หลังจากวางแผนการเดินทางล่วงหน้ามากว่า 2 สัปดาห์ เริ่มจากสมาชิกกว่า 20 คนในตอนแรก พอถึงวันเดินทางจริง(วันที่ 19-20 ส.ค. 2550) ก็เหลือ อยู่ 3 คน ได้แก่ พี่คนอง พี่หมู และผม(ชัย) หลังจากลงประชามติเสร็จเรียบร้อย จึงออกเดินทางสู่ จ.กำแพงเพชร เพื่อไปแสวงหาประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ณ อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า
ความปวดเมื่อยจากการเดินทางสลายไปในพริบตาเมื่อได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติอันเกิดจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์และธรรมชาติ บริเวณกางเต็นท์อันมีสายน้ำธรรมชาติที่ไหลจากน้ำตกคลองวังเจ้าและการจัดสวนที่แสนรื่นรมย์
เช้าวันใหม่ ท้องฟ้าอันสดใส เหมือนสิ่งศักสิทธิ์อวยพรชัยให้แก่พวกเรา เพราะถ้าฝนตกเราจะไม่สามารถเดินทางเข้าสู่น้ำตกเต่าดำได้ เนื่องมาจากสภาพของถนนที่ออกแนวออฟโร้ด นั้นเอง
หลังจากเดินทางกว่า 32 กม. ผ่าน
บ้านโละโคะ บ้านป่าคา เราก็มาถึงทางเข้าน้ำตกเต่าดำ
อันมีป้ายบอกทางอันแสนประทับใจว่า "น้ำตกเต่าดำ ระยะทาง 300ม.
ทางชันมาก" แต่ผมว่ามันชันสุดๆ เลย
30 นาที อันสมบุกสมบัน ผ่านไปเราก็ได้ยินเสียงน้ำตกให้ชื่นใจ และแล้วเราก็พบกับน้ำตกเต่าดำ น้ำตกที่ตกจากที่สูงกว่า 300m อันยิ่งใหญ่ตระกานตา สมแล้วกับความยากรำบากในการเดินทาง
หลังจากชื่นชมกับความยิ่งใหญ่ ของธรรมชาติที่สวยงาม กันอย่างเต็มที่ เราก็ต้องเร่งเดินทางกลับ เพราะท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับกลายเป็นเมฆฝน เหมือนกำลังโกรธที่เราได้รุกล้ำเข้าไปยังดินแดนต้องห้าม แต่...
ท้องฟ้ากลับสดใส หลังจากเราเดินทางออกจากตัวน้ำตก มาได้ระยะทางหนึง
ขอขอบคุณพี่อดุลย์ เจ้าหน้าที่อุทยาน ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและคำแนะนำในการเดินทาง
ข้อมูลเพิ่มเติม
---------------------------------------------------------------------------------------
อุทยานแห่งชาติ คลองวังเจ้า อ.กิ่งอำเภอโกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร โทรศัพน์ 055-719318-9 , 055-719200 , 055-719244
ค่าเช่ารถเข้าไปสู่น้ำตกเต่าดำ จากที่ทำการอุทยาน ราคา 3000 บาท ถ้าค้างคืน 3500 บาท แต่ขอแนะนำว่าไม่ควรค้างคืนบริเวณน้ำตำ เพราะห้องน้ำไม่สะดวก และ เราสามารถเดินทางเข้า-ออก ได้ภายใน 1 วัน
เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะไปผจญภัยมาด้วยกัน
สุดยอดของสุดยอดเลยหละ
อยากแนะนำให้ไปนะ ครั้งหนึ่งในชีวิต
แต่ถ้าจะให้ดีต้องเจอฝนนะ ถึงจะสุดๆๆๆๆๆยอด
เล่าได้ดี ภาพสวย เหมือนได้ไปด้วยเลยครับ ถ้ามีโอกาสทริปหน้าก็อย่าลืมชวนกันบ้างนะครับ
ถ่ายภาพได้สวยค่ะ เห็นบรรยากาศแล้ว น่าไปจัง
สวยมาก ๆ ครับ แหม...ไม่เสียแรงที่ตลุย บุกบ่าฝ่าฟันกันตั้ง ๓๐ กว่าโลอันหฤโหดขนาดนั้น ไม่มีเวลาว่างที่จะไปด้วยเลยครับ น่าเสียดายแท้......
ขอบคุณมากครับที่เอารูปสวย ๆ มาให้ชม
ผมไปมาแล้วครับสวยมากเลยครับตอนนี้เขามีโครงการสถานีพัฒนาเกษตรพื้นที่สูงตามแนวพระราชดำริบ้านป่าคา
เข้าไปแล้วนะครับเขากำลังดำเนินการอยู่ทาง อบจ.เขาเข้าไปทำทางแล้วนะครับทางดีขึ้นกว่าเดิมมากตอนนี้ผม
ทำงานอยู่ในพื้นที่โครงการนะครับไปเที่ยวทุกวันเลยสวยมากๆอยากให้ไปเที่ยวกันเยอะๆครับ
ขอขอบพระคุณ คุณกริช แก้วศิริ มากครับ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ถ้ารถเก๋งเข้าไปได้คงดีมากๆ (ที่บ้านผมมีแต่รถเก๋ง) อยากไปอีก นะครับ ยังประทับใจอยู่ อย่างมาก
ไปมาแล้วค่ะ กลัวมาก 30กม.ใช้เวลา2.5 ชม. รถไม่ใช่ 4WD VIGO เครื่อง 3000 ทางสวนไม่ได้ต้องบีบแตรตลอดทาง เป็นการส่งสัญญาณให้กับคนในพื้นที่ที่เขาชำนาญเส้นทาง มี 5 สะพานไม้แบบพอดีล้อ พลาดนิดเดียวตกแน่ แถมลุยป่าข้าวโพดแบบชนิดที่สูงท่วมหัวเลย ทางช่วงข้ามเขาก็เทปูน แบบพอดีล้อ เทเป็น 2 เส้น จะเทตรงกลางให้เต็มก็ไม่ได้ เสียวสุด ๆ แต่ก็ผ่านมาได้ค่ะ สวยมาก ทางลงไปน้ำตกก็ชันมาก ต้องใช้เชือกที่ผูกไว้ให้ พยุงตัว ระยะทาง 300 ม.แต่เหนื่อยสุด ๆ เลย เป็นเพราะแบบนี้แหละถึงยังคงความงามอยู่แบบสมบูรณ์แบบ