หน้าตาน่าไว้วางใจ ที่สนามบินมนิลา


หายหน้าไปหลายวัน เพราะไปประชุมที่มนิลา ฟิลิปปินส์ มีเรื่องอยากเล่าหลายเรื่อง แต่ขอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังสุดก่อน

ในวันอาทิตย์ ก่อนเดินทางกลับ ผมออกจากโรงแรมโซฟิเทล ฟิลิปปินส์ พลาซ่า ที่เขาจัดให้พักตั้งแต่ ๗ โมง หรือ ๖ โมงเช้าตามเวลาบ้านเรา เพื่อมาขึ้นเครื่องบินของฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ที่เขาหาตั๋วฟรีให้ผมนั่งเดินทางมาครั้งนี้

ด้วยความงก เพราะมีคนกรอกหูก่อนมาหลายคนว่า เวลาแลกเงินเปโซของฟิิลิปปินส์ให้แลกเฉพาะเท่าที่จำเป็นต้องใช้เล็กๆน้อยๆเท่านั้น ถ้าแลกไว้มาก ขากลับมาเมืองไทยเวลาแลกคืนจะขาดทุนผิดกับเงินสกุลอื่น ผมก็เลยใช้เงินที่แลกมาจนหมด แถมยืมพี่ฟ่ง..กานดาวศรี พยาบาลที่ไปด้วยกัน แต่คนละสายการบิน ใช้อีก ๑๐๐๐ เปโซต่างหาก จึงมีเงินเปโซเหลือติดกระเป๋ามาถึงสนามบินแค่ ๙๐ เปโซเท่านั้น

เกิดเรื่องจนได้ เพราะต้องจ่ายค่าภาษีสนามบิน อีกคนละ ๗๕๐ เปโซ ซึ่งของเราเลิกจ่ายกันไปแล้ว  ทำยังไงดี

เริ่มต้น ผมดิ่งไปที่แลกเงินต่างประเทศ ซึ่งตอนเช้าแบบนี้เปิดอยู่แห่งเดียว ปรากฏว่า เขาไม่รับเงินบาทของเรา แล้วยิ้มหวานให้
 
ผมโทรศัพท์หาหมอ Gene เพื่อนชาวฟิิลิปปินส์ด้วยความเกรงใจ เพราะเดาว่าเขาคงยังไม่ตื่น ปรากฏว่าเขาไม่รับสาย

มาถึงมาตรการสุดท้าย
ผมเดินไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินอีกที ดูว่ามีผู้โดยสารที่จะมากรุงเทพฯเหมือนผมบ้างหรือเปล่า ปรากฏว่ามีคนต่อคิวอยู่หลายคน ทำให้ผมมีโอกาส เลือก ว่าจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากใครดี

เป็นการทดสอบสองเรื่องไปในตัว หนึ่ง..หน้าตาผมดูเหมือนพวกสิบแปดมงกุฏ ทำให้คนไม่ไว้ใจหรือเปล่า สอง..ทดสอบความมีน้ำใจของชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งผมประทับในความกระตือรืิอร้นที่จะช่วยเหลือคนแปลกหน้า ว่าเป็นเช่นนั้นอีกหรือเปล่า

ผมไม่กล้าสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปประกบคนใดคนหนึ่งเลย เพราะยังไงๆก็ยังไม่อยากถูกปฏิเสธให้เสียตัว..ตน (self) ในการเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า

ผมเห็นเป้าหมายของผมแล้ว เป็นผู้ชายวัยกลางคนอายุน่าจะประมาณ ๕๐ ต้นๆ มากับภรรยาและลูกสาว..สวยด้วย ๔ คนล้วนๆ ผมเลือกขอความช่วยเหลือจากคนนี้ เพราะดูแต่งตัวธรรมดาแต่เรียบร้อย ไม่ใช่นักธุรกิจแต่เหมือนนักท่องเที่ยว มากับครอบครัวดูไม่เร่งรีบ แล้วก็ท่าทางใจเย็น

