บอกรักแม่


แม่

    เมื่อวานตั้งใจไปร้านหนังสือเพื่อซื้อหนังสือของผู้เขียนท่านหนึ่งที่ชื่นชอบท่านมากๆ  คือหนังสือของคุณวินทร์  เลียววาริณ  ท่านเป็นนักเขียนในดวงใจ  (แต่ก็ไม่เคยเจอท่านเป็นการส่วนตัวหรอกนะคะ)  แถมยังเป็นคนพื้นเพเดิมอำเภอหาดใหญ่  จังหวัดสงขลา  บ้านเดียวกันอีกด้วย  หนังสือบางเล่มออกมา 2-3 ปี  แล้ว  แต่เพิ่งซื้อมาเก็บสะสมไว้  เพราะเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเนี่ย  ค่อนข้างยุ่ง  ทำให้ไม่มีเวลาหยิบหนังสือของท่านมาอ่านมากนัก  ..แต่ทุกเล่มที่ผ่านมาและได้อ่านนั้น  ชอบมากจริงๆ ค่ะ...เลยอยากแนะนำเผื่อใครอาจจะสนใจบ้าง

 

ที่ยังจำได้และขอแนะนำสักเล่ม คือ  รอยเท้าเล็กๆของเราเอง  (เล่มนี้ชอบมากค่ะ....เคยอ่านจบแล้ว  เอาไปให้เพื่อนยืมอ่านต่อด้วยนะคะ)

มีอยู่บทหนึ่ง  ท่านเขียน เรื่อง  บอกรักแม่

 มีอยู่ช่วงหนึ่งท่านเขียนว่า ท่านไม่ใช่คนเดียวที่ประสบกับธรรมเนียมของครอบครัวแบบเก่าที่เห็นว่า  การบอกรักคนที่เรารักเป็นเรื่องแปลก

ท่านยังบอกอีกว่าท่านเรียนรู้ช้าไปหน่อย ว่าเมื่อรักใครก็ควรแสดงออกมาให้เขารู้  แต่ไม่ช้าเกินไปที่จะบอกคนอื่นๆว่า  ไปเยี่ยมแม่ของคุณในวันนี้  บอกรักแม่ของคุณเสียก่อนที่แม่ของคุณจะไม่ได้ยินคำบอกรักนั้น

 

.......บางสิ่งบางอย่างในโลกเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว.......

 

คำสำคัญ (Tags): #บอกรักแม่
หมายเลขบันทึก: 127940เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2007 08:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวจริง ๆ
  • ผมเป็นลูกคนโต มีโอกาสดีกว่าน้อง ๆ อีก 7 คน ได้เรียนต่อ ได้มีงานทำอย่างมีหน้ามีตา
  • ความมีหน้ามีตาจึงทำให้จำเป็นต้องมีบ้าน มีรถ มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ให้สมฐานะ
  • ด้วยเครดิตดี (มีเงินเดือน) คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจให้ยืมโฉนดที่ดินไปคำประกันเงินกู้ต่อธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อสร้างบ้าน ต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพื่อซื้อรถ ฯลฯ
  • จนกระทั่งวันที่ 1 กันยายน 2543 คุณพ่อตาย ใจหายอย่างบอกไม่ถูก นี่พ่อตายแล้วหรือ เรายังไม่ได้เอาโฉนดคืนให้ท่านเลย
  • ได้คิดครับ เมื่อไหร่จะมีโอกาสคืนโฉนดให้แก่แม่ และน้องเราอีก 7 คน เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะแปลงสินทัพย์นี้เป็นทุนบางหรือ ถ้าเราผ่อนชำระเงินกู้เช่นนี้ต่อไปจนเกษียณ(60ปี) ก็ไม่มีทาง หรืออาจถึงตายก็ยังคืนโฉนดให้แม่ไม่ได้กระมัง และถ้าแม่ตายไปอีกคนหละ ทำอย่างไร ทุกข์ใจมากและทวีความรุ่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ชักมองหน้าพี่น้องไม่สนิท
  • 1 เมษายน 2547 มีโอกาสครับ เข้าร่วมโครงการจากกันด้วยดีของรัฐบาล (early-retire) 15 ของเงินเดือนบวกเงินประจำตำแหน่ง ลาออกและนำเงินที่ได้ไปชำระหนี้สิน เอาโฉนดคืนให้แม่ได้สำเร็จ โล่งใจหาใดเหมือน สวรรค์บนดินก็ปานนั้น
  • เสียใจอยู่อย่าง รับจากมือของพ่อแต่ไม่ได้คืนกับมือของพ่อครับ
P

 

แต่เชื่อเถอะค่ะว่าคุณพ่อท่านคงรับรู้แน่ๆ 

 และท่านคงหวังให้ลูกๆ  ดูแลภรรยาของท่าน (คุณแม่คุณ  )เป็นอย่างดีน่ะค่ะ.....สู้ๆ  ค่ะ

  •  ครอบครับใดที่ยังมีพระอยู่ที่บ้าน 2 องค์ ก็จงดูแลท่านให้ดี
  • ตอบแทนพระคุณของท่านที่ฟูมฟัก เลี้ยงดู ให้การศึกษา จนมาถึงทุกวันนี้
  •  ยังไม่มีตำราเล่มใด ๆ ที่จะจัดทำเป็นคู่มือในการเลี้ยงลูกได้ดีเท่ากับ คุณพ่อ-คุณแม่ของเรา เป็นผู้แต่งบทเรียนที่จะต้องศึกษาด้วยตัวของตัวเอง
  • เราเองก็จะต้องจดจำตำรานั้นกลับมาเลี้ยงดูพ่อแม่ยามท่านเข้าสู่วัยชรา ได้พักผ่อนบ้าง (ดูมีสาระนะเนี่ย)

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความคิดเห็นของพี่ๆ ผมคิดว่าทุกคนคงรักคุณพ่อ รักคุณแม่ กันทั้งนั้น แต่บางคนอาจจะไม่ค่อยแสดงออก แต่ผมว่าการแสดงออกว่าเรารักพ่อและแม่ของเราเป็นสิ่งดีนะคับ ท่านเองก็จะได้รู้ ว่าเรารักท่านมากเพียงใด ท่านจะได้มีความสุขและภูมิใจในตัวลูกของท่านคับ

  • ได้ข้อคิดที่ดีคะ
  • เพราะบางครั้งเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่เรารู้สึกเขินอายที่จะบอกรักพ่อแม่คะ
  • ขอบคุณที่แนะนำสิ่งที่ดีๆนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท