สวัสดีครับท่านผู้อ่าน......มาถึงตอนสุดท้ายของคู่มือวิทยากรฉบับพกพาแล้วนะครับ..... ก่อนเล่าต่อ ตามสูตรต้องทบทวนเรื่องเดิมก่อนนะครับ
ในฉบับ 1 และ 2 ท่านผู้อ่านคงทราบแล้วว่า ผู้ที่จะเป็นวิทยากรอบรมที่ดี ต้องมีภูมิรู้ คือ มีความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ในเรื่องที่จะเป็นวิทยากร ตามมาด้วย ภูมิคิด คือ ต้องมีการวางแผนก่อนจะขึ้นพูด หรือบรรยายทุกครั้ง ต้องเตรียมตัว ศึกษาข้อมูล ของผู้ฟัง งานที่รับบรรยายและบริบทแวดล้อมต่างๆก่อน ทั้งสองประการถือได้ว่าเป็นหัวใจของการเป็นวิทยากรทีเดียว
แต่..ยังคงไม่เพียงพอกับการเป็นมืออาชีพครับ ต้องมีภูมิที่สาม เป็นเครื่องกำกับ 2 ประการแรกให้อยู่ในกรอบของมืออาชีพครับ .....นั่นคือ
ภูมิที่สามคือ ภูมิธรรม ได้แก่ การเห็นอกเห็นใจ ให้ความเอื้ออาทร เมตตา แก่ผู้เข้าร่วมการอบรม มีความเป็นกันเองตลอดเวลาการอบรม
ประการที่สอง ต้องมีทักษะการฟังที่ดี รับฟังปัญหา และข้อสงสัยด้วยความสุภาพ และให้คำตอบที่ผู้เข้าร่วมการอบรมพอใจ แสดงความกระตือรือร้นและสนใจในผู้เข้าร่วมอบรม
ประการที่สาม มีเทคนิคที่ดีในการตอบคำถาม เพื่อให้เข้าใจง่าย และรู้จักหลีกเลี่ยงในคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ รวมถึง รู้จักตั้งคำถามเพื่อให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมกับวิทยากรมากขึ้น
ประการที่สี่ มีวิธีการ จัดการผู้เข้ารับการอบรมที่สร้างปัญหาที่เหมาะสม สุภาพ เพื่อให้การอบรมดำเนินไปอย่างราบรื่น ต้องอำนวยความสะดวกในทุกด้านให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม ตลอดจนรู้จักปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เข้าร่วมการสัมมนาด้วย
บางท่านอาจจะมองว่าภูมิธรรม คือจรรยาบรรณของการเป็นวิทยากรมืออาชีพก็คงไม่ผิดอะไรนัก หากเรามีภูมิธรรม เป็นเครื่องกำกับ การทำหน้าที่วิทยากรก็จะทำให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจ และชื่นชมเราในทางบวก อันจะส่งผลให้เรามีโอกาสแสดงความสามารถในเวทีอื่นๆอีก (ได้เงินด้วยครับ)
ภูมิรู้ ภูมิคิด และภูมิธรรม ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นวิทยากรอบรมที่ดี ดังนั้นการจะเป็นวิทยากรอบรมที่ประสบผลสำเร็จนั้น ต้องลงมือทำทันที พร้อมเผชิญกับอุปสรรคขวากหนามต่างๆ โดยใช้ เวลา แนวทาง หลักการเป็นอาวุธ แผ้วถางหนทางของการเป็นวิทยากรอบรมที่มีคุณภาพ ด้วยการรู้จักพัฒนาตนเอง หมั่นเรียนรู้ มุ่งสู่ความก้าวหน้าในอนาคต ดังสุภาษิตจีน ที่กล่าวไว้ว่า “ ระยะทางไกลนับร้อยลี้ แต่อยู่ที่เริ่มต้นที่ก้าวแรก” ครับไม่มีความเห็น