดับโลก อาทBBC CNN และสำนักข่าวภายในประเทศต่างๆ แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของภาพนั้นส่วนใหญ่คือเหล่า Bloger ทั้งภายนอกและ ภายในประเทศพม่า โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ท่ามกลางเหตุการณ์การประท้วง ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวภาคประชาชน ส่งภาพและข้อมูลออกมาโดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลเผด็จการทหารพม่านั้น ควบคุมสื่อมวลชน และการสื่อสารภายในประเทศทั้งหมดเรียกได้ว่า พม่าเกือบจะเป็นประเทศสุดท้ายของโลกที่เชื่อมตัวเองเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แม้ว่าสื่อมวลชนภายนอกพม่า ยกเว้นจีน จะเผยแพร่และให้ความสำคัญกับเหตุการณ์การณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า แต่สื่อมวลชนของพม่าที่ควบคุมโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร แทบจะไม่มีข่าวการประท้วงในประเทศตัวเองเลย ซ้ำยังเป็นกระบอกเสียงของเผด็จการโจมตีสื่อต่างประเทศว่าบิดเบือนข่าว และออกข่าวใส่ร้ายแกนนำผู้ชุมนุมและพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งการกระทำดังกล่าวของสื่อมวลชนภายใต้รัฐบาลเผด็จการพม่ามิใช่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใดเพราะสำนักข่าวของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าได้ใช้วิธีการเช่นนี้มาตลอดในทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เคลื่อนไหวทางการเมือง ดังนั้นจึงเกิดสำนักข่าวทางเลือกของพม่า ที่ดำเนินการโดยสื่อมวลชน นักศึกษา และนักกิจกรรม ขึ้นมากมาย ตั้งแต่ยุคก่อนที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะเฟื่องฟูด้วยซ้ำ และเมื่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแพร่ขยาย และประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้นจึงเกิดเว็บไซต์ของสำนักข่าวทางเลือกเหล่านี้ อาทfreeburma.org, irrawaddy.org หรือ mizzima.com เป็นต้น ที่นำเสอนเรื่องราวข้อเท็จจริงในแผ่นดินพม่า และเมื่อเผด็จการทหารพม่าไม่อาจต้านทางกระแสของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ได้ โดยยอมให้เกิดร้านอินเทอร์เน็ตขึ้นในร่างกุ้งและตามเมืองใหญ่ต่างๆ จากนั้น เว็บไซต์ อีเมล์ โทรศัพท์มือถือ และกล้องดิจิตอลจึงเป็นที่แพร่หลายของประชาชนคนชั้นกลางในเมืองใหญ่ต่างๆ ดังนั้นเมื่อมีเหตุการณ์การชุมนุมครั้งใหญ่ประชาชน หรือ แม้แต่พระสงฆ์ ที่เข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้จึงทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวภาคประชาชน นำเสนอภาพความป่าเถื่อนที่เป็นจริงในประเทศที่แนวชายแดนห่างจากกรุงเทพเพียง 150 กิโลเมตร

แม้ว่าปรากฏการณ์ Bloger จะเกิดขึ้นอีกครั้งในเหตุการณ์การเรียกร้องประชาธิปไตยของพม่า แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพราะรัฐบาลเผด็จการได้ปิดการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด และ โทรศัพท์มือถือบางเครือข่าย จึงทำให้หลังจากวันที่ 27 กันยายน เป็นต้นมาจึงไม่ค่อยมีภาพหรือวีดีโอ ส่งมาจากในประเทศพม่ามากนัก รายงานจากผู้สื่อข่าวของเว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซี ได้สัมภาษณ์ Bloger ชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในลอนดอนว่า เค้าไม่ได้รับข้อมูลที่ส่งผ่านเพื่อนของเขาในพม่าเลย รัฐบาลพม่าตัดการการสื่อสารเกือบทุกอย่าง ที่อาจทำได้คือการใช้โทรศัพท์ผ่นดาวเทียม ซึ่งก็มีบทลงโทษรุนแรงมากในพม่าคือจำคุกถึงสามปีครึ่ง อย่างไรก็ตามเว็บบล็อกที่ดำเนินการโดย Bloger ชาวพม่าที่อาศัยอยู่ภายนอกประเทศ ก็พยายามอัปเดตข่าวและเหตุการณ์ รวมทั้งระดมความช่วยเหลือพระสงฆ์ และ พี่น้องประชาชนที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศพม่าในขณะนี้ เว็บบล็อกที่มีข่าวสารเหตุกาณ์ในพม่าที่ได้รับความนิยม อาทิ ko-htike.blogspot.com หรือ mmedwatch.blogspot.com โดยเว็บบล็อกทั้งสองนำข่าวเหตุการณ์เป็นรายชั่วโมงก็ว่าได้ นอกจากนั้นยังมีภาพ และ วีดีโอ และลิ้งค์เชื่อมโยงไปยังเว็บบล็อกอื่นๆ ที่น่าสนใจคือเว็บบล็อกเหล่านี้ เป็นช่องทางให้ประชาชนทั้งชาวพม่าเองที่อยู่ในที่ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศได้สื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันและกันตลอดเวลา รวมทั้งเป็นเวทีที่ให้ประชาชนได้แสดงออกทางการเมือง โดยที่รัฐบาลเผด็จการพม่าไม่อาจควบคุมได้ทั้งหมด

ขณะที่ข่าวเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยของพระสงฆ์และประชาชนในเมืองต่างๆ การกระทำอันป่าเถื่อนของรัฐบาลเผด็จการทหาร และความสูญเสีย รวมทั้งข่าวการเคลื่อนไหวของประชาชนหน้าสถานฑูตพม่าในประเทศต่างๆ ยังได้รับความสำคัญจากสื่อมวลชนอยู่ แต่หากวิเคราะห์สถานการณ์โดยรวมแล้ว จะเห็นว่าเหตุการณ์ในพม่าจะเพิ่มความรุนแรงและขยายระยะเวลายาวนานต่อไป โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของชนกลุ่มน้อย กลุ่มต่างๆ ที่เริ่มผนึกกำลังกันต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการพม่า บทบาทของอาเซียน และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยเฉพาะในส่วนของจีนกับรัสเซีย ที่มีต่อสถานการณ์ในพม่า กระทั้งการอพยพข้ามพรมแดนครั้งใหญ่ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ยังเป็นเรื่องที่สื่อมวลชนยังต้องจับตามอง เพื่อสะท้อนภาพความเป็นจริงให้กับประชาคมโลก หาทางกดดัน หรือ จัดการอย่างใดอย่างหนึ่งให้รัฐบาลเผด็จการทหารที่ป่าเถื่อนนี้หมดอำนาจไป และเป็นกำลังใจให้กับประชาชนชาวพม่าที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องเสรีภาพจากความป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของตัวเอง

คำสำคัญ (Tags): #free burma#new media#blog
หมายเลขบันทึก: 134440เขียนเมื่อ 3 ตุลาคม 2007 11:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน 2012 09:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท