ลูกเป็ดขี้เหร่
นางสาว ณิชาดา ลูกเป็ดขี้เหร่ ปัญจวีณิน

แงซายจอมจักรา


แงซายจอมจักรา
ดารินหายเป็นปกติ ออกเดินทางได้ ทุกคนยกเว้นมาเรียต้องพึงยาร้อนบุญคำอีกเพราะอากาศหนาว หิมะตก แล้วก็ บรรลุถึงบริเวณเนินจันทร์ ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย ก่อนวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 12 ถึง 2 วัน

 

ช่วงสายวันรุ่งขึ้น ออกสำรวจพื้นที่ และตรวจหาร่องรอยคนหาย ในทันใดนั้นเอง ก็ปะทะกับฝูงหมาป่านับพันที่ไล่ต้อนกวางมา มีบาดเจ็บสองคน ไชยยันต์กับจัน จนแงซายยิงธนูติดระเบิด ไล่ฝูงหมาหนีไปหมด แงซายพบหลักฐานการมาถึงเนินพระจันทร์ของคนสาปสูญ คือที่พักนอนและรอยก่อไฟในหลุมอุกาบาต แต่ก็ยังตีปริศนาลายแทงไม่ออก

 

วันขึ้น 5 ค่ำเดือน 12 ตามกำหนดของลายแทง วันนี้แล้วซินะ ปิ่นพระศิวะจะฉายแสง แล้วถันพระอุมาจะปรากฏ กลางวันออกตรวจตราไปทุกที่ ก็ไม่เกิดปัญญาใดๆให้ตีปริศนาลายแทงได้ พอตกเย็นก็กินอาหาร เก็บสัมภาระเตรียมออกเดินทาง มาพักรอที่เนินพระจันทร์ท่ามกลางความหนาวเหน็บจนต้องอาศัยยาร้อนของบุญคำช่วย และแล้วเมื่อพระจันทร์เสี้ยวของคืน5 ค่ำแตะเขาศิวะเทพ ปรากฏการณ์ก็สว่างไสว ถันพระอุมาก็ปรากฏ แล้วทุกคนก็ออกเดินทาง

 

เดินทางมาอย่างมีความหวัง เป็นเวลาหลายชั่วโมง จนเวลา 03.25 น. ก็มาพักที่เวิ้งถ้ำเล็กๆ (ถ้ำเล็กๆทางด้านเหนือของเต้านมด้านใต้สุดของภูเขาสองลูก) เจ้าของลายแทงมาเข้าฝันดาริน แล้วก็พบโครงกระดูกของเจ้าของลายแทงในถ้ำนั้นเอง

 

ตื่นเที่ยง (เวลาในมรกตนครช้ากว่าเวลาจริง 7 ชั่วโมง) ไม่มีอาหารรองท้อง ต้องใช้อาหารแก้หิวของดาริน 3 ชั่วโมงเศษของการไต่เขา ก็พบพระศิวะแอดเวนิว ทันทีที่เหยียบหัวถนน นาฬิกาของเชษฐาก็หยุดเดิน เวลา 15.35 น.กับ 22 วินาทีของวันที่ 4 พฤศจิกายน นอกจากนาฬิกาหยุดเดิน เข็มทิศก็ชี้ผิดทิศด้วย แต่แก็ปกระสุนปืนยังทำงาน (.375 จากมือดาริน) เดินตามถนนี่ลาดต่ำลงมาราว 4 ชั่วโมงเศษทุกคนก็เหนื่อยล้า เป็นมาเรียที่สังเกตเห็นเงาตะวันว่าเพิ่งเที่ยงหรือเลยเที่ยง ทุกคนหยุดพักใต้ร่มต้นไม้ข้างลำธาร จับปลามาย่างกินแล้วทุกคนก็หลับเป็นตายจนเกือบรุ่งเข้า

 

ย่ำรุ่งตื่นมาก็พบว่าแงซายหายไปพร้อมกับอาวุธปืนและยุทธปัจจัย ฟ้าสางกองทัพของมรกตนครจับคนต่างถิ่นเป็นเชลย ทุกคนถูกกวาดต้อนไปกับทหารเพียงแต่ไม่โดนพันธนาการเพราะรพินทร์ได้สำแดงเดชฤทธิ์ของอาวุธสายฟ้า(ปืนที่เหลือ)ให้รหัสยะประจักษ์

 

หลังพักเที่ยงออกเดินทางต่อ กุตะมะโดนธนูอาบยาพิษของฝ่ายขบถ ชาวต่างถิ่นจึงมีโอกาสรักษากุตะมะเพราะไม่มีหมอหลวงมาด้วย รักษากุตะมะแล้ว ยังช่วยรักษานักโทษ 6 คนและได้ข่าวเกี่ยวกับมรกตนครและข่าวคนหาย กลางดึกเมยานีลูกสาวอรชุนตีปล้นค่ายชิงตัวนักโทษทั้ง6 หนีไปได้ พร้อมกับมาดูตัวคณะเดินทางทั้ง 11 คน

 

รุ่งเช้าออกเดินทางต่อ ดารินได้มีโอกาสวิสาสะเพิ่มเติมกับกุตะมะ ช่วงหนึ่งผ่านประตูปิศาจ ได้รับสัญญาณแสงบอกว่าได้เข้ากับกองทัพประชาชนแล้ว จะหาทางช่วยคณะรพินทร์ก่อนที่จะเปิดศึกกับสิงหรา ถึงหน้าเมืองเวลาย่ำค่ำจึงไม่อาจเข้าเมืองได้ มีแต่กุตะมะกับรหัสยะเท่านั้นที่เข้าเมืองไป ตกดึกดารินวางแผนออกไปสำรวจต่ายโดยวางยาสลบแล้วชวนรพินทร์กับตะหยิ่นออกไป โชคดีได้เจอเมยานี จึงได้ทราบเรื่องราวต่องๆของมรกตนคร

 

รุ่งเช้าก็ถูกคุมตัวมารอที่ปราสาทส่วนหลังในอุทยาน โดยมีรหัสยะเป็นตัวประกัน จนเที่ยงก็มีอาหารมารับรอง ช่วงบ่ายได้เข้าเฝ้ากษัตริย์สิงหรา ณ. ที่นี่เมื่อสิงหราถามถึงคนที่ 12 (หมายถึงแงซายที่สิงหราต้องการตัว) เชษฐาบอกขอดูตัวคนหายที่มาตามก่อน สิงหราอนุญาตแล้วให้ลงไปดูในคุกโดยมีกุตะมะเป็นตัวประกันไปด้วย

 

เมื่อลงไปถึงก็เจอนายชดกับหนานอิน พร้อมกับรับทราบว่าหลงกลวิงหราโดนขังในคุกด้วยจนกว่าจะยอมวางอาวุธ แต่แล้วพระเจ้าก็ไม่เข้าข้างคนผิด ปรากฏว่า กุตะมะซ้อนกล แปรพักตร์เข้ากับอรชุนผู้นำกองทัพประชาชน โดยเปิดประตูลับที่อยู่ในห้องขัง ประตูลับนี้มีกุตะมะทราบแต่เพียงผู้เดียว แล้วก็นำคณะรพินทร์ออกมาพบกองทัพประชาชนที่มีแงซายคอยต้อนรับอยู่แล้ว

 

รุ่งขึ้นวางแผนเผด็จศึก โดยให้ให้แงซายออกไปรบ แล้วทำทีแตกพ่ายหนีมาที่ช่องเขาซึ่งรพินทร์ได้วางระเบิดรอไว้แล้ว เมื่อรหัสยะตามาก็โดนระเบิดเขาถล่ม รหัสยะแตกทัพหนีเข้าเมือง กองทัพแงซายตามไป ฝ่ายเชษฐารพินทร์ช่วยยิงธนูติดระเบิดถล่มประตูเมืองให้กองทัพประชาชนเข้าไปได้

 

ที่สนามชัย แงซายเผชิญหน้ากับสิงหราและรหัสยะ แล้วแงซายนก็แสดงฝีมือดาบ ฆ่าสองพี่น้องอย่างง่ายดาย จับญษติทรราชมาพิจารณาโทษ แล้วขึ้นไปดูแม่มดวาชิกาผู้วางแผนโต่นกษัตริย์วิษณุพรมนารถในครั้งกระโน้น จับแม่มดมาเผากลางเมือง

 

รุ่งขึ้น เอาศพกุตะมะไปไว้ที่สุสานพระแม่อุมาเทวี พร้อมกับเปิดขุมเพชรพระอุมาให้ทุกคนได้ดูเป็นบุญตา แงซายสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าจักราธิราช ขึ้นครองเมือง

 

หลังพักผ่อนที่มรกตนครเป็นเวลาสมควร ทุกคนก็เดินทางกลับ
คำสำคัญ (Tags): #เมยานี-แงซาย
หมายเลขบันทึก: 128164เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2007 18:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 18:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ลูกเป็ดขี้เหร่....

เข้ามาเยี่ยม....

ชอบนิยายชุดนี้มาก เคยอ่านจบครั้งแรกตอนเป็นวัยรุ่น... ตามที่เคยเห็นมา นิยายชุดนี้พิมพ์ใหม่เรื่อยๆ และการแบ่งภาค-ตอน บางครั้งก็เปลี่ยนไป มีการเพิ่ม-ลด ชื่อภาคชื่อตอนใหม่... คงจะมุ่งหวังด้านการตลาดด้วย...

เค้าว่า นิยายเรื่องนี้ลอกเลียนมาจาก ขุมทรัพย์โซโลมอน ... เมือไปอ่านดูกเห็นด้วยเพราะ โครงเรื่องคล้ายคลึงกันมาก... แต่เพชรพระอุมาได้ขยายความออกไปพิสดารยิ่งกว่าขุมทรัพย์โซโลมอน....

อีกเรื่องที่เคยอ่านในนิตยสารบางกอกตอนเล็กๆ คือ ขุนเขาพญาไฟ และภาคสองชื่อ ภูผามหาพรหม ของ ระวี ก้องหล้า  ...  เรื่องนี้สนุกมาก ชอบพอๆ กับเพชรพระอุมา...

นิยายทำนองนี้เรื่องอื่นๆ เช่น ลูกดอกจรวด ของสิงขร ...หรือ ล่องไพร ของน้อย อินทนนท์ ก็เคยอ่าน แต่เรื่องไหนๆ ก็สู้ เพชรพระอุมากับขุนเขาพญาไฟ ไม่ได้  

จะติดตามอ่านเรื่อยๆ....

เจริญพร 

ชอบมากค่ะ เอามาลงอีกนะคะ

ขอนุญาตนำเข้าแพลนเน็ตนะคะ ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะ

ชอบมากๆๆเลยค่ะ

 

ชอบเรื่องนี้มากครับ ถึงจะมีเค้าโครงมาจาก สมบัติพระศุลี (โซโลมอน) แต่เรื่องนี้มีวามพิเศษมากว่าครับ

โดยส่วนตัวแล้วชอบ แงซาย อยู่แล้ว เพราะเท่ห์กว่าจอมพรานเยอะ บุคลิกของ แงซาย ก็น่าเอาอย่างเหมือนกันนะ

เห็นด้วยกับข้าพเจ้าไหม

...................... .300เวเธอร์บี กระบอกนั้นในมือเธอ....................

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท