ยายฟังธรรม
เวลาและวารีไม่คอยท่าใครจริงๆดังคำกล่าวนี้ เผลอเดี๋ยวเดียว....ยังจำได้ว่าเพิ่งเข้าพรรษาไม่นานนี้เอง ....นี่ใกล้จะออกพรรษาอีกแล้ว ...โรงเรียนหลายแห่งเริ่มสอบปลายภาคเรียนที่ 1 กันแล้ว หลายคนดีใจเตรียมวางแผนการหรือโปรแกรมช่วงปิดเทอมกันมีโปรแกรมไปไหนก็ไปกันเป็นครอบครัว ให้ลูกให้คนในครอบครัวรู้สึกว่าเราไม่เคยลืมเขา อย่าลืมออกพรรษาก็พากันไปทำบุญบ้าง เข้าวัดบ้าง เพราะทุกวันนี้มีแต่ชวนกันเข้าโรงหนังโรงละคร ชวนไปวัดบอกให้พายายเข้าเสียนี่ พูดถึงยายเลยนึกถึงนิทานเรื่องหนึ่ง เรื่องยายฟังธรรม หลายคนคงเคยไปวัดกันมาแล้ว (คนที่นับถือศาสนาพุทธ) ปกติวัดถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล คนที่ไปทำบุญมักจะไม่ค่อยมาก คนที่ไปประจำก็มักจะเป็นคนแก่ คนเฒ่าทั้งหลาย มีบ้างเหมือนกันที่พ่อแม่พาลูกๆไปวัด ยิ่งถ้าช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ออกพรรษา คนจะไปทำบุญที่วัดมากเป็นพิเศษ ที่วัดแห่งนี้ก็มีคนมาทำบุญและฟังเทศน์กันมาก แต่พอหลวงตาขึ้นเทศน์ได้สักครูเท่านั้น ก็มีเสียงคุยแข่ง บางคนตำหมากเสียงดัง บางคนเริ่มพิงเสาวัดขยับเข้าที่เข้าทางดีก็เริ่มหลับ คนที่ชอบหลับก็มียายเมี้ยนอยู่คนหนึ่ง พอหลวงตาเทศน์แกก็ขยับหาเสาพิงหลับอย่างสบาย หลวงตาก็เทศน์ไปเรื่อยๆ ..... สายตาก็มองกวาดดูรอบๆ แล้วเริ่มรู้สึกโมโหที่ไม่มีคนฟังเทศน์ .....จึงเทศน์ไปว่า " อันการเทศน์ครั้งนี้....เทศน์ไปก็ไม่มีใครฟัง ขอให้มันตกนรกทุกๆ คนเทอญ " หลายคนรวมทั้งยายเมี้ยนด้วยสะดุ้งตื่นพอดีได้ยินหลวงตาบอกเสียงยานคางลงท้ายว่าเทอญ.......เท่านั้นแหละต่างก็ยกมือไหว้รับพร้อมกับกล่าวว่า " สาธุ " กันถ้วนหน้า นี่ก็เป็นข้อคิดอย่างหนึ่งว่าเวลาเราไปวัดหรือฟังใครพูดสิ่งใดก็ต้องตั้งใจฟัง เพราะถ้าฟังแล้วเข้าใจผิดแทนที่จะได้ประโยชน์จากการฟัง อาจทำให้เสียเวลาและเสียใจภายหลัง เหมือนโบราณว่า " ฟังไม่ศัพท์ จับเอาไปกระเดียด "
ไม่มีความเห็น