เครื่องมือการจัดการความรู้วิธีที่ 5 ที่ป้านางใช้ในการจัดกิจกรรม KM ที่โรงเรียนจ่านกร้อง คือ การประเมินสมรรถนะตนเองตามตารางแห่งอิสรภาพ จากเครื่องมือที่ 4 จะได้ตารางแห่งอิสรภาพ แต่ละกลุ่ม KM จะนำตารางนั้น มาประเมินสมรรถนะตนเอง หรือขีดความสามารถของตนเอง เป็นการประเมินอย่างอิสระ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ตารางแห่งอิสรภาพ กิจกรรมกลุ่ม KM จะยุติลงชั่วคราว เมื่อสมาชิกประเมินตนเองเสร็จเรียบร้อย เป็นหน้าที่ของครูนักจัดการความรู้ของกลุ่ม ที่จะนำผลการประเมินตนเองของสมาชิกทุกคน มาวิเคราะห์โดยโปรแกรมที่เรียกว่า River Diagram เป็นเครื่องมือการจัดการความรู้วิธีที่ 6 เรียกว่า การสร้างธารปัญญา ซึ่งป้านางนำโปรแกรมนี้มาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยปรับข้อมูลตามข้อมูลของสมาชิกกลุ่ม KM ที่ประเมินตนเองไว้ โปรแกรมจะแสดงการกระจายของระดับขีดความสามารถหลักของสมาชิก KM ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อบรรลุเป้าประสงค์คือหัวปลา แผนภูมิที่ได้จากโปรแกรมจะมีลักษณะคล้ายลำธาร ความกว้างของลำธารเป็นตัวบอกความแตกต่างของขีดความสามารถของสมาชิก ถ้าขีดความสามารถด้านใดของกลุ่มอยู่ค่อนมาทาง "ฝั่งเหนือ" กลุ่มนั้นก็จะอยู่ในฐานะ "ผู้แบ่งปันความรู้"นั้น ถ้าด้านใดอยู่ค่อนมาทาง "ฝั่งใต้"บอกให้รู้ว่าด้านนั้น กลุ่มอยู่ในฐานะ "ผู้เรียนรู้" โปรแกรม River Diagram จะสร้างบันได แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในแต่ละด้านให้ด้วย ซึ่งเป็นเครื่องมือการจัดการความรู้ที่ 7 การสร้างบันไดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สิ่งที่บันไดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ บอกเราก็คือ ขีดความสามารถแต่ละด้านของสมาชิก อยู่ระดับใดของบันได ควรจะจับคู่แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกคนใดในกลุ่ม KM ของเรา เมื่อครูนักจัดการความรู้ของกลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลแล้ว จะจัดประชุมกลุ่ม KM ขึ้นอีกวาระหนึ่ง นำเสนอให้สมาชิกกลุ่ม KM ทราบผลการสร้างธารปัญญาและการสร้างบันไดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทราบตำแหน่งปัจจุบันของตนเอง และพร้อมที่จะพัฒนาตนเองต่อไป สมาชิกจะนัดหมายการประชุมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนาขีดความสามารถของตนเองให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งแล้วแต่กลุ่มสมาชิกจะตกลงกัน บางกลุ่มนัดประชุมสัปดาห์ละครั้ง บางกลุ่มนักประชุมสัปดาห์เว้นสัปดาห์ และเลือกสถานที่ประชุมที่สมาชิกสะดวก
แล้ววันต่อไปป้านางจะเขียนเล่าว่าแล้วโรงเรียนจ่านกร้องทำกิจกรรม KM ต่ออย่างไร