(ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
การให้สำคัญกว่าการรับ เมื่อให้..จะอิ่มเอิบในหัวใจอย่างประหลาด การให้ส่วนใหญ่เป็นการให้จากความพร้อมทั้งกายและใจ รวมถึงกำลังทรัพย์ จึงง่ายที่จะให้ บนพื้นฐานความปรารถนาดี ความห่วงใย เพราะรักหรือพึงใจ
แต่บางคราวต้องกล้ำกลืนให้ แก่ผู้ที่ไม่พร้อมจะให้ ไม่อยากให้ ไม่พึงใจ เนื่องจากไม่ชอบหรือเกลียดชัง การให้จึงอาจเป็นได้ 2 แบบ กล่าวคือ
1.ให้แก่ผู้ที่รักหรือพึงใจ
2.ให้แก่ผู้ที่ไม่ชอบ เกลียดชัง หรือไม่อยากให้
การให้เหล่านี้ ทำให้เกิดคำถาม..การให้แบบใดสำคัญกว่า ยิ่งใหญ่กว่า แบบใดเป็นการให้อย่างแท้จริง
คำตอบน่าจะเป็นการให้แก่ผู้ที่ไม่ชอบ เกลียดชัง หรือไม่อยากให้ เพราะเป็นการให้-ที่ให้กว่า อิ่มเอิบหัวใจกว่า เนื่องด้วยต้องผ่านการต่อสู้กับจิตใจ และต้องชนะใจตัวเองแล้วเท่านั้น จึงให้ได้..
การฝึกปรือจิตใจที่ดีวิธีหนึ่ง คือการให้ โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่อยากให้..
ควรให้ด้วยความเต็มใจจะดีกว่าเพราะความสุขใจจะเกิดทั้งผู้ให้และผู้รับ จริงเปล่า....
แวะมาอ่านบทความแล้ว ก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง
"การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ" ผู้ให้เป็นสุข แต่ผู้รับเป็นทุกข์มากกว่า เพราะต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่าเมื่อไรจะมีโอกาสได้ตอบแทน หรือจะตอบแทนด้วยวิธีการใดบ้าง ดังนั้นเราจะสบายใจ ภูมิใจ เมื่อเราเป็นผู้ให้ ถึงแม้ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม