บางซอกมุมของความคิด "ดิน น้ำ ลม ไฟ ในงานตลาดนัดความรู้"

  ดิน..ดินให้อาหาร เป็นที่ปลูกฝัง รากลึกลงดิน
  ดิน..ดินไม่ใช่หิน ซึมซาบน้ำกิน หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์
  น้ำ..น้ำแก้กระหาย ชุ่มฉ่ำชื่นกาย ชุ่มฉ่ำชื่นใจ
  น้ำ..น้ำอยู่ตรงไหน น้ำไหลผ่านไป ให้ความสมบูรณ์
  ลม..ลมเจ้าพัดพริ้ว ปริวพัดความชื้น สดชื่นชีวี
  ลม..ลมหน้าหนาวนี้ ช่วยพัดไปทีเถอะ ความทุกข์ระทม
 ไฟ..ไฟให้ความร้อน รุมสุมวงจร เป็นพลังงาน
 ไฟ..ไฟเชื่อมประสาน ครบสิ่งสร้างสรรค์..ดิน น้ำ ลม ไฟ
 ..สิ่งอันจำเป็น เห็นกันทั่วไป รู้กันมากมาย ใครก็ต้องการ
   เอื้อและอารี ไม่มีปากเสียง ธรรมชาติเรียง ร้อยความผูกพันธ์..
 คน..คนอยู่ตรงไหน ดิน น้ำ ลม ไฟ รับใช้ฝูงคน
 คน..คนสักกี่คน อุทิศตัวตน เพื่อคนด้วยกัน
                                                       ดิน น้ำ ลม ไฟ
                                                         "คาราบาว"
        ผมเขียนบันทึกนี้ หลังจากเสียงเพลงดิน น้ำ ลม ไฟ ของวงคาราบาวจบลงสาเหตุที่นำเนื้อเพลงนี้ มาเขียนลงในบันทึก ก็เพราะ ผมนั่งฟังเพลงไปพร้อมกับคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงวันของการเดินจับจ่าย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ต่าง ๆ ของชาวส่งเสริมการเกษตร ในงานตลาดนัดความรู้กรมส่งเสริมการเกษตร
เมื่อวันที่ 17-18 กันยายน ที่ผ่านมา
       มีบางสิ่งบางอย่างกระทบใจ(อย่างแรง) ก็คือ ในช่วงของการเสวนาในห้องเฮ Haภาษา KM (ตอนเช้า) ที่พี่สิงห์ป่าสัก พูดถึง องค์กรเรียนรู้ LO สิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นหัวใจสำคัญของ LO ก็คือ ระบบและคน (ผู้ขับเคลื่อนระบบ) เมื่อพูดถึงระบบใน LO แล้ว ส่วนผมคิดว่าคงไม่ใช่ระบบที่แข็งทื่อ แยกส่วน เหมือนระบบจักรกล (ที่เป็นทรรศนะของตะวันตก ตั้งแต่ยุคของนิวตัน) แต่น่าจะเป็นระบบที่มีความพริ้วไหว ยืดหยุ่น ประสาน สอดคล้อง กันอย่างเป็นธรรมชาติตามแบบตะวันออก (ในทรรศนะตามแนวคิดของพุทธ เต๋า หรือเซน)เหมือนกับบทเพลงข้างต้นที่ผมเขียนถึง แต่ประเด็นสำคัญอีกอย่าง  ก็คือ "คน" คนที่อยู่ในระบบ ที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนระบบในองค์กร เพราะคนเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายระบบ
     สิ่งหนึ่งที่ผมพบในงานวันนั้น ก็คือ "คนจำนวนหนึ่ง" ที่มีเจตนาอันแน่วแน่ ที่จะพัฒนาระบบ เพื่อขับเคลื่อนองค์กร ณ วันนี้ ไปสู่องค์กรเรียนรู้ ที่เราปรารถนา "คนจำนวนหนึ่ง"ที่ผมพบแม้ว่าจะไม่มากนัก ถ้าเทียบกับปริมาณของคนในองค์กร
    แต่ผมก็มีความเชื่อว่า  "คนจำนวนหนึ่ง" ที่ผมได้พบ พร้อมและต้องการที่จะ "อุทิศตัวตน เพื่อคนด้วยกัน" นำองค์กรของเราก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการส่งเสริมการเกษตร 

