วันนี้ขอบันทึกเรื่อง ToPSTAR ต่อให้จบ เพราะมีเรื่องราวอีกมากมายในสมองที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง การให้กลุ่มสาระฯ รายงานผลการปฏิบัติงานทั้ง 10 ระบบ เนื่องจากจำนวนครูในแต่ละกลุ่มสาระฯของโรงเรียนจ่านกร้องมีจำนวนมาก ประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งมากกว่าบางโรงเรียนเสียอีก ดังนั้นการบริหารงานกลุ่มสาระฯ หนึ่ง จะคล้าย ๆ กับโรงเรียนหนึ่ง เพียงแต่หัวหน้ากลุ่มสาระฯ ไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาเท่านั้น เป็นเพียงหัวหน้างาน แต่ลักษณะการบริหารจัดการ มีขั้นตอนการดำเนินงานคล้าย ๆ กัน ตั้งแต่การวางแผนการปฏิบัติงานของกลุ่มสาระ ฯ จัดทำแผนปฏิบัติการเสนอขออนุมัติการใช้เงิน การจัดการเรียนการสอน การจัดโครงการต่าง ๆ การประเมินผล งาน/โครงการ จนถึงการพิจารณาความดีความชอบประจำภาคเรียน เนื่องจากโรงเรียนจ่านกร้อง ได้กระจายอำนาจการบริหารงานวิชาการ ให้กลุ่มสาระฯ ดำเนินการ โดยมีรองผู้อำนวยการ เป็นผู้กำกับ ติดตาม ดูแล เมื่อสิ้นภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2549 กลุ่มสาระฯทุกกลุ่ม รายงานผลการปฏิบัติงานตามระบบ 10 ระบบ ป้านางได้แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินทบทวน จำนวน 7 คน เพื่อประเมินทบทวนการปฏิบัติงานของทุกระบบ ว่ามีการดำเนินงานตามคู่มือระบบ ที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งคู่มือระบบ ทั้ง 10 ระบบของโรงเรียนจ่านกร้อง จะเน้นการมีส่วนร่วมของครูทุกคน ในการปฏิบัติงานของโรงเรียน ยกตัวอย่างเช่น การจัดทำแผนปฏิบัติการของกลุ่มสาระฯ จำต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของครูทุกคนในกลุ่มฯ และมีการอภิปราย แสดงความคิดเห็น นำผลการประเมินที่ผ่านมา มาเป็นข้อมูลในการพัฒนา ปรับปรุงงาน/โครงการ ในปีต่อไป ซึ่งจากการประเมินทบทวน พบว่า ส่วนใหญ่มีการปฏิบัติงานตามคู่มือ มีบางกลุ่มสาระฯที่ไม่ได้แสดงหลักฐานการมีส่วนร่วมของครูในรายงาน แต่จากการสอบถาม พบว่าครูทุกคน ได้มีการประชุมร่วมกัน คณะกรรมการประเมินฯ ก็จะบันทึกความเห็น ให้ทางกลุ่มสาระฯ ปรับปรุงรายงาน แต่จากการให้กลุ่มสาระฯ รายงานผลการปฏิบัติงานทั้ง 10 ระบบ ทำให้หัวหน้ากลุ่มสาระฯ เครียดมาก เกรงว่าจะทำผิด ทำไม่เสร็จตามกำหนดเวลา มีเสียงสะท้อนค่อนข้างมาก ท่านผู้อำนวยการองอาจ สุขแสงสุวรรณ ก็เริ่มจะกังวลว่าให้ภาระงานแก่กลุ่มสาระฯ มากเกินไปหรือเปล่า ป้านางก็เลยหาข้อมูลจากหัวหน้ากลุ่มฯ จากครูหลาย ๆ คน โดยป้านางสอบถามเป็นการส่วนตัวเอง และให้ทีมงานสอบถามด้วย พบว่าแม้จะเป็นภาระงานที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทำให้ทุกกลุ่มสาระฯ ร่วมกันศึกษาคู่มือระบบทั้ง 10 ระบบมากขึ้น มีความเข้าใจระบบการปฏิบัติงานมากกว่าก่อนที่จะทำรายงาน มองงานในภาพรวมของโรงเรียนกระจ่างขึ้น ป้านางได้ปรึกษาหารือกับผู้อำนวยการและรองฯ อีก 3 ท่าน ถึงการปรับให้กลุ่มสาระฯ รายงานผลการปฏิบัติงานประจำภาคเรียน เพียง 3 ระบบหลัก ได้แก่ ระบบการเรียนรู้ ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และระบบกิจกรรมนักเรียน เป็นงานภาคบังคับ สำหรับระบบสนับสนุนอีก 7 ระบบ ถ้ากลุ่มสาระฯใด สามารถรายงานได้ก็ให้รายงาน เป็นส่วนเพิ่มเติม ก็เลยทำให้ความเครียดของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ของครู ของฝ่ายบริหาร ลดลงได้ จริง ๆ แล้วคิดไปคิดมา ป้านางก็ว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เมื่อปี 49 นั้นเกิดจากป้านางเองนั่นแหละ ซึ่งตอนนี้ ทุกกลุ่มสาระฯ ก็สามารถปฏิบัติตามระบบ 10 ระบบ ได้เป็นอย่างดี มีความเข้าใจงานมากขึ้น ทีนี้เวลาเลือกตั้งหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ใหม่ เปลี่ยนหัวหน้ากลุ่มงานวิชาการใหม่ หรือเปลี่ยนรองฯวิชาการ ใหม่ งานต่าง ๆ ก็ดำเนินต่อไปตามระบบพร้อมที่ปรับปรุง พัฒนา วิธีการปฏิบัติงาน ก้าวสู่ Best Practices ต่อไป ไม่ต้อง หยุด ถอยหลัง เมื่อเปลี่ยนคนใหม่อีก
บันทึกเสียยาวเชียว วันต่อไป เริ่มเรื่องใหม่ ๆ ที่น่าสนใจกว่านี้อีก
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทย์ฯ ขอขอบคุณป้านางเป็นอย่างยิ่งที่ให้ความรู้ครูในกลุ่มสาระเรื่องวิธีการค้นหาโครงงานสิทธิบัตรต่อยอดให้กับครูเพื่อไปถ่ายทอดให้กับนักเรียนซึ่งในช่วงปิดเทอมนักเรียนจะได้ไปค้นคว้าและคิดทำโครงงานจากสิทธิบัตรต่อยอดได้
สุดท้ายการอบรมป้านางยังบอกเคล็ดลับในการค้นวิทยานิพนธ์ด้วยถ้าใครอยากรู้ต้องติดต่อด้วยตัวเองนะค่ะ
คนอะไรขยันจริงจร๊ง