sodiam
นาย สมศักดิ์ เล็ก วัชรธัญญทิพย์

มนตรี สาเทวิน


สมุนไพรจากหมอแอ๊บแบ๊ว

ปฏิบัติการรัก เป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญในชีวิตของคนเรา เหมือนกับทุกๆ สิ่งที่ต้องมีพัฒนาการ
เพื่อให้สิทธิภาพดีขึ้น หลายคนจึงพยายามเพิ่มพูนสมรรถภาพทางเพศโดยเฉพาะการเติมพลังรักด้วย
อาหาร และสมุนไพรเพราะดูจะปลอดภัยที่สุด


อวัยวะสืบพันธุ์จะทำหน้าที่ได้ดีมีประสิทธิภาพเพียงไรย่อมขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกาย
เป็นหลัก ระบบไหลเวียนของเลือดคล่องตัว มีความสมดุลของสารอาหารในร่างกายอย่างผู้ที่มีระดับ
น้ำตาลในเลือดต่ำ ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพของอวัยวะสืบพันธุ์ลดลงด้วย หรือบางคนที่รับประทาน
อาหารที่มีโปรตีนสูงทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานในการเผาไหม้สูงตามไปด้วย ตับต้องทำงานหนัก
ประสิทธิภาพในการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดจึงลดลง เป็นต้น

ส่วนเรื่องของสมุนไพรกับสมรรถภาพทางเพศเป็นของคู่กัน
ในสังคมไทย แต่ข้อเสียของยาพื้นบ้านหรือสมุนไพรไทย คือยังไม่มีการ
วิจัยทางวิทยาศาสตร์ในผลต่อร่างกายในระยะยาวที่ชัดเจนมารองรับ
ดังนั้นถ้าคิดจะลองใช้สมุนไพรก็ควรคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ด้วย
โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์หรือผู้ที่ต้องให้นมลูก กลุ่มนี้ห้ามลองเด็ดขาด
แม้ว่าสมุนไพรจะได้มาจากธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า
จะไม่เป็นพิษ หรือไม่มีอาการข้างเคียง แต่ตอนนี้มาดูกันก่อนว่ามี
สมุนไพรตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง

โสม (Ginseng)

โสมของท้องถิ่นเอเชีย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Panax ginseng เป็นที่กล่าวขานว่ามี
สรรพคุณทางเพศมานานกว่า 5,000 ปี หมอจีนใช้รักษาสารพัดโรค มีรายงานว่าโสมสามารถกระตุ้น
ระบบภูมิคุ้มกันได้ ช่วยให้ร่างกายรบกับความเครียด และชะลอความชราได้ ยังสามารถเพิ่มสมรรถนะ
ของร่างกาย และความทนทานทางเพศได้ด้วย

โสมมีฤทธิ์กระตุ้นอ่อนๆ ซึ่งเชื่อกันว่าการที่โสมสามารถเพิ่มพลังทางเพศได้เกิดจากการไป
กระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเพศ หรือฮอร์โมนกลุ่มที่เสริมการทำงาน
ของร่างกาย เพราะองค์ประกอบบางส่วนของโสมมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศชาย "ไฟโตรแอนโดร-
เจน" โสมสามารถเพิ่มการสร้างเชื้ออสุจิ และช่วยให้อสุจิขยันเคลื่อนไหวขึ้น บำรุงระบบการไหลเวียน
ของเลือดในร่างกายให้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณเจ้าน้องชายให้แข็งขันขึ้นด้วย

ทางองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริการะบุว่าโสมนั้นปลอดภัย ถ้าบริโภคในปริมาณที่
เหมาะสม แต่ก็พบว่ามีอาการข้างเคียงด้วยเหมือนกัน เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น และความดันโลหิตเพิ่มขึ้น
ถ้ากินมากเกินไปก็อาจทำให้กระสับกระส่ายนอนไม่หลับได้ และที่ต้องระวังคือให้หยุดกินทันทีที่มีอาการ
ท้องเสีย นอนไม่หลับ คลื่นไส้ และอาเจียน

ห้ามกินโสมพร้อมกับยาอื่นที่มีฤทธิ์กระตุ้น และห้ามกินโสมพร้อมกับแอสไพริน หรือยาที่มีฤทธิ์
ต้านการแข็งตัวของเลือด และอย่ากินโสมในช่วงสองสัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะอาจมีปัญหาเรื่องการแข็ง
ตัวของเลือด อย่ากินโสม ถ้าหากคุณป่วยเป็นโรคของระบบหัวใจ และหลอดเลือด หรือโรคเรื้อรังของ
ระบบทางเดินอาหาร และสำคัญที่สุดคือ ก่อนกินโสม คุณควรปรึกษาหมอของคุณก่อนเสมอ

แปะก้วย (Gingko biloba)

เป็นสมุนไพรเก่าแก่ที่มีความเป็นพิษค่อนข้างต่ำ และที่ใช้ในเชิงสมุนไพรก็จะเป็นส่วนของใบ
โดยมักจะอยู่ในรูปสารสกัดจากใบแปะก้วย ไม่เหมาะที่จะใช้ชงเป็นชาเพราะมีสารบางอย่างที่ทำให้เกิด
อาการแพ้ได้ ใบแปะก้วยช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ขยายหลอดเลือดแดง เลือดไปเลี้ยง
สมองดีขึ้นจึงอาจช่วยลดอาการหลงลืมในผู้ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้นจึงอาจช่วยผู้ที่มีปัญหาเรื่อง
น้องชายไม่สู้ที่มีสาเหตุจากความผิดปกติของระบบหลอดเลือดได้เช่นกัน