พอเขาเช็คอินเสร็จทั้งครอบครัว ผมก็ตรงเข้าไปแนะนำตัว แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นหมอ เขาก็แนะนำตัวว่า ชื่อ Kris กำลังจะพาครอบครัวมาเที่ยวเมืองไทยพักที่โรงแรมอินทรา ตรงตามที่ผมเดาไว้ ผมบอกปัญหาของตนเองให้ฟังว่า เงินเปโซของผมไม่พอจะจ่ายค่าภาษีสนามบิน จะขอให้เขาจ่ายให้ผมก่อน เมื่อถึงเมืองไทยแล้ว ผมจะแลกเงินเปโซคืนให้เขาทันทีที่สุวรรณภูมิ

เขาตอบคำเดียวว่า sure..ได้เลย ทันทีแบบไม่คิด
แล้วเดินนำผมไปที่ช่องภาษีสนามบิน จ่ายเงินให้ผมพร้อมกับของครอบครัวเขา เสร็จแล้วก็เดินไปรวมกลุ่มกับครอบครัว ผมตามไปขอบคุณเขาอีกที แล้วบอกหมายเลขที่นั่งของผมให้เขา เผื่อกังวลว่าจะหาผมไม่เจอ

ตอนแรกผมตั้งใจจะเดินตามเขาไปตลอดเพื่อแสดงว่า ผมไม่เชิดเงินเขาแน่  แต่ท่าทีที่เขาแสดงออกดูเขาไว้วางใจผมมาก ผมก็เริ่มสังเกตเองด้วยว่า เขาอาจจะต้องการอยู่กับครอบครัวเขาส่วนตัวมากกว่า คงไม่อยากให้คนแปลกหน้ามาเดินตามต้อยๆ อยู่ ยิ่งลูกสาวเขาสวยๆทั้งนั้น ผมก็เลยปลีกตัวออกมาเดินหาซื้อของฝากคนเดียว

ตอนที่เดินหาซืิ้อของฝาก ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า ผมน่าจะให้เงินบาทเขาไปเลย จะได้ไม่ต้องกังวลหาเขาไม่เจออีก  พอไปถึงตรงที่นั่งรอขึ้นเครื่อง ผมก็เอาเงินไทย ๗๕๐ บาทไปให้เขา ซึ่งจริงอยู่เงินเราแพงกว่าเล็กน้อย แต่ผมคิดว่าให้จำนวนเท่ากันก็น่าจะดี เขารับเงินไว้แล้วก็ไม่พูดอะไร นั่งเล่นปริศนาอักษรไขว้ของตัวเองต่อ

ประเดี๋ยวหนึ่ง เขาก็เป็นฝ่ายเดินมาหาผม บอกว่า เงินที่ผมให้เขามากเกินไป เขารับไม่ได้ แล้วคืนมาให้ผม ๒๐๐ บาท ผมพยายามปฏิเสธเพราะตั้งใจไว้แล้ว แต่เขายืนยันว่าไม่รับเงินเกิน แล้วถ้ามีโอกาสก็คงจะขอความช่วยเหลือจากผมบ้าง ผมรับเงินคืนมา แล้วเขียนชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศํพท์ของตัวเองให้เขา แล้วบอกว่า ถ้ามาทางใต้ทั้งครอบครัวก็บอกผมได้เลย ยินดีต้อนรับ

เราจากกันแค่นั้น แต่ผมก็รู้สึกดีที่สอบผ่านสองเรื่อง หน้าตาผมดูน่าใว้ใจ และความรู้สึกของตนเองที่ว่าชาวฟิลิปปินส์เป็นคนน่ารักจากประสบการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมาหนักแน่นยิ่งขึ้น

แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าผมเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าหลายๆคนแล้วยังถูกปฏิเสธตลอด ซึ่งผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงในบางประเทศ ผมจะทำอย่างไร ใครมีกลเม็ดดีๆ ในกรณีแบบนี้ยังไงบ้างครับ แล้วคิดว่าประเทศไหนจะมีโอกาสที่คนจะไม่ยอมช่วยเราบ้าง

หมายเลขบันทึก: 133778เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2007 20:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 09:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะอาจารย์

อ่านไปคิดไป..สงสัยว่าถ้าเผอิญตัวเองเจอแบบนี้....แค่เห็นยิ้มของอาจารย์คงควักเงินจ่ายแบบไม่ถามอะไรแน่ๆ.....อุอุ

ชวนอาจารย์ไปยิ้มกับรูปเด็กๆน่ารักมาก ที่บันทึกนี้ค่ะ

 

P

  • ถ้าอาจารย์เจอเหตุการณ์อย่างนี้ อาจารย์ทำยังไงครับ คือผมรู้สึกใบหน้าผมค่อนข้างจะฉาบคอนกรีต
P

นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

อาจารย์หมอเขียนให้ชวนตื่นเต้นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น...

