การสร้างรหัสแบบสอบถาม
มักจะพบข้อบกพร่องหลังจากลงข้อมูลเรียบร้อยแล้ว พบว่าลงข้อมูลผิดพลาด จึงจะดำเนินการแก้ไข แต่ปรากฏว่าไม่สามารถระบุได้ว่าแบบสอบฉบับใดที่คีย์ข้อมูลผิดพลาด ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลที่ผิดได้ ดังนั้นเพื่อขจัดปัญหาความสับสนของแบบสอบถาม นิสิต นักศึกษา จำเป็นต้องเขียนรหัสแบบสอบถาม เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบแบบสอบถามย้อนหลังถ้าเกิดข้อสงสัยหรือลงข้อมูลผิด ซึ่งการเขียนรหัสแบบสอแบบถามควรเป็นแบบเรียงลำดับ 1 2 3 4..... ไว้บนหัวกระดาษขวาของแบบสอบถาม โดยจำนวนหลักของรหัสแบบสอบถามนั้นจะเท่ากับจำนวนแบบสอบถามที่ได้รับกลับคืนมาหรือขนากลุ่มตัวอย่างนั้นเอง เช่น แบบสอบถาม มีจำนวน 150 ฉบับ รหัสแบบสอบถามฉบับแรกคือ 001 ฉบับสุดท้าย 100 บนหัวกระดาษขวาของแบบสอบถาม ประโยชน์ของการเขียนรหัสแบบสอบถามคือ จะทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลแบบสอบทุกฉบับได้ง่ายในกรณีที่พิมพ์ข้อมูลผิดพลาด เช่น ถ้าพบว่าอายุของผู้ตอบแบบสอบถามแบบสอบชุดที่ 069 เป็น 89 ปี ทำให้ตรวจสอบว่าพิมพ์ผิดหรือไม่ โดยตรวจสอบจากแบบสอบถามชุดที่ 069
การสร้างรหัสสำหรับข้อมูล
หลังจากได้ข้อมูลมาแล้ว ขั้นตอนที่สำคัญอีกประการหนึ่ง การกำหนดตัวแปรและกำหนดรหัสหรือให้ค่าตัวแปร การกำหนดรหัสมักจะใช้กับข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นส่วนใหญ่ เช่น เพศ อายุ ระดับการศึกษา ความคิดเห็น ซึ่งในทางปฏิบัติการสร้างหรือกำหนดรหัสจะทำควบคู่กับการออกแบบสอบถาม ในแต่ละคำถามในแบบสอบถาม 1 ข้อ จะมีตัวแปรอย่างน้อย 1 ตัว และค่าของตัวแปรคือข้อมูล ซึ่งการสร้างรหัสสำหรับข้อมูลจะขึ้นอยู่ชนิดเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล ในที่นี้จะกล่าวถึงการสร้างรหัสของแบบสอบถาม ดังนี้
1. การกำหนดขนาดของตัวแปร ขนาดของตัวแปรแสดงถึงความยาวของตัวแปร ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของข้อมูลหรือตัวแปร ดังนี้
1.1 ข้อมูลหรือตัวแปรเชิงปริมาณ ตัวแปรที่มีค่าเป็นตัวเลข ที่ระบุตามค่าจริง เช่น ยอดขาย อายุ เป็นต้น กำหนดนั้น จะกำหนดขนาดตัวแปรให้มีจำนวนหลักอย่างน้อย 2 หลัก
1.2 ตัวแปรเชิงคุณภาพ ตัวแปรที่เป็นข้อความ โดยมีการกำหนดและแปลงรหัสเป็นตัวเลขเท่ากับจำนวนตัวแปรที่เลือกเท่านั้น
2. การกำหนดรหัสโดยแบ่งตามชนิดของข้อคำถาม แบ่งได้ดังนี้
2.1 ข้อคำถามแบบปลายปิด(Closed Form or Structured Questionnaire) เป็นคำถามที่มีคำตอบให้ตอบให้ผู้ตอบทำเครื่องหมาย ลงหน้าข้อความหรือตรงกับช่องที่เป็นความจริง หรือความคิดเห็นของท่าน ซึ่งมีหลายรูปแบบ ได้แก่
2.1.1 แบบให้เลือกคำตอบที่ตรงกับความเป็นจริงเพียงคำตอบเดียว จาก 2 คำตอบ ดังตัวอย่าง
เพศ ชาย หญิง
จากข้อคำถาม การกำหนดรหัสจะมี 1 ตัวแปร คือ เพศ กำหนดให้เป็น SEX ส่วนตัวเลือกข้อความ ชาย กับหญิง ผู้ตอบเลือกได้เพียงคำตอบเดียว คือ 1 หมายถึงเพศชาย และ 2 หมายถึง เพศหญิง ซึ่งค่าตัวเลขที่กำหนดเป็นรหัสที่แสดงถึงเพศชายหรือเพศหญิงเท่านั้น ไม่ได้ความว่าหญิงมีมากกว่าชาย แต่อย่างใด
2.1.2 แบบให้เลือกคำตอบที่ตรงกับความเป็นจริง หรือความคิดเห็น ได้หลายคำตอบ (มากกว่า 1 คำตอบ) ดังตัวอย่าง
