การสร้างคุณอำนวยบนเวที “Team Learning บ้านดิน เมืองชัยภูมิ” ใน SCG PPW

           หลังจากที่เหล่าคุณอำนวยของแต่ธุรกิจทั้ง 3 รุ่นได้จบหลักสูตร Project Base เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เหล่าคุณอำนวยต้องใช้ความรู้ที่ได้เรียนรู้มาทำการขยายเผ่าพันธุ์คุณอำนวยกันต่อไป  

              สำหรับ SCG PPW ได้ทำการขยายผลโดยการวางแนวทางในการสร้างคุณอำนวยของแต่ละบริษัทขึ้นมา เพื่อเป็นการรองรับกับพนักงานของแต่ละบริษัท 

              เวที “เรียนรู้วิธีเรียนรู้” ได้ท่านกูรู ท่านอาจารย์วรภัทร์มาช่วยทำการถ่ายทอดวิทยายุทธให้กับเหล่าว่าที่คุณอำนวย หลายคนที่เข้าอบรมยังงงกับเนื้อหาการสอน ที่ไม่มีเอกสารแจก, ไม่มี slide ให้ดู, มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาตลอดเวลา, เปิดเพลงให้ฟัง, เปิด DVD ให้ดู แถมยังมีวาดรูป และนั่งบนพรมนอกห้องสัมมนาอีก แต่ทุกคนที่เข้าอบรมก็ส่งเสียงตอบรับมาเป็นอย่างดีถึงเนื้อหา และเครื่องมือต่างๆ ที่ได้ทำการถ่ายทอดออกไป (แต่รู้สึกว่าห้องประชุมข้างๆ คงงงกับพวกเราไปพักใหญ่)   

                 

               สำหรับเวทีที่2 เป็นโจทย์หนักพอสมควรที่เหล่าสต๊าฟได้ทำการหาเวทีที่จะพาเหล่าว่าที่คุณอำนวยแห่ง SCG PPW ไปเรียนรู้กัน สุดท้ายลงตัวที่บ้านดิน เมืองชัยภูมิ

              ก่อนอื่นขอเล่าเกี่ยวกับเวทีที่จะไปเรียนรู้เล็กน้อย ศูนย์อาสาสร้างบ้านดินเมืองชัยภูมิแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ตำบลแก้งคร้อ โดยมีพี่โยเป็นผู้ดูแล สืบเนื่องมาจากชาวบ้านที่อาศัยบนที่แห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการอพยพขึ้นมาอยู่ ซึ่งฐานะค่อนข้างขัดสน ซึ่งเกือบทุกครัวเรือนเป็นหนี้ ธกส. น้อยสุดหลักหมื่น มากสุดหลักแสนเกือบถึงล้านบาทก็มี ดังนั้นคุณโยจึงได้ทำการจัดตั้งศูนย์อาสาสร้างบ้านดินขึ้นมา เพื่อช่วยจัดสร้างที่อยู่อาศัยที่สามารถกันลม กันฝนได้ ให้กับชาวบ้านที่ยากไร้

             โดยปีนี้ทางศูนย์ได้วางโครงการจัดสร้างบ้านดินให้กับอาสาสมัครที่ต้องการบ้านดินจำนวน 10 หลัง โดยทุกคนที่เข้าร่วมจะต้องมาช่วยกันสร้างบ้านหรือเราเรียกว่ามาลงแขกกันสร้างบ้าน และยังมีอาสาสมัครมาช่วงกันสร้างในช่วงวันหยุดด้วย การสร้างบ้านหลังหนึ่งใช้งบประมาณหนึ่งหมื่นกว่าบาท ซึ่งถ้าใครต้องการหลังคากระเบื้องจะต้องออกเงินเอง ดังนั้นบ้านหลังหนึ่งตกประมาณสองหมื่นบาท

              สำหรับสถานที่พักจะพักภายในวัด บรรยากาศร่วมรื่น นอนกางเต้นท์ภายในศาลาที่พรมาทำวัตรเช้า เย็น หรือใครจะนอนเรือนไม้บนโรงทานก็ได้ การอาบน้ำมี 2 แบบ คือมีหลังคา กับไม่มีหลังคา แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือเป็นที่อาบรวม และผนังเปิดโล่งครับ อากาศช่วงหน้าหนาวจะน้องๆ เชียงใหม่ ช่วงหน้าร้อนอากาศพัดเย็นสบาย ภายในวัดสงบ เงียบ พระจะจำวัดด้านในครับ 

              ในการเรียนรู้จากบ้านดินในครั้งนี้เป็นโจทย์ที่ค่อนข้างท้าทายเหล่าว่าที่คุณอำนวยทั้งหลาย เนื่องจากเป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงซึ่งสิ่งที่ทำนั้นชาวบ้านจะต้องใช้อยู่อาศัย กอรปกับวันที่ไปอยู่ในช่วงมรสุมเข้าทำให้เหล่าสต๊าฟต้องคิดเป็น 2 เท่าในการเตรียมแผนแก้ไขสถานการณ์

