ตื่นเช้านี้...สายฝนพรำ พรำ ... ชุ่มชื่นชุมฉ่ำแต่เช้า
ความคิดผลุด และปรากฏขึ้น จึงวางงานบางอย่างไว้ก่อนและเขียนในสิ่งที่... ได้วิเคราะห์ พิจารณา
เฮฮา + ศาสตร์ = ??
เฮฮา...แค่คำฟังดูนั้นสนุกสนาน มีความสุข รื่นเริงบันเทิงใจ เน้นไปเส้นทางแห่งความสุข บุคคลที่สามารถจะเฮฮา หรืออยู่ร่วมในก๊วนเฮฮาได้นั้น น่าจะเป็นผู้ที่มีพื้นฐานทางจิตใจที่มีความสุขในระดับที่สามารถแบ่งปันได้ ทัศนคติ ต่อการเข้าร่วมกลุ่มก๊วนนั้น อยู่ภายใต้น้ำจิตน้ำใจที่ดีพอสมควร มองชีวิตเป็นเรื่องที่รื่นรมย์...
ศาสตร์... อาจไม่จำเป็นต้องพูดมากมาย เพราะเพียงแค่เอ่ยนี่ก็ดูโน้มเอียงไปทางด้านวิชาการแน่นอน... เป็นฐานของความรู้ ความเชี่ยวชาญ ความชำนาญ... บุคคลใดมีศาสตร์ทางด้านใด... บุคคลนั้นก็จะมีความชำนิชำนาญในศาสตร์ทางด้านนั้น
เฮฮา...หรือ ศาสตร์ ...บุคคลมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากไปก็เกิด “ความไม่พอดี”...
บุคคลที่มีศาสตร์...และมีเฮฮามาด้วย..นี่ ถือเป็นความโชคดี เพราะ....สมองสองซีกได้คอยปรับเข้าสู่ความสมดุลในการทำงานทั้งทางด้าน...เหตุและผล และความสุนทรียะในอารมณ์
ดิฉันจึงมองว่า...เมื่อไรก็ตาม...ที่คนเรานำชีวิตด้วยความทั้งรื่นเริง และด้วยความที่มีจิตแห่งความสุขแล้ว...การทำงานของสองด้านนี้ต่างจะช่วยส่งและเสริมกันให้ทำงานมากยิ่งขึ้น
ใจที่มีสุข...นำ จะคิดจะทำอะไรก็ปลอดโปร่ง ลื่นไหล แม้จะเจอปัญหาและอุปสรรค ก็มักจะมีทัศนคติที่ดีต่อปัญหาและอุปสรรคนั้น เพราะโน้มเอียงไปทางด้าน “จิต” ที่เป็นบวก...มากกว่าคนที่มักรู้สึกว่าตนเองนั้นเต็มไปด้วยความทุกข์
ศาสตร์นั้นดี...พาชีวีทำมาหากินและเลี้ยงชีพได้ แต่นั่นไม่ใช่ความเป็นทั้งหมดของชีวิต ... หากแต่ก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญต่อสังคม ดังนั้น หากบุคคลนำศาสตร์มาใช้ได้อย่างลื่นไหล ภายใต้ความสุขนี้ แล้ว...ศาสตร์ที่มีก็ยิ่งแตกหน่อก่อผลมากขึ้น เพราะเกิดการต่อยอดทางปัญญาในศาสตร์ตน อันมาจากการเชื่อมโยงความรู้ทั้งเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน... และที่สำคัญ...การจะรับความรู้หรือศาสตร์ใหม่ๆ เข้ามาได้นั้น จิตใจต้องเบิกบานผ่องแผ้ว...พร้อมรับสิ่งต่างๆ แบบไม่น้ำล้นแก้ว...หากแต่เป็นแก้วที่สามารถเติมได้อยู่เสมอ
สวัสดีตอนเช้าค่ะ
มาอ่านความคิดดีดีตอนเช้า
จะได้ฝึกใช้สมอง 2 ซีก พร้อมกัน
จะสามารถมี...เฮฮาศาสตร์ได้พอดีค่ะ
อรุณสวัสดิ์ค่ะ...พี่แก้ว...
เช้านี้เบิกบานค่ะ...ดีใจที่ได้เจอพี่แก้ว...กับอากาศที่สดชื่นชุ่มฉ่ำในตอนเช้า...
...
เป็นว่า...เดี๋ยวเราจะได้เฮฮาศาสตร์ร่วมกันนะคะพี่แก้วขา...
(^____^)
วันนี้กะปุ๋ทมมีภารกิจเป็นวิทยากรกระบวน KM ที่ มรภ.ราชภัฏอุบลราชธานีค่ะ...เย็นหากไม่ค่ำมาก..ก็กลับขอนแก่นค่ะ..หรืออาจจะนอนกับคุณแม่ที่ยโสธร...
ขอไปเตรียมตัวก่อนนะคะ
กะปุ๋ม
ใจที่มีสุข...นำ จะคิดจะทำอะไรก็ปลอดโปร่ง ลื่นไหล แม้จะเจอปัญหาและอุปสรรค ก็มักจะมีทัศนคติที่ดีต่อปัญหาและอุปสรรคนั้น เพราะโน้มเอียงไปทางด้าน “จิต” ที่เป็นบวก...มากกว่าคนที่มักรู้สึกว่าตนเองนั้นเต็มไปด้วยความทุกข์
เพราะทุกข์ ทำให้สามวันนี้ ตัวเองทำงานไม่ได้ดีเลย ใจก็ยิ่งทุกข์ อยากวางทุกข์ ยอมรับว่ายากค่ะ
ผมชอบบันทึกของพี่มากครับ..ได้ความรู้ ความคิดแนวทางการปรับปรุงตนเองดีมากครับ ....
หนูกะปุ๋ม
อาจารย์เพิ่งกลับมา เลยมาจอดพักอ่านของหนูก่อน
อาจารย์เป็นพวกศิลปะ สมองซีกซ้ายมักโตกว่าขวา แต่ไหงถนัดซ้ายก็ไม่รู้
ตอนเรียนอยู่ศิลปากร ก็ถูกหาว่าผ่าเหล่า ดูไม่ค่อยเป็นตีส เพราะค่อนข้างเป็นนักวิชาการ มีเหตุผลนำความรู้สึก
ตอนทำงานก็ถูกหาว่า เป็นตีส เพราะคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน
เลยเป็นตัวของตัวเอง :) ดีฝ่า
ชอบแนวเฮฮาศาสตร์ที่หนูเขียน คือรวมคนที่มีศาสตร์มาเฮฮา
หากรวมแต่คนเฮฮาที่ไร้ศาสตร์...จะเหมือนเดินอยู่ในคาเฟ่ :)
สังเกตให้ดี เดี๋ยวนี้วงการตลกเฟื่องฟู ที่บ่งบอกนัยของสังคมว่าเครียด อาจเต็มไปด้วยศาสตร์ที่กระด้างเกินไปกระมัง?
สวัสดีค่ะ น้องกะปุ๋ม