ได้มีโอกาสทำงานกับน้องๆเพื่อนๆในพื้นที่ผ่านการทำงานในกลุ่มเด็ก ในโรงเรียน ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ได้รับประสบการณ์ดีๆ ได้เกิดเครือข่ายในการทำงาน และเกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน คุณหมอมาลี วัทนาศิริ หัวหน้าฝ่ายทันตสาธารณสุข โรงพยาลลำลูกกา ปทุมธานี ได้บอกเล่าการทำงานของเธอที่ร่วมกับโรงเรียนและชุมชน
"การทำงานรณรงค์ปรับพฤติกรรมบริโภคของเด็กของอำเภอลำลูกกา
หนูมุ่งไปที่ประเด็นการให้ความรู้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งครูเด็กเล็ก
ครูประถม ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ รพ. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
และกำลังจะต่อไปที่แม่ค้า แม่ครัวของโรงเรียน โดยรวมทั้งรร.ประถมและมัธยม
สำหรับผู้ปกครองก็ได้ให้ความรู้บ้าง 2-3 โรงเรียนที่เชิญหนูไปบรรยาย
แต่ยังไม่มากนัก และแนวทางการขยายสู่ผู้ปกครองของโรงพยาบาลยังไม่ชัดเจน
ยังคงเป็นรูปแบบส่งผ่านความรู้ และสร้างกระแสผ่านไปยังกลุ่มคนต่าง ๆที่เกี่ยวข้องมากกว่า อย่างวันนี้หนูก็เป็นวิทยาบรรยายความรู้เรื่องพฤติกรรมการกินกับสุขภาพ และโภชนาการให้กับแกนนำชมรมสร้างสุขภาพจากตำบลต่างๆของอำเภอลำลูกกา ได้รับความสนใจมาก
และเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.หนูได้ไปจัดอบรมความรู้ให้กับ รร.พระวิสุทธิวงส์ เป็น รร.คริสต์ที่อยู่ข้างโรงพยาบาล ที่มีขนมกรุบกรอบขายเป็นตู้เลย โดยอบรมหลักสูตร "โภชนาการ และ การเลือกรับประทานอาหาร" ซึ่งเป็นหลักสูตรที่หนูใช้ขยายความรุ้อยู่ในขณะนี้
โดยเป็นชุดความรู้ซึ่งหนูมีทีมวิทยากรทั้งหมด 6 คน คือ วิทยากรบรรยายภาคเช้า 3 หัวข้อ 3 คน ที่เหลือเป็นวิทยากรฐาน บ่ายมีฐานความรู้ 5 ฐาน วิทยากรบรรยาย 3 คน คือ หนูพูดเพื่อดึงแนวคิดเข้าสู่การปรับพฤติกรรมบริโภค คนที่สองเป็นพยาบาล
OPD พูดเรื่อง โภชนาการ คนที่สามเป็นเภสัชกร พูดเรื่อง การอ่านฉลากโภชนาการ
ส่วนที่สองและสาม คือ เนื้อหาที่ได้รับความรู้จากหลักสูตรของอ.ประไพศรี สำหรับทีมอีก 3 คน ที่ช่วยเป็นวิทยากรฐาน คือ ทันตแพทย์ 1 คน และ พยาบาลกลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัว อีก 2 คน ค่ะ ซึ่งการไปจัดอบรมให้รร.ครั้งนี้ ผู้เข้าอบรมคือ ครูและพนักงานทั้งหมดของโรงเรียน คือ ทั้งเจ้าหน้าที่ ภารโรง และแม่ครัว ซึ่งรับทราบจากครูผู้ประสานว่าครั้งนี้จะเอาจริงแล้ว เพราะพออบรมครูแล้ว
รร.จะจัดอบรมเป็นฐานความรู้แบบนี้ให้กับเด็กทั้งหมดของโรงเรียนด้วย
ปรากฎว่าวันนี้พยาบาล OPD มาเล่าให้หนูฟังว่า มีลูกของเจ้าหน้าที่ คือ พยาบาลงานยาเสพติดของโรงพยาบาล เรียนอยู่ ป.1 ที่ รร.นี้
มาบอกแม่ว่าซื้อของต้องอ่านฉลากโภชนาการ และ อ่านน้ำตาล อ่านเกลือ ให้แม่ดู และยังมีคำถามถามแม่ด้วยว่า ทำไมเกลือ ไม่เขียนว่าเกลือ ทำไมต้องเขียนว่าโซเดียม หนูฟังแล้วก็รู้สึกดีใจว่าแนวทางที่หนูทำอยู่ในระยะ 1 ปีนี้น่าจะเดินไม่ผิดทิศทาง แต่กลับเป็นเส้นทางที่ทำให้หนูทำอะไรได้ง่ายมากขึ้น
เช่น
- เดิมหนูไม่รู้จะเข้าหา ท้องถิ่นอย่างไร ตอนนี้ก็เชื่อมได้แล้ว
- เดิมหนูไม่รู้จะเข้าหา รร.มัธยม อย่างไร
ตอนนี้หนูคิดว่าการจัดสัมมนาในปลายเดือนนี้ หนูอาจมีโอกาสที่จะเข้าถีง รร.มัธยมได้
- เดิมหนูรู้สึกว่าจะเชิญผู้บริหาร รร.มาพูดคุยน่าจะยาก
ตอนนี้หนูคิดว่าสามารถเชื่อมกับ กลุ่มผู้บริหาร รร.ได้มากขึ้นแล้ว
ตอนนี้แนวทางการรณรงค์ของหนู มี รพ.ปากพลี จ.นครนายก
จะเชิญทีมวิทยากรของหนูไปบรรยายให้เจ้าหน้าที่ของ รพ. และ สอ.ฟังในวันที่ 12
ต.ค.นี้ค่ะ
ไม่รู้ว่าเข้าข้างตัวเองเกินไปรึเปล่า แต่ก็คิดว่า ที่พี่ปิเคยถามหนูว่า
หนูจะคิดที่จะรณรงค์เด็กไทยไม่กินหวาน หรือ ประกาศว่าเป็นอำเภออ่อนหวาน หรือไม่ เดิมไม่กล้าคิด แต่ตอนนี้เริ่มมีความหวังว่าอาจจะคิดได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะตอนนี้หน่วยงานต่างๆในอำเภอลำลูกกา ได้รับรู้การรณรงค์ปรับพฤติกรรมบริโภคไม่น้อย
มีคนที่เคยได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้หลายร้อยคนแล้ว และ
มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ก็อยากได้คำแนะนำจากพี่ ๆ ค่ะ เพื่อที่หนูจะได้ไม่ตกร่องไปไหนต่อไหนโดยไม่รู้ตัวค่ะ
ขอคุณนะค่ะ....ที่สนใจเรื่องนี้....ที่มาเป็นวิทยากรให้
ในปี 53 นี้ก็ว่าจะจัดอบรมอีกครั้งนึง แต่เป็นเรื่องโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ- โรงเรียนอ่อนหวานสร้างสุขภาพ
ยังไม่ได้ติดต่อใคร......แค่คุยกับหมอมาลีไว้นิดหน่อย