              ในวันแรกหลังจากที่นั่งรถมาถึงจะปล่อยให้ว่าที่คุณอำนวยพักผ่อนตามอัธยาศัย เดินชมหมู่บ้าน วัด และสิ่งรอบข้าง จากนั้นช่วงเย็นมีการจัดกลุ่ม ทำกิจกรรมร่วมกันโดยการวาดรูปลงบนเสื้อทีม เพื่อให้แต่ละกลุ่มแสดงความรู้จักซึ่งกันและกันก่อน

              วันที่ 2 ช่วงเช้าพี่โยมาพูดคุยถ่ายทอดความรู้ทางทฤษฎีในการสร้างบ้านดิน และไปชมตัวอย่างบ้านดิน ช่วงบ่ายหลังจากกินข้าวกลางวัน ก็ทำการออกภาคสนามในการเตรียมดิน และการทำก้อนดิน ได้ให้แต่ละทีมทำการช่วยกันเตรียมดิน และจัดทำก้อนดินให้ได้กลุ่มละ 200 ก้อน ภายในเวลา 3 ชม. 

              วันที่ 3 ให้แต่ละทีมทำภารกิจที่เลือกไว้ คือการฉาบ และการทาสีบ้าน (สีดิน) สำหรับการก่อไม่สามารถทำได้ เนื่องจากฝนตกทั้งคืนจึงปรับให้เหลือแต่การฉาบผนัง ช่วงเย็นทำกับข้าวกลุ่มละ 2 อย่าง 

             สิ่งที่ว่าที่คุณอำนวยทั้งหลายทำการ Reflect เช่น

Ø      การเรียนรู้ในการทำงานเป็นทีม

Ø      การมองผู้อื่น และย้อนมองตัวเอง

Ø      การมองโลกในแง่ดี (ทำมากกว่าถือว่าได้เปรียบ เป็นการเรียนรู้เพิ่ม)

Ø      ความรู้มีอยู่ทุกหน ทุกแห่ง

Ø      การร่วมแรงร่วมใจทุกสิ่งสามารถฝ่าฟันไปได้

Ø      ความเป็นมิตรของชาวบ้าน (เก็บมะอึกมาให้ 1 ถุงใหญ่)

Ø      การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม

Ø      การได้ทำบุญ (สวดมนต์, สร้างบ้าน, กวาดลานวัด, ล้างห้องน้ำ)

Ø      การนำสิ่งที่รับรู้, เรียนรู้ และเครื่องมือต่างๆ มาใช้ในการดำเนินชีวิต และการทำงาน  

Ø      และอื่นๆ อีกมากมาย แม้ว่าเหล่าว่าที่คุณอำนวยจะเหนื่อยสักแค่ไหน

                สำหรับการสร้างบ้าน แต่ด้วยมิตรภาพ การร่วมแรงร่วมใจของทุกคน ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ และทำให้เกิดการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่

                สุดท้ายเหล่าคุณอำนวย และว่าที่คุณอำนวยต้องขอขอบคุณคณะผู้บริหารของ SCG PPW ทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุนและกำลังใจในการอบรมทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งใช้เวลามากในแต่ละ Module ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้สำหรับทุกๆ คน 

               และขอฝากบทความที่กลั่นกรองมาจากการอบรมในเวทีที่2 นี้ ของ FA ก้องมาให้สำหรับทุกคนครับ            

 “บางคนมีวันเวลาที่ดี บางคนเวียนวนหาทางไม่เจอซักที           

ความจริงคนเราเกิดมาเพื่อจะแบ่งวันเวลาที่ดีร่วมกัน           

ความจริงคนเรานั้นเกี่ยวพันแม้ไม่เคยพบเจอ ไม่ต่างกับ ฉันและเธอ           

เหตุผลที่คนเราควรอยู่ด้วยกัน เป็นเพราะไม่มีใครดีพร้อม           

เหตุผลที่เธอควรจับมือฉัน เพื่อแบ่งสุขทุกข์เหล่านั้นที่เรามี             

เหตุผลที่ทุกข์หัวใจ ... ควร เปิดใจ ให้กันวันนี้ เพราะวันพรุ่งนี้ที่ดี มีจริงจริง”           

 Your Team ?

                 

  “แบ่งความอดทนในคนทุ่มเท แบ่งเสียงเพลงให้กับความเงียบเหงา           

แบ่งความเศร้าจากคนที่ว้าเหว่ แบ่งใจที่สุขล้นให้กับคนที่ซมซวนเซ           

เพราะเราอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะมาจากไหน           

เราผูกพันเกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่แค่ตัวเองเท่านั้น           

แบ่งรอยยิ้ม แบ่งความรัก แบ่งกันโดยไม่จำเป็นต้องมีใครรู้จัก ให้ใจและใจแบ่งกัน           

ให้รอยยิ้ม กับความรัก เปิดประตูหัวใจ โดยไม่มีใครมากั้น และดำเนินชีวิต ... เพื่อกันและกัน”

            Your Feeling ?