ท่านอ่านหนังสือพิมพ์เล่มใดเป็นประจำ(สามารถเลือกได้มากว่า 1 ข้อ)
ไทยรัฐ เดลินิวส์
มติชน ข่าวสด
สยามกีฬา สยามบันเทิง
จากข้อคำถามจะพบว่ามี 6 ตัวแปร N1 = ไทยรัฐ N2 = มติชน N3 = สยามกีฬา N4 = เดลินิวส์ N5 = ข่าวสดN6= สยามบันเทิง โดยแต่ละคำตอบจะมีการกำหนดรหัสได้ 2 ค่า คือ กรณีเลือกตอบ ให้เป็น 1 กรณีไม่ตอบ ให้เป็น 0 เช่น เลือก ไทยรัฐ ข่าวสด สยามกีฬา การกรอกรหัส จะเป็นดังนี้
1 0 1 0 1 0
2.1.3 แบบมาตรส่วนประมาณค่า (Rating Scale) โดยให้ผู้ตอบเลือกตอบตามระดับความคิดเห็น ดังตัวอย่าง
วิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่ที่น่าสนใจมากกว่าวิชาคณิตศาสตร์
เห็นด้วยอย่างยิ่ง เห็นด้วย ไม่แน่ใจ ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ระดับความคิดเห็น อาจจะเป็น มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ซึ่งระดับสเกลขึ้นอยู่กับข้อคำถาม ชื่อเรื่องของที่เราศึกษา และลักษณะของคำถามแบบนี้อาจจัดอยู่ในรูปของตาราง ดังตัวอย่างที่จะกล่าวต่อไป
การกำหนดรหัสจะเป็นการเรียงลำดับ สเกลแสดงระดับความคิดเห็นด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ดังนี้
ความคิดเห็น รหัส
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 5
เห็นด้วย 4
ไม่แน่ใจ 2
ไม่เห็นด้วย 3
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง 1
2.1.4 แบบให้เรียงอันดับความสำคัญ เป็นคำถามที่มีรายการให้เลือก โดยให้ผู้ตอบให้ความสำคัญจากรายการที่กำหนดให้ แล้วใส่เครื่องหมายหรือตัวเลขเพื่อเรียงลำดับความสำคัญ อาจเรียงจากน้อยสุดไปสำคัญมากที่สุดหรือเรียงจากสำคัญมากที่สุดไปน้อยที่สุด ดังตัวอย่าง
โปรดเขียนอันดับยี่ห้อรถที่ท่านชอบมากที่สุด โดยเขียนอันดับลงในช่องหลังยี่ห้อรถ
ยี่ห้อรถ อันดับ การกำหนดรหัส
TOYOTA -------- C1
ISUSU -------- C2
MAZDA -------- C3
HONDA -------- C4
ถ้า ท่านเลือกยี่ห้อ HONDA รถที่ท่านชอบมากที่สุด ค่า C4 = 1 รองลงมา ISUSU ค่า C2= 2
TOYOTA ค่า C1 = 3 และ MAZDA ค่า C3 = 4 สามารถเขียนได้ ดังนี้
ยี่ห้อรถ อันดับ การกำหนดรหัส
TOYOTA 3 C1
ISUSU 2 C2
MAZDA 4 C3
HONDA 1 C4
การกำหนดรหัสหรือตัวแปร สำหรับคำถามลักษณะนี้สามารถทำได้โดยให้จำนวนตัวแปรเท่ากับจำนวนลำดับที่ และให้รหัสหรือค่าของตัวแปรเป็นหมายเลขข้อหน้าทางเลือกหรือหน้าคำตอบ
ดังนี้
3 2 4 1
C1 C2 C3 C4
2.1.5 แบบเติมคำสั้น ๆ ลงในช่องว่าง แม้ว่าจะเป็นการเติมคำแต่ก็ไม่ได้จัดเป็นแบบปลายเปิด เพราะส่วนที่จะให้เติมมีความเฉพาะจงจง ดังตัวอย่าง
อายุของท่าน .........ปี รายได้ต่อเดือน ...................บาท
การกำหนดรหัสหรือตัวแปร ให้ใส่ตัวเลขที่ระบุตามความเป็นจริง และจำนวนหลักของตัวเลขให้ส่วนจำนวนที่มากที่สุดของจำนวนที่ระบุไว้
2.2 แบบสอบชนิดปลายเปิด (Opened Form or Structured Questionnaire) เป็นคำถามที่ไม่ได้กำหนดคำตอบไว้ให้ตอบ แต่เปิดโอกาสให้ผู้ตอบตอบแบบสอบถาม โดยใช้คำพูดของตนเอง
ซึ่งในการให้รหัสผู้วิจัยจะต้องพิจารณาคำตอบเดียวกันหรือคล้ายกันเป็นรหัสเดียวกัน เช่น เมื่ออ่านคำตอบแล้วพบว่ามีความคิดเห็นต่างกันกัน 5 แบบ อาจให้รหัส 1 2 3 4 5 เป็นต้น
ทองสง่า ผ่องแผ้ว 19/09/2550
ไม่มีความเห็น