การต่อสู้ที่สนุก-ท้าทาย ที่ต้องใช้ทั้งปัญญาความคิดในการแก้ปัญหา ในการแข่งขันต่อสู้กับผลงานของตัวเองมากกว่าการแข่งขันกับคนอื่น อาจต้องเปรียบเทียบกับคนอื่นบ้าง เพื่อให้รู้เขารู้เรา เพือจะได้ปรับปรุงตัวมากกว่าที่จะต้องริษยาถ้าเราเก่งไม่เท่าเขา
เกลียดที่สุดคือ การมีศัตรู แต่ความจริงคือ การที่คนทำงานทุกคน มักต้องพบการมีศัตรู คือ
๑ ศัตรูของตัวเราเอง มีสองแบบ
๑.๑ ศัตรูที่เกิดจากการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันในงาน ทำให้มีบางคนตั้งป้อมจองล้างจองผลาญกับเราอย่างเปิดเผย กับมีแบบรู้หน้าไม่รู้ใจ ต่อหน้าพูดดีมีน้ำใจ แต่แอบจิกกันโดยเราม่รู้ตัวก็มี
๑.๒ ศัตรูที่เกิดจากการไม่ต้องชะตา ซึ่งคนจีนจะมีการยอมรับในเรื่องการไม่ถูกโฉลกกัน พูดอะไรก็ไม่เข้าหู มีแต่บั่นทอนให้เสียกำลังใจ
๒ ศัตรูจากเนื้องาน เพราะงานที่เราทำย่อมมีทั้งคุณมีทั้งโทษต่อคนในสังคม คู่แข่งขององค์กรจึงอาจเห็นเราเป็นศัตรู และคอยปัดแขงขาถ้าทำได้ เพื่อไม่ให้เราก้าวหน้าในงาน
๓ ศัตรูจากทีมงาน ที่แม้นจะทำงานทีมเดียวกัน แต่บางจังหวะก้อาจมีการเหมือนเหยียบตาปลากันเอง แย่งที่จะเป็นเจ้าของความคิดที่ดีหรือผลงานที่ดี เพื่อเป็นบันไดแห่งความก้าวหน้า กรณีนี้พบเห็นบ่อยเหมือนกัน
๔ ศัตรูในอดีต เป็นสัตรูที่เกิดสะสมมาเรื่อย ๆ จากทั้งสามประเภทเบื้องต้น ที่คิดแค้นไม่รู้จบแม้ว่าเรื่องจะผ่านไปนานแล้ว เกิดการกัดติดไม่เลิกถ้าสบโอกาส
ศัตรูเหล่านี้ แค่ถูกฟาดฟันตามปกติก็แย่พออยู่แล้ว ก็ยังจะรายการชกใต้เข็มขัดจากศัตรูเหล่านี้เสมอการชกใต้เข็มขัด ก็คือการใส่ร้ายว่าเราไม่เก่งหรือไม่ดีอย่างไร การทำงานของคนที่เก่งจริง จึงเป็นการต้องเก่งพอที่จะรับมือกับพวกชกใต้เข็มขัดด้วย แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ ทุกวันนี้ประเทศไทยมีศัตรูที่เก่งกว่าเรามาก เป็นทีมอัจฉริยะที่ร่ำรวยและจ้องโจมตีค่าเงินบาท
สวัสดีครับ......กลุ่มที่ 3 ศูนย์เรียนรู้ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ครับ ...นานที ก็ขอร่วมแสดงความคิดเห็นบ้างครับ......
พวกคุณว่า สัตว์ทั้งหลายที่อยู่ร่วมกันในโลกใบนี้ มีศัตรู หรือเปล่าครับ.....นี่คือคำถามอยากถามดู มีแต่มนุษย์เราใช่หรือไม่ที่มักจะเห็นคนที่ทำอะไรไม่เหมือนเรา หรือต่างจากเราแล้วคิดว่าเขาเป็นศัตรู หรือมองหน้าก็เป็นศัตรู หรือได้ยินเสียงก็เป็นศัตรู แข่งหรือแย่งอะไรกันครับ........ถ้าต้องแข่งกันเพื่อจะได้ขั้นเงินเดือน หรือเงินเดือนขึ้น ก็ไม่ใช่ความสำเร็จของชีวิตหรอกครับ
เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราทำงานเพื่อเงินเดือนขึ้น หรือเงินเดือนที่สูงกว่า คุณก็จะเป็นแค่กลไกที่ทำงานได้เก่ง ทำงานได้เร็ว และทำงานได้ดี คุณทำเพราะว่ามีแรงจูงใจ แต่คุณจะไม่ได้ทำให้ชีวิตมีแรงบันดาลใจ ซึ่ง นั่นจะหมายความว่าชีวิตไม่ใช่เกมกีฬาครับ แต่ชีวิตเป็นอะไรที่มีกว่านั้น เป้าหมายเราต้องการสุขเวทนา หรือ สืบทอดเผ่าพันธุ์ หรือมีชีวิตไปวัน ๆ หรือต้องการวิมุตติ การหลุดพ้นจากวัฏฏะสังสาร หรืออะไรกันแน่ ครับ ถ้าเราต้องการมีชีวิตที่สุขเวทนา โดยวิธีตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การแข่งขันก็ไม่จำเป็น ใครจะเป็นศัตรูก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ เพราะเราก็ไม่ต้องคิดว่าเราจะเก่งกว่าใคร? การทำงานกลายเป็นช่วยเหลือกัน เหมือนงานวัดที่ต่างคนต่างร่วมมือกัน ผลตอบแทนก็ไม่มี ทำเพื่อบุญ เป็นระบบบุญนิยม แต่ไม่สุดขั้วครับ..........