Knowledge Sharing


ไม่มีวิธีการที่ตายตัว หรือไม่มีวิธีการใดเป็นสูตรสำเร็จการที่จะนำ KM มาปรับใช้ในองค์กร เพียงแต่ว่าเราจะปรับให้เข้ากับบริบทของโรงงานเราอย่างไร
วันนี้มีโอกาสในการได้ร่วมงานที่ KM Sharing ของบริษัทในกลุ่มรวมถึงได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการ Implement  KM ในรูปแบบต่างๆกัน  โดยส่วนตัวคิดว่าไม่มีวิธีการที่ตายตัว หรือไม่มีวิธีการใดเป็นสูตรสำเร็จการที่จะนำ KM มาปรับใช้ในองค์กร เพียงแต่ว่าเราจะปรับให้เข้ากับบริบทของโรงงานเราอย่างไร          KM ไม่ใช่ MK น่าจะหมายความถึงการที่เราไม่ควรใจร้อน รีบร้อนในการนำ KM มาใช้  KM ไม่สามารถเสริฟใส่จานมาได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ยากจนเกินทีเราจะหามากินไม่ได้ หรือสั่งไม่ได้        KM เป็นศิลปะ  เป็นศาสตร์ที่เราเรียนแล้วนำมาใช้ได้ทันที  ยิ่งใช้ก็ยิ่งจะเพิ่มพูนประสบการณ์ เหมือนมีด ที่ยิ่งใช้ก็จะคมมากขึ้นทุกวัน ทุกวัน          KM คนที่ริเริ่มต้องทำแล้วสนุก  หากทำแล้วไม่สนุก เกิดทุกข์ในใจ ทุกครั้งที่พูดถึง เราก็คงต้องถึงคราวหาวิธีการใหม่ในการ  Implement  KM หรือเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามให้มันเลย        จากที่ผ่านมาปีกว่าๆ   เราไม่ได้บอกพนักงานเลยว่าเรากำลังเริ่ม LO&KM แล้วนะ  แต่เราได้ค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในกระบวนการเรียนรู้  เปลี่ยนวิธีการเรียนรู้แบบใหม่  ใช้การเรียนการสอนที่แปลกๆ จัดกิจกรรมที่พนักงานงงๆ ว่าเราจะทำอะไรกัน แม้แต่ทีมที่จัดก็ไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจน  บางทีผู้บริหารก็งงกับทีมนี้ ว่ามันมีอะไรแปลกๆมานำเสนออยู่เรื่อยๆ ส่งเรื่องราวที่เห็นว่าพอมีประโยชน์ อ่านแล้วกระตุ้นต่อมความรู้สึกบ้างมาให้ผู้บริหารได้อ่าน หา VDO เรื่องราวที่เกี่ยวกับการเรียนรู้แอบๆส่งให้ผู้บริหารได้ดู  ปรับโหมดของจิตใจให้ดูความเป็น ความตายผ่านเรื่องราวสินามึ และอีกหลายเรื่อง  ทำให้หลายๆคนเริ่มหันมาสนใจในความรู้สึกของพนักงานมากขึ้น        แต่ไม่ใช่ว่าเราทำสำเร็จนะคะ  เรากำลังเริ่มต้นต่างหาก  หากการเริ่มต้นของหลายๆองค์กรมาจากการนำระบบมาวาง แล้วจับพนักงานใส่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น แต่ที่นี่ เรากำลังทำให้คนเกิดความรู้สึกที่อยากรู้อยากเห็น อยากเรียนรู้ เหมือนเด็กที่เพิ่งเริ่มไขว่ขว้า หาสิ่งแปลกใหม่ให้ชีวิต คืนความสนุกสนานในชีวิตการทำงานให้กับพวกเขา  เราคิด (เอาเอง) ว่า คนเราสนุก  เขาจะมีความสุขพร้อมที่จะเรียนรู้ได้มากมาย        LO&KM เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจริงๆ  ต้องใช้ศาสตร์หลายๆศาสตร์มาผสมผสานกัน  ใช้ศิลปะทุกอย่างที่มีมาหลอมรวมกัน  ถึงตอนนี้เรายังมองเห็นว่า มีอีกหลายต่อหลายวิธีการหรือหลายโครงการที่จะนำพาให้การนำกระบวนการ  KM มาปรับใช้ อยู่ที่เราว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ดีแค่ไหน           แต่ที่สำคัญกว่า ทีมที่ริเริ่มจะเปลี่ยนแปลง นอกจากต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้อินกับเรื่องที่เรากำลังทำแล้ว เราต้องเชื่อมั่นในความดีงาม เชื่อมั่นในสิ่งที่กำลังทำ หากไม่มีความเชื่อมั่น คำพูดที่ถามเข้ามา หรือการที่มีคนไม่เห็นด้วยจะทำความคลอนแคลนในหัวใจให้เราท้อแท้ได้ง่ายๆ           เราจะเรียนรู้ หรือนำพาคนอื่นให้คิดใหม่ ทำใหม่ได้อย่างไร ถ้าเรายังไม่คิดที่จะเรียนรู้ ไม่สร้างองค์ความรู้ ไม่คิดที่จะพัฒนาตัวเอง
หมายเลขบันทึก: 121717เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2007 11:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท