จุดเด่น ๆ ของตำบลหนองสาหร่าย ในทัศนะของนักท่องเที่ยวทั่วไป มองบริบทชุมชนป็นหมุ่บ้านเกษตรกรรมธรรมดา ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ แต่ถ้ามองในทัศนะของผู้ใฝ่ที่จะเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเอง บนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หนองสาหร่าย มีจุดเด่นก็คือ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ อย่างรอบด้านเพื่อการพึ่งตนเอง ในหลายหลายด้านตลอดจนสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายของชุมชน การให้คุณค่า ทรัพยากรธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชน รังสรรค์ออกมาเป็นนวัตกรรมใหม่ น้ำดื่มผลิตเอง น้ำตาลทรายผลิตเอง ขนมเด็กผลิตเอง ธนาคารมีเอง สิ่งแวดล้อมไม่เป็นพิษเพราะใช้เกษตรอินทรีย์ (ก็แหล่งน้ำตาลอาหารของจุลินทรีย์) การมองโลกอย่างสร้างสรรค์ของผู้นำท้องถิ่น วิธีการคิด การปฏิบัติ บนโลกทัศน์ใหม่ จึงทำให้สภาพสังคมชุมชนมีความสงบสุข ที่นั่นไม่มีวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูง โดยนอนมาบนเบาะรถ
ที่น่าชื่นชมคือการ ปลูกสบู่ดำ แล้วสกัดเป็นไบโอดีเซล ไว้ใช้กับเครื่องยนต์ในการเกษตร เป็นพลังงานทดแทน ตลอดจนอ้อยที่ชุมชนปลูก สามารถเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำตาล แอลกอฮอล์ (แอลกอฮอล์ปัจจุบันมีราคาแพงมาก ในการเกษตรใช้สกัดสารไกลโคไซด์จากพืชเพื่อทำฮอร์โมนพืช ฯลฯ)
สรุป ถ้าใครยังไม่ได้ไปดูการจัดการองค์ความรู้ของหนองสาหร่ายแล้ว อย่าพึงริทำการใหญ่ โดยเฉพาะท่านที่คิดจะขันอาสา เป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือท่านที่จะเข้าคูหากาเบอร์ผู้สมัครการเมืองท้องถิ่น หากยังเป็นผู้ที่มีกระบวนทัศน์แบบเดิม ๆ คือ เห็นว่าความเจริญของท้องถิ่นคือ อภิมหาโครงการ ไฟสว่างทางเจริญ แต่มองข้ามการเรียนรู้ของผู้คนในชุมชน ขอได้โปรดกลับไปคิดใหม่เถอะ สงสารพี่น้องประชาชนในท้องถิ่น ที่ต้องผิดหวัง และต้องจมอยู่กับความเจ็บป่วย (บริโภคอาหารที่มีสารพิษ เพราะใช้สารเคมีในการเกษตร เลี้ยงสัตว์ แต่ที่ผ่านการตรวจสารพิษแล้วไม่มีก็เป็นสินค้าส่งออก) ทุกข์ทรมาน อยู่บนโลกสมัยใหม่ เพราะขาดการเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองอย่างแท้จริง
ต้องขอขอบคุณ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง เป็นอย่างสูงครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบติดตามบทความของท่าน บนบล๊อคเช่นกัน ทำให้ได้ความรู้มาก
ด.ต. ธีรกานต์ฯ /รุ่งอรุณ