ปรากฎว่าผ่านตลอด.... 

เจริญพร 

เป็นคำถามที่ตอบยาก...จังนะคะ

อาจารย์นกไฟ .. สอน.. เมื่อไรก็ไม่รู้ รู้ตัวว่าถูกสอนอีกทีก็จำเข้าเลือดไปแล้ว ว่า

generalization ไม่ค่อยจะทำให้เกิดผลลัพธ์ดีๆ สักเท่าไรเลย ถึงแม้ว่ามันอาจจะให้ clue บางอย่างในการเริ่มต้นทำความรู้จักกันบ้าง แต่ที่ต้องไม่ลืม ... อย่างเด็ดขาดคือ .. คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน .. ดังนั้นต้องระวังเรื่องการ oversimplify ด้วย judgemental attitude ให้ดีทีเดียว 

ดังนั้นตอบว่าประเทศไหนคงตอบยากค่ะ และเช่นเดียวกัน เราไม่ได้ทายว่าของในกล่องของขวัญเป็นอะไรได้ถูกต้องทุกครั้งไป การจะบอกว่าใครจะให้ความช่วยเหลือเราหรือไม่นั้น กลเม็ดเด็ดสุดก็คงเป็น

.... ต้องลองขอ ... ดูค่ะ

 

เช่น .. ขอหนังสือสักเล่ม อยากได้มากกกกก

ทราบว่าอาจารย์มีหลายเล่ม ....    ก็เลยลองไปขอ แล้วก็ได้มา

 ขอบคุณนะคะ เล่มที่ให้มา (การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย:End of Life Care, Improve Care of The Dying) ได้อ่านแล้วบางบทค่ะ แต่ไม่กล้าเอามานอนด้วย  ...  กลัวทำความเสียหายโดยไม่เจตนา ...

อยากจะขอบคุณเป็นอย่างอื่นบ้างนอกจากตัวหนังสือ .. เอาไว้กลับไปมอ. แล้ว ถ้าอาจารย์ต้องการแรงงานไปใช้ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง ก็ขอให้เรียกนะคะ 

:-D

หวัดดีครับอาจารย์

 ไปนอกทั้งทีน่าจะชวนผมไปบ้าง.....อิอิ

P

  • นมัสการพระอาจารย์ครับ
  • ในบันทึกข้างบน ผมพิมพ์ขณะอยู่บนเครื่องบิน
    มีต่อตอนสอง เมื่อลงมาถึง สุวรรณภูมิ แล้ว
    ผมเข้าไปหาครอบครัวนี้อีกครั้ง ได้คุยกันต่อ ตัวคุณ Kris เองมาเมืองไทยหลายครั้ง และครั้งนี้เป็นการพาครอบครัวมาเที่ยว ไปๆมาๆ แทนที่ผมจะเข้าไปช่วยเหลืออะไรเขา กลายเป็นเขาเป็นห่วงผมมากกว่า เมื่อรู้ว่า ผมต้องไปต่อเครื่องบินอีกที่ คือ ดอนเมือง แล้วต้องเดินทางอีกชั่วโมงกว่า แล้วเราก็ร่ำลากันจริงๆครับ
     

P

  • ครับ เราไม่ควรทึกทักเหมาโหลอย่างที่ว่า แต่ชีวิตของเราก็เป็นเรื่อง ความน่าจะเป็น ที่มีเรื่องให้ต้องตัดสินใจอยู่เรื่อย
  • ครั้งนี้ผมค่อนข้างมั่นใจในคนฟิลิปปินส์ครับโดยเฉพาะคนที่ผมเลือก  ถึงได้ตั้งคำถามให้ลองคิดเล่นๆ
  • คนผมยาวสวย มาขอหวีไป ผมก็็ควรยินดีให้อยู่แล้วครับ

P

  • ไม่ชวนเพราะ
    • ก. กลัวเป็นคู่แข่ง
    • ข. กลัวไม่ไป
    • ค. กลัวถูกเบี้ยว
    • ง. กลัวติดใจ แล้วไม่กลับมา
    • จ. ถูกทุกข้อ
  • เลือกเอาเองนะครับ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท