มาอนุโมทนาในกุศลครับ
เรื่องพระมหาชนกนี้เป็นตัวอย่างที่น่าศึกษามาก
และชื่นชมที่อาจารย์เขียนได้ละเอียดและมีประเด็นชัดเจน
เห็นด้วยว่า เยาวชนน่าจะหันมาศึกษาครับ แต่คงต้องอาศัยผู้ใหญ่ช่วยชี้และแนะนำ
เชิญชวนคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน เริ่มต้นที่ลูกของท่านครับ
ท่านคณบดีพิชัย ครับ
ผมเห็นด้วยครับว่า พ่อแม่คือบุคคลสำคัญที่จะนำลูกให้มาสนใจอ่านและนำสารธรรมไปปฏิบัติ ตอนนี้บ้านเมืองเราต้องการสารธรรมสำคัญอย่าง "พระมหาชนก" นี้มากครับ ขอบคุณครับที่ท่านแสดงความคิดเห็นตรงกับใจของผมมากทีเดียวครับ
สวัสดีครับ คุณ Little Jazz
สำนวน "ราชรถมาเกย" ก็น่าจะมาจากเรื่องนี้เพราะถ้าพิจารณาจากความเก่าแก่ของนิทานชาดกที่มีมาในพระไตรปิฎกแล้ว ก็ถือว่าเก่าแก่แต่ครั้งพุทธกาล ผมเห็นด้วยครับ
ถ้าไปอ่านเนื้อเรื่องมหาชนกชาดก ก็จะพบว่าบรรดามหาอำมาตย์ ข้าราชบริพาร ได้แต่งราชรถแล้วให้ม้าขับไปตามแต่ใจปรารถนาและแรงศรัทธาตามคำเสี่ยงทาย ม้าราชรถหยุด ณ ที่ใด คนใด ก็ถือว่าคนนั้นมีบารมีสมดังคำเสี่ยงทาย คนนั้นก็จะถูกอัญเชิญขึ้นเป็นกษัตริย์ ในเรื่องมหาชนกก็เป็นเช่นนี้ครับ แต่มิใช่เรื่องง่ายครับ เพราะพิธีเสี่ยงราชรถหากษัตริย์จะต้องรอบคอบรัดกุม มีพิธีการขั้นตอนมากมาย การคัดเลือกม้าก็ดี พราหมณ์ผู้ทำพิธีก็ดี เครื่องประกอบพิธีก็ดี ต้องคัดเลือกอย่างดี เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นได้ผู้ไม่เหมาะสมขึ้นมาเป็นกษัตริย์
ในเรื่องพระมหาชนก เมื่อราชรถมาหยุด ณ พระมหาชนกแล้ว ก็ไม่ใช่จะอัญเชิญขึ้นครองราชบัลลังก์นะครับ แต่ต้องผ่านด่านทดสอบปัญญาด้วยการไขปริศนาที่ปราชญ์ของเมืองมิถิลาได้ตั้งขึ้นอีกหลายข้อได้ถูกต้องทั้งหมด รวมทั้งมีเงื่อนไขว่าจะต้องอภิเษกกับพระราชธิดาของกษัตริย์ และต้องเป็นที่พึงพอใจของพระราชธิดาด้วย
ปัจจุบัน สำนวน "ราชรถมาเกย" ไม่ได้ใช้ในความหมายแต่เดิมแล้ว แต่มาใช้ในความหมายกว้างว่า ได้รับโชควาสนาให้ได้ครองตำแหน่งใหญ่โตโดยไม่คาดฝัน เป็นต้น ครับ