ใบแปะก้วยไม่มีพิษในระยะยาว และมีอาการข้างเคียงน้อยมาก ถ้ามีก็อาจเป็นเพียงปวด หรือ
เวียนศีรษะ หรืออาการปั่นป่วนในท้อง ข้อห้ามคือ ไม่ให้กินร่วมกับแอสไพริน และยาห้ามการแข็งตัวของ
เลือดเพราะจะมีปัญหาเรื่องเลือดออกได้ และอย่ากินในช่วงสองสัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะอาจมีปัญหา
เรื่องเลือดหยุดยาก เช่นเดียวกับโสม

มะเขือแจ้เครือ (Polygala Crotalariodes Ham.)

เป็นสมุนไพรไทยเรา ที่ใช้ส่วนรากมาทำเป็นยา จะมีรสออกขมๆ เฝื่อนๆ อมเปรี้ยวเล็กน้อย ว่า
กันว่าสามารถเพิ่มความกำหนัดแก้อาการกามตายด้านได้ เป็นสมุนไพรที่ใช้ร่วมกับสมุนไพรอีกหลายตัว
ในสูตรยาแก้อาการเสื่อมทางเพศของชาวเหนือ

โด่ไม่รู้ล้ม (Elephantopus Scaber Linn.)

เป็นสมุนไพรไทยที่มีชื่อน่าสนใจที่สุด ชื่อเรียกจะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น เช่น หญ้าไก่นกคุ้ม
หญ้าสามสิบสองหาบ หนาดผา หญ้าปราบ ด้านสรรพคุณนั้น ทางแพทย์แผนไทยระบุว่าใช้แก้ปัสสาวะ
พิการ และบำรุงความกำหนัดได้ ส่วนที่ใช้ คือทั้งต้น โดยที่มีรสชาติกร่อยออกไปทางขื่นๆ

ม้ากระทืบโรง (Ficus Fovealata Wall.)

มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า เดื่อเครือ ม้าทะลายโรง ม้าคอกแตก มันฤาษี กาโร มีสรรพคุณบำรุงความ
กำหนัด และยังช่วยบำรุงโลหิต แก้ปวดเมื่อย แก้ประดงเลือดได้ด้วย วิธีใช้นั้นให้เอาเถานำมาดองสุรา
หรือนำไปต้มแล้วเอามาดื่มก็ได้


นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่นำมารวมกันเป็นตำรับยาโบราณเพื่อช่วยเพิ่มพลังทาง
เพศ ส่วนใหญ่จะนำมาดองกับสุราเป็นยาดองเหล้า ถ้าดื่มแต่น้อยจะรู้สึกเลือดลมเดินดี กระชุ่มกระชวย
แน่นอน เพราะดีกรีของแอลกอฮอล์นั่นเอง ส่วนตัวยาสมุนไพรจะมีผลแค่ไหน อันนี้ไม่มีใครรับรอง

ไฉนจึงไร้ความกระชุ่มกระชวย (Sex downers)

จิตใจ มีความกังวล ความเครียด เป็นเหตุที่พบมากที่สุด โรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรค
ความดันโลหิตสูง หรือโรคของไขสันหลังก็ทำให้เจ้าน้องชายไร้เรี่ยวแรง แอลกอฮอล์ เมื่อดื่มช่วงแรก
จะออกฤทธิ์กดการทำงานของสมอง ทำให้คุณไม่ค่อยเขินอาย และกล้าทำอะไรๆ มากกว่าปกติ แต่พอ
ดื่มต่อไปการกดสมองจะมากขึ้น จนทำให้มีปัญหาของประสิทธิภาพตามมาได้ สูบบุหรี่ จะทำให้มี
เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะเพศน้อยลง ในผู้ชายจะทำให้เจ้าน้องชายแรงดีเพียงวูบแรก จากนั้นก็จะ
ระทวยไร้กระบวนท่าอย่างรวดเร็ว ส่วนในผู้หญิงนั้นบุหรี่จะไปทำให้การหลั่งสารหล่อลื่นภายในช่อง
คลอดลดน้อยลง เนื่องจากมีเลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นน้อยลง


ยาบางชนิดจะลดความต้องการทางเพศลง เช่น ยาลดอาการซึมเศร้าบางชนิด ยาแก้แพ้ประเภท
anti histamines ที่ทำให้รู้สึกง่วงซึมจะลดสมรรถนะทางเพศลงด้วย


ดังนั้นการรักษาสุขภาพดี การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ทำใจให้สงบเบิกบาน ออกกำลังกาย
และงดสิ่งต่างๆ ที่เป็นเหตุให้สมรรถภาพถดถอยดังกล่าว ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการปฏิบัติภาระกิจ
กับคู่รักของคุณเป็นไปด้วยดี แต่สนใจจะใช้สมุนไพรเพื่อช่วยเสริมพลังรักก็อย่าลืมว่า ก่อนจะใช้สมุนไพร
ปรึกษาหมอของคุณก่อนซักนิดก็ดีนะครับ เพราะขึ้นชื่อว่ามีฤทธิ์ทางยานั้นต้องระวังทุกชนิดครับ

 


แหล่งที่มา : healthtoday

                                                                              
คำสำคัญ (Tags): #สมุนไพรกับ.......
หมายเลขบันทึก: 130473เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2007 22:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม 2012 16:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท