วัฒนธรรมความปลอดภัย
การทำคุณภาพต้องทำด้วยใจ ใช้ใจ เชื่อใจ ให้ใจ เพื่อให้ได้ใจ จึงจะเกิดความยั่งยืนในองค์กร จนเกิดเป็นวัฒนธรรมคุณภาพโดยเฉพาะวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นความปลอดภัย วัฒนธรรมการเรียนรู้ การที่จะให้เกิดเป็นวัฒนธรรมต้องใช้เวลา เพื่อให้เกิดความยั่งยืน พอดีได้หา file เกี่ยวกับวัฒนธรรมความปลอดภัยเจอที่อ.นพ.อนุวัฒน์เขียนไว้ขอนำมาเผยแพร่ต่อไปองค์กรที่มีวัฒนธรรมความปลอดภัยมีลักษณะดังนี้ ไม่เน้นการลงโทษ, มุ่งเน้นที่ระบบและกระบวนการ, มีการสื่อสารที่เปิดกว้าง, มีการแลกเปลี่ยนความคิดอย่างอิสระ, ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและการลงมือทำ, เน้นกิจกรรมที่ระดับปฏิบัติ, ขับเคลื่อนโดยผู้นำ
การสื่อสารในองค์กรที่มีวัฒนธรรมความปลอดภัยจะอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อใจกันและกัน (trust), มีการรับรู้ร่วมกันถึงความสำคัญของความปลอดภัย (perception), และมีความมั่นใจในประสิทธิภาพของมาตรการป้องกัน (confidence)
Westrum R (อ้างใน Amalberti R & Auroy Y) ได้แบ่งองค์กรตามลักษณะวัฒนธรรมความปลอดภัยเป็น 3 กลุ่มคือ วัฒนธรรมขององค์กรที่เจ็บป่วย (pathological culture), วัฒนธรรมแบบราชการ (bureaucratic culture), และ generative culture
เปรียบเทียบลักษณะวัฒนธรรมองค์กร
Pathological
Culture |
Bureaucratic
Culture |
Generative
Culture |
|
ข้อมูลข่าวสาร |
ปกปิด
ไม่รับรู้ |
อาจไม่สนใจ |
พยายามแสวงหา |
ผู้ส่งข่าว |
ถูกยิง |
รับฟัง |
ฝึกอบรมและให้รางวัล |
ความรับผิดชอบ |
โยนกลอง
ปัด |
แยกแผนก |
ร่วมกันรับผิดชอบ |
การเชื่อมต่อ
(bridging) |
ไม่ส่งเสริม |
อนุญาตแต่ไม่ส่งเสริม |
ให้รางวัล |
ผลของความบกพร่อง |
ถูกลงโทษ |
แก้ไขเฉพาะจุด |
การปฏิรูปที่ก้าวไกล |
ความคิดใหม่ๆ |
ปิดกั้น
บดขยี้ |
สร้างปัญหา |
ยินดีต้อนรับ |
Accountability is not always about a person. |
ความรับผิดชอบมิใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลเสมอไป |
Blame hides the truth about error. |
การกล่าวโทษจะปิดบังความจริงเกี่ยวกับข้อผิดพลาด |
Cultures must change. |
จะต้องมีการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม |
Document facts. |
บันทึกข้อเท็จจริงเมื่อเกิดความผิดพลาด |
Error is our chance to see weakness in our systems and people. |
ความผิดพลาดเป็นโอกาสให้เห็นจุดอ่อนในระบบและคนของเรา |
Focus on prevention. |
มุ่งเน้นที่การป้องกัน |
Gather evidence to support facts. |
รวบรวมหลักฐานเพื่อให้รู้ข้อเท็จจริง |
Hear when you listen. |
ฟังให้ได้ยิน |
Investigate cause. |
สืบสวนหาสาเหตุ |
Justice should include compassion, disclosure and compensation. |
ความเป็นธรรมควรครอบคลุมถึงความเห็นใจ การเปิดเผยข้อมูล และการจ่ายเงินชดเชย |
Knowledge must be shared. |
ความรู้จะต้องมีการแบ่งปันกัน |
Learning from others mistakes benefits all. |
การเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่นเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน |
Make the effort to look beyond the obvious. |
พยายามมองให้ไกลว่าสิ่งที่เห็นอยู่ชัดๆ |
Nothing will change until you change it. |
จะไม่มีอะไรเปลี่ยนจนกว่าท่านจะจัดการเปลี่ยนมันเสีย |
Opportunities for solutions are lost by blame. |
โอกาสสำหรับการแก้ปัญหาจะสูญสิ้นไปเพราะการกล่าวโทษ |
Partner with patients and practitioners. |
เป็นแนวร่วมกับผู้ป่วยและผู้ประกอบวิชาชีพ |
Question until you can no longer ask "why?". |
ตั้งคำถามจนกว่าจะไม่สามารถถาม “ทำไม” |
Reporting error is suppressed by blame. |
การรายงานข้อผิดพลาดจะลดลงเพราะการกล่าวโทษ |
Systems are where practitioners practice. |
ระบบคือที่ที่ผู้ประกอบวิชาชีพทำงาน |
Think about the blunt and sharp end. |
คิดถึงปลายด้านมนและด้านแหลม |
Understand the role of accountability. |
ทำความเข้าใจบทบาทของความรับผิดชอบ |
Value the patient perspective. |
ให้คุณค่าต่อมุมมองของผู้ป่วย |
Why, Why, Why, Why, Why = root cause. |
ทำไม, ทำไม, ทำไม, ทำไม, ทำไม = สาเหตุรากเหง้า |
X-ray vision sees the deeper story. |
ภาพรังสีทำให้เห็นเรื่องราวที่ลึกลงไป |
You can make a difference. |
ท่านสามารถก่อให้เกิดความแตกต่าง |
Zeroing in on cause brings us one error closer to zero error. |
การขจัดสาเหตุทำให้เราเข้าใกล้ภาวะที่ปราศจากข้อผิดพลาดเข้าไปอีกก้าวหนึ่ง |