[นาง ธุวนันท์ พานิชโยทัย]

• เห็นด้วยคะที่มีคนแบบนี้ในองค์กรของเราอยู่และพร้อมที่จะขับเคลื่อน ตลอดจนอุทิศตนเพื่อเกษตรกรและองค์กรของเรา เราต้องค้นหาและจัดช่องทางให้เดินไปด้วยกันให้ได้

[นันทา ติงสมบัติยุทธ์]

• "คนจำนวนหนึ่ง" ที่มีเจตนาอันแน่วแน่ ที่จะพัฒนาระบบ เพื่อขับเคลื่อนองค์กร ณ วันนี้ ไปสู่องค์กรเรียนรู้ ที่เราปรารถนา "คนจำนวนหนึ่ง"ที่ผมพบแม้ว่าจะไม่มากนัก ถ้าเทียบกับปริมาณของคนในองค์กร
• คนจำนวนนั้น  ก็คือ "พวกเราชาว KM " ใช่มั้ยคะ...
  

[วิศรุต]

• สวัสดีครับพี่ธุวนันท์
• ขอบพระคุณมากครับที่แวะมา ลปรร.

[สรณพงษ์]

สวัสดีวิศรุต

ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ในตัวคนทุกคน ถ้ารู้จักตัวตน

หมั่นสร้างสิ่งดีๆ สำหรับตัวเองและสังคม จะเกิดคุณค่าอย่างยิ่ง

[วิศรุต]

• สวัสดีครับพี่นันทา พี่สรณพงษ์
• ขอบพระคุณมากครับที่แวะมา ลปรร.
• ผมคิดว่าการพัฒนาใด ๆ ย่อมต้องการจุดเปลี่ยน และผู้ที่จะขับเคลื่อน
• "ใช้ KM เป็นเครื่องมือหนึ่งในการเปลี่ยนแปลง และชาว KM ก็จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงครับ"

[เกษตรยะลา]

สวัสดี  น้องวิศรุต

• คนที่มีความตั้งใจทำคนเดียวไม่สำเร็จ
• ฉนั้นต้องหาแนวร่วมเพื่อจัดตั้งทีมงาน
• ขอบคุณมากที่นำมาแลกเปลี่ยน

[นาง มัลลิกา เขียวหวาน]

lสวัสดีน้องวิศรุต

• คนจำนวนหนึ่งขับเคลื่อนองค์กรไปตลอดไม่ได้
• จำเป็นต้องขยายแนวคิดและเครือข่าย
• จึงไม่มีทีมเขา หรือที่มเรา
• ไม่ว่าจะทีมKM  หรือ ไม่ใช่KM
• ล้วนเป็นเครือข่ายเดียวกัน    ที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปค้วยกัน

[เขียวมรกต]

สวัสดีน้องวิศรุต  ขอบคุณมากที่นำเสนอแนวคิด ความรู้ที่ดีฯฯ

[Apa_siri]

สวัสดีค่ะพี่

• ดีใจและอิ่มใจค่ะ ที่อย่างน้อยก็มีพี่อีกคนที่มีอุดมการณ์อย่างนี้
• เชื่อว่า ถ้าเรามุ่งมั่นและตั้งใจ อะไรๆ ก็ไม่เกินความสามารถเราค่ะ
• มีเพลงมาฝากค่ะ ฟังแล้วรู้สึกดีเชื่อว่าพี่ก็รู้สึกดีเหมือนกัน  ขอบคุณค่ะ

ยืมพี่ ๆ  มาฝากพี่ค่ะ  http://www.adintrend.com/show_movie.php?id=2002&ct=p512