วันนี้ดิฉันได้มานั่งทบทวนความคิดตัวเองหลังจากที่ได้ร่วมเดินทางไปเสวนา UKM หลายครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นครั้งสำคัญของดิฉันที่ได้เห็นคุณค่าของความเป็นคนที่คุณหมอภักดีท่านเล่าให้ฟัง หลังจากที่ดิฉันเฝ้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าชีวิตมนุษย์ต้องการ? พอได้มาฟังคุณหมอภักดี ดร.วรภัทร และครูบาสุทธินันท์เล่า ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองว่างเปล่าไปหรือเปล่า? น่าจะเติมเต็มสิ่งที่มีประโยชน์ในชีวิตบ้าง
เมื่อประมาณ ๑ ปีที่ผ่านมา ดิฉันได้เริ่มเขียนบล็อคแค่ไม่กี่บันทึก (ทำเพราะหน้าที่-กึ่งโดนบังคับ) แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จึงหาทางออกให้ตัวเองโดยขอเป็นผู้ประสานงานในระดับปฏิบัติงานดีกว่า เพราะโดยอาชีพแล้วต้องพบปะ พูดคุย ประสานงานกับบุคคลมากมายหลากหลายความแตกต่าง แต่ในครั้งนี้อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย (เพราะมีผุ้ใหญ่ทั้งผลัดทั้งดัน)
ที่เกริ่นมาทั้งหมด เพราะรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ KM ครั้งนี้
ต้องขอขอบคุณ ม.นเรศวร ที่ดำเนินงานจัดงานนี้ขึ้นมา
(โดยเฉพาะพี่ตูนคะ)
สวัสดีครับน้องผึ้ง
เรียนรู้จาก ผู้รู้ถือเป็นทางด่วนของการพัฒนาครับ
อย่างท่านอาจารย์พิศมัย ศรีอำไพ น้อยคนนักที่ได้ทำงานกับท่าน
จงเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากท่านให้มากที่สุด
เช่นกันสุดท้ายต้องขอบคุณชาว มน. ทุกท่าน
สวัสดีจ้ะน้องผึ้ง
ลมพัดหวนครั้งนี้ ขอให้พัดเย็นสบายและมีความสุขนะคะ
๑.ขอบคุณนะคะคุณขจิตที่ยังจำได้...ต้องขอแจ้งก่อนนะคะว่าชื่อ "น้ำผึ้ง" พอดีคุณทวีสินบอกว่ามีการจำชื่อผิดกันคะ
๒.พี่แจ๊ค...ใช้คำว่า "ทางด่วนของการพัฒนา" ทำให้ผึ้งต้องทำการบ้านเยอะเลยนะคะ ส่วนท่านอาจารย์พิศมัยเป็นสิ่งที่ผึ้งปลื้มที่สุดในการทำงานเชียวนะ เพราะท่านทั้งสั่งทั้งสอนผึ้งทุกอย่าง
๓.ขอบคุณนะคะพี่หนิง...จะลดความแรงของพายุลงบ้าง