  

 

 

 

 

 

[โค้ชส้ม Citrus]

สวีดัดจ้ะ กวง

น่ารักมากเลย ที่ตั้งใจไว้ ของ PPB จะจัดกิจกรรมพัฒนา FA ให้เหมือนกับที่เราไปเรียนกันใช่ไหมคะ

ที่อ่านดูรู้สึกซาบซื้งกับการถ่ายทอดสิ่งที่ได้ทำ ได้พบ ได้ประสบการณ์ ออกมาเป็นตัวหนังสือบรรยายให้จินตนาการภาพได้เลย

มีคนเข้าร่วมกิจกรรมกี่คน แล้วรูปแบบการจัด มีหน่วยงานใดเป็นแม่งานไหมคะ ทำให้กับทั้งกลุ่มเลยหรือเปล่า

ดีที่พวกเราไปช่วยกันขยายผล อย่างน้อย ผู้ใหญ่จะได้เห็นว่าที่อบรมหัวเชื้อไปแล้ว นำไปทำอะไรต่ออีกบ้าง สิ่งที่แต่ละคนไปทำ ก็มีการประยุกต์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในแต่ละที่ จะได้นำกลับมาเล่าสู่กันฟัง ในวันนัดรวมพล IF 1-3 คงเรียนรู้ร่วมกันอีกเยอะนะ

[Nosman]

1. citrus
สวัสดีครับพี่ส้ม

                 ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม จากการพูดคุยในเหล่าสต๊าฟ PPW เห็นว่าในระยะเวลาอันสั้นการที่จะปรับแนวทาง วิธีการเรียนรู้คงมีความยาก และมีความเสี่ยง และจากการที่สต๊าฟ PPW เรียนรู้ในกระบวนการต่างๆ พบว่าเป็นแนวทางที่สามารถนำมาใช้ได้เลยครับ เพียงแต่จัดหาเวทีที่แตกต่างออกไปแทนครับ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ของเหล่าสต๊าฟไปด้วยครับ คาดว่าในโอกาสต่อไปคงมีการปรับวิธีการ ลูกเล่น ได้เหมือนกับทาง SCG Chemicals ครับ

                เวทีนี้เป็นเพียงในส่วนของ PPW ครับ ยังไม่ใช่ของ PPB แม่งานก็เป็นในส่วนของคณะ Inno กลุ่ม PPW

                 เวทีนี้คนเข้าร่วมประมาณ 30-35 คนครับ วันแรกๆ ที่ไปก็กลัวอยู่เหมือนกันครับ มีการปรับแผนตลอด กับมาตัวดำ แต่ก็คุ้มค่าครับ

[คนดอย]

กวง

ได้ใจมากเลยครับ อยากไปร่วมฝึกหัดโจทย์นี้บ้างจัง โอกาสหน้าหากมี ขอไปด้วยคน

แล้วจะเข้ามาต่อเสริมเติมสร้าง ชื่นชมเรื่องราวที่เกิดขึ้น อีกนะ!!

[คนดอย]

กวง

ทำไมรูปไม่เห็น อะ!!

[Nosman]

4. นาย ทวีสิน ฉัตรเฉลิมวิทย์

พี่ก็อปที่ว่ารูปไม่เห็น หมายความว่าเปิดมาไม่มีรูป หรือไม่เห็นรูปผมครับ

ถ้าไม่เห็นรูปผมไม่แปลกครับ เพราะผมเป็นถ่ายรูป อิอิอิ

[พี่เก่ง]

กวง เยี่ยมมากๆ  เพิ่งจะมีเวลาเข้ามาอ่านไม่ได้ร่วม share ด้วย ถ้ามีเจอกันจะขอเรียนรู้จากประสบการณ์ด้วยคนครับ

[บุญเลิศ]

แวะเข้ามาทักทายครับพี่ ดีใจครับที่เห็นชาวกระดาษ เน้นในเรื่องพัฒนาคนมาก ผมเสียดายมากที่ลาออกมาแล้ว ไม่งั้นคงมีโอกาสได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ กับพวกพี่ๆ

[ก้อง]

หวัดดีทุกๆ คนครับ

พอดีได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาในครั้งนี้ด้วย อย่างที่ FA-กวง บอกตั้งแต่ต้น ... บรรดา PPW Inno FA (SCG Paper) ทั้งหลาย ที่ได้ถูกคัดสรรไปฝึกวิทยายุทธ์จากสำนัก SCG Learning Center ก็ได้นำวิทยายุทธ์มาใช้ในการณ์นี้ ... ระหว่างการพัฒนา เหล่า Staff มีการปรับแผนงาน เปลี่ยนแผนงาน รวมทั้งบนบานสานกล่าวเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา ให้การดำเนินกิจกรรมลุล่วงไปด้วยดี ... (ถอนหายใจกันยกใหญ่) .... สุดท้าย Team Learning ก็เดินทางร่วมกันไปจนตลอดรอดฝั่ง .... (ถึงฝั่งฝัน ... ว่ากันอย่างนั้นเลย) ... ถ้ามีโอกาสจะนำประสบการณ์ร่วมทั้งการเรียนรู้ในครั้งนี้ Show & Share นะครับ ...

